posttoday

พ่อค้าน้ำดื่มรวยแซงวอร์เรน บัฟเฟตต์ โค่นเบอร์หนึ่งเอเชีย

06 มกราคม 2564

จงสานส่าน เจ้าของธุรกิจน้ำดื่มจากจีน มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของเอเชีย รวยแซงวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไร้เงาแจ็ค หม่า

หลังจากที่ร่ำรวยแซงหน้านักธุรกิจชื่อดังอย่างแจ็ค หม่าไปแล้ว ล่าสุด จงสานส่าน (Zhong Shanshan) หรือที่ได้รับการขนานนามในแวดวงธุรกิจว่า "หมาป่าผู้โดดเดี่ยว" ประธานบริษัท "หนงฟู ซานเฉวียน" (Nongfu Spring Co.) เจ้าของธุรกิจน้ำดื่มมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีน สร้างสถิติความร่ำรวยครั้งใหม่ด้วยการแซงหน้าสุดยอดนักลงทุนระดับโลกอย่างวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ตั้งแต่ต้นปี

จง วัย 66 ปี ก่อตั้งบริษัทหนงฟู ซานเฉวียน เมื่อปี 1996 และที่มาของชื่อหมาป่าผู้โดดเดี่ยวนั้นเป็นเพราะเขามักจะตีตัวออกห่างจากการเมืองและสังคมของนักธุรกิจคนอื่นๆ เส้นทางชีวิตของเราฟังดูแล้วเดียวดายและเต็มไปด้วยขวากหนามเช่นกัน

จงสานส่านต้องลาออกจากโรงเรียนในช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตอนอายุ 12 ปีในช่วงความวุ่นวายของการปฏิวัติวัฒนธรรมที่ทำให้ประเทศจีนเกิดความโกลาหลไปทั่ว ในยุคนั้นผู้คนมากมายถูกลากตัวมาประจานและลงโทษโดยพวกฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง พ่อแม่ของจงที่เป็นปัญญาชนก็ถูกข่มเหงจากเจ้าหน้าที่ทางการและคนทั่วไปเนื่องจากสถานะความเป็นปัญญาชนถูกมองว่าเป็นศัตรูของการปฏิวัติ

หลังจากที่ชื่อเสียงของพ่อแม่ของเขาได้รับการฟื้นฟูหลังการปฏิวัติวัฒนธรรมแล้ว จงสานส่านจึงมีโอกาสได้ทำงานด้านวงวิชาการ เช่น นิตยสารด้านวรรณกรรมและสื่อสารมวลชนโดยการเป็นนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 

เขาหาเลี้ยงตัวเองด้วยการทำงานมาหลากหลายรูปแบบทั้งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง จนกระทั่งในปี 1993 ตั้งบริษัท "หย่างเซิงถัง" (Yangshengtang Pharmaceutical Co) ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์และอาหารโดยเขาสร้างธุรกิจนี้จากที่ไม่มีอะไรอยู่เลยแต่ทำให้มันเป็นบริษัทใหญ่ขึ้นมาได้ 

หนึ่งในธุรกิจในเครือของบริษัทหย่างเซิงถังคือน้ำดื่ม ซึ่งในปี 1996 เขาเริ่มทำน้ำแร่ที่จะเป็นเครื่องดื่มดับกระหายยอดนิยมแบรนด์หนึ่งในจีน โดยใช้แหล่งน้ำจาก "เชียนต่าวหู" หรือทะเลสาบหนึ่งพันเกาะในมณฑลเจ้อเจียง ชื่อของบริษัทในตอนแรกจึงเป็น "เชียนต่าวหู หย่างเซิ่งถัง" จนกระทั่งกลายมาเป็นบริษัทแลแบรนด์หนงฟู ซานเฉวียนในท้ายที่สุด

หลังจากนั้นบริษัทหนงฟู ซานเฉวียนก็ผลิตสินค้าประเภทเครื่องดื่มที่หลากหลายขึ้นเรื่อยๆ เริ่มต้นจากน้ำแร่แบรนด์หนงฟู ซานเฉวียน มาเป็นน้ำแร่จากแหล่งต่างๆ ทั้งในจีนและในต่างประเทศ ผลิตเครื่องดื่มแบบซอฟต์ดริ๊งค์ตั้งแต่น้ำผลไม้ ไปจนถึงน้ำเจือวิตามินและชานม 

เนื่องจากเขาเริ่มต้นจากธุรกิจเวชภัณฑ์มาก่อน ดังนั้นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างความร่ำรวยให้กับเขาคือบริษัทยา Beijing Wantai Biological Pharmacy Enterprise Co. ที่เป็นบริษัทร่วมผลิตวัคซีนโควิด-19 ด้วย ซึ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 2,500%

ขณะนี้ จงสานส่านมีสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 91,700 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 2.7 ล้านล้านบาทตามดัชนีของบลูมเบิร์ก และขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 6 ของโลก

นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มหาเศรษฐีชาวจีนติดโผท็อป 10 ของโลก โดยก่อนหน้านี้คือ หวางเจี้ยนหลิง ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ขึ้นอันดับที่ 8 ในปี 2015 และหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีชาวจีนคนใดที่ติดอันดับดัชนีความมั่งคั่งของบลูมเบิร์กอีกเลย

นอกจากนี้เมื่อไม่นานมานี้เขายังชิงตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของเอเชียมาจากมูเกซ อัมบานี มหาเศรษฐีชาวอินเดียไปได้อีกด้วย

โดยเพียงแค่ช่วง 2 วันแรกที่ตลาดหุ้นเปิดทำการในปีนี้ หุ้นบริษัทน้ำดื่มของเขาเติบโตขึ้นถึง 18%

โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะนี้ธุรกิจในประเทศจีนกำลังฟื้นตัวได้ดีหลังเผชิญกับโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากแย่งชิงหุ้นของบริษัทจากจีนกันอย่างบ้าคลั่ง โดยนักวิเคราะห์มองว่าบริษัทหนองฟู่ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้จงยังช่วยให้ญาติ 4 คนของเขากลายเป็นมหาเศรษฐีไปโดยปริยาย เนื่องจากน้องสาวของเขา และพี่น้องของภรรยาต่างถือหุ้นบริษัทกันคนละ 1.4% ซึ่งคิดเป็นเงิน 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 39,000 ล้านบาท

เรียกได้ว่าที่ผ่านมาบริษัทน้ำดื่มหนงฟูของจงสานส่านได้สร้างมหาเศรษฐีหลายสิบคน ไม่ว่าจะเป็นเครือญาติหรือพนักงานของเขาก็ตาม 

ขณะที่วิกฤตโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างมากในปีที่ผ่านมา แต่มันกลับเป็นโอกาสทองของมหาเศรษฐีระดับโลก โดยบลูมเบิร์กระบุว่ามหาเศรษฐีที่รวยที่สุด 500 คนมีทรัพย์สินสุทธิรวมกันได้ถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในสิ้นปีที่ผ่านมา

ซึ่งจงเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียที่สามารถกอบโกยทรัพย์สินได้ถึง 71,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากที่สุดรองจากอีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลา (Tesla Inc.) และเจฟฟ์ เบโซส์ จากแอมะซอน (Amazon.com Inc.)

เป็นที่น่าสังเกตว่าแจ็ค หม่า ที่เคยเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของเอเชีย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิลดลงประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่เดือนตุลาคม และตอนนี้เขาร่วงลงมาเป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับที่ 25 ของโลก

Photo by www.nongfuspring.com