จับตารถ EV จีนที่อาจโค่น Tesla ในอนาคต

ตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเติบโตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ซึ่งในปี 2020 ที่ผ่านมามียอดขายรวมอยู่ที่ 1.3 ล้านคัน หรือคิดเป็น 41% ของตลาด EV ทั่วโลกเลยทีเดียว ขณะที่ยอดขายในปีนี้ก็กำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ตอนนี้ Tesla อาจเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่มีชื่อเสียงที่สุด แต่ขณะเดียวกันแบรนด์จากจีนก็กำลังตามมาอย่างรวดเร็วและเริ่มเป็นที่จับตามองของตลาดต่างประเทศ

ท่ามกลางคำถามจากหลายคนที่กำลังจับตามองว่าผู้ผลิต EV ของจีนจะสามารถสร้างความสำเร็จทั้งในแง่ของราคา และเทคโนโลยีให้ประสบความสำเร็จในตลาดทั้งในและต่างประเทศได้หรือไม่

Sa Boni ผู้อำนวยการด้านยานยนต์จีนจากบริษัท IHS Markit ถึงกับเอ่ยปากว่า "ไม่คิดว่า Tesla จะสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาด EV ในประเทศจีนได้นาน เพราะมีสตาร์ทอัพรายใหม่จำนวนมากที่ผลิต EV ที่ยอดเยี่ยม มันเป็นเพียงแค่เรื่องของภาพลักษณ์และการจดจำแบรนด์"

และความคิดนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อรถ EV ที่ขายดีที่สุดในโลกในรอบ 2 เดือนแรกของปี 2021 ไม่ใช่ Tesla แต่กลับเป็น Wuling Hongguang Mini EV รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดสัญชาติจีน

ด้วยราคาน่าคบหาคันละประมาณ 130,000 ถึง 150,000 บาทจึงทำให้ขายดีแซง Tesla Model 3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ขายดีที่สุดของ Tesla ไปได้อย่างสบายๆ

ผู้ผลิต EV จากจีนค่อนข้างประสบความสำเร็จในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศและกำลังไปได้ดีทีเดียว ซึ่งในหลายเมืองรถยนต์ไฟฟ้าสามารถหาซื้อได้ง่ายกว่ารถทั่วไป โดยในปี 2020 ที่ผ่านมารถยนต์พลังงานไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ 6.3 ของตลาดรถยนต์ทั้งหมดในประเทศจีน

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์สัญชาติจีนอีกหลายแห่งที่เตรียมท้าชน Tesla ในอนาคต รวมถึงสตาร์ทอัพอย่าง Li Auto, Nio และ Xpeng

Li Auto มีความเชี่ยวชาญในรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งแตกต่างจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนได้ทั้งน้ำมันเบนซินและไฟฟ้า โดยตอนนี้มีได้ผลิตรถ SUV ออกมา 1 รุ่น คือ Li Xiang One ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับที่ 8 ในปี 2020 ด้วยยอดขายทั้งสิ้น 33,186 คัน ขณะที่ยอดขายของ Tesla Model 3 อยู่ที่ 139,925 คัน

แม้จะยังห่างกันอยู่มากแต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งส่งผลให้ยอดขายของ Li Xiang One เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 300

ขณะที่ Nio ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 เน้นการผลิต SUV และรถสปอร์ตระดับไฮเอนด์ โดยภายหลังเกิดตัวมีบริษัทหลายแห่งร่วมลงทุนด้วยไม่ว่าจะเป็น Tencent, Temasek, Baidu, Sequoia, Lenovo และ TPG ซึ่งขณะนี้ผลิตรถยนต์ออกมาแล้ว 4 รุ่น และกำลังจะมีออกมาอีก 4 รุ่นในอนาคต

โดยในปีที่แล้วทำยอดขายได้ถึง 43,728 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 112.6%

ด้าน Xpeng กำหนดเป้าหมายไปที่ผู้บริโภคในวงกว้างและกำหนดราคาให้สามารถเข้าถึงง่าย ซึ่งมีราคาไว้ต่ำกว่า Tesla โดยขณะนี้ผลิตรถยนต์ออกมาแล้ว 4 รุ่นเช่นกันด้วยยอดขาย 27,041 คันในปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 112% จากปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตามหลายคนยังคงเชื่อมั่นและมั่นใจในศักยภาพของ Tesla รวมถึง Aman Madhok นักวิเคราะห์ด้านยานยนต์จาก Counterpoint Research ซึ่งมองว่า "Tesla ยังคงมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในใจผู้บริโภคในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เปรียบเสมือน Apple ในวงการสมาร์ทโฟน ทำให้ Tesla ถูกมองว่ามีคุณภาพดีกว่า ออกแบบดีกว่า ทนทานมากกว่า เมื่อเทียบกับ EV ยี่ห้ออื่น"

AFP PHOTO / CHANDAN KHANNA