posttoday

โลกกำลังสูญเสียความมั่นใจในการรับมือโคโรนาไวรัสของไทย

18 กุมภาพันธ์ 2563

วิจัยฮาร์วาร์ดชี้ ไทยมีตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อพิจารณาจากการเดินทางทางอากาศ

ในขณะที่คนไทยยังภาคภูมิใจกับการได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นอันดับที่ 6 และเป็นอันดับ 1 ในประเทศเอเชียด้วยกัน และได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่มีความพร้อมในการรับมือกับโรคระบาดมากที่สุด แต่สายตาชาวโลกกลับไม่ค่อยเชื่อมั่นในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส หรือ Covid-19 ของทางการไทย

ขณะนี้หลายประเทศออกมาตรการเกี่ยวกับไทย อาทิ เกาหลีใต้สั่งให้พลเมืองงดเดินทางมาไทย ไต้หวันเตือนให้พลเมืองที่เดินทางมาไทยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย รวมทั้งตรวจเข้มนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาไทยภายใน 14 วันก่อนที่จะเดินทางเข้าไต้หวัน ส่วนอิสราเอลประกาศให้กักตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากไทยอยู่ที่บ้าน 14 วัน หลังเดินทางถึงอิสราเอล

ประเทศเหล่านี้ไม่สนใจว่าไทยจะมีความพร้อมในการรับมือกับโรคระบาดอันดับที่เท่าไร แต่มองความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในประเทศไทย ซึ่งก็มีผลวิจัยออกมาแล้วว่า ไทยเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดมากที่สุด เพราะเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาจำนวนมาก

หลายคนอาจจะไม่เห็นด้วย เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยตอนนี้น้อยกว่าประเทศอื่น แถมยังรักษาหายไปแล้วหลายคน

แต่เราต้องไม่ลืมว่าจนถึงตอนนี้ทางการไทยยังเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนไม่หยุดนับตั้งแต่มีการระบาด

เป็นไปได้หรือไม่ว่าน่าจะมีผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในไทยมากกว่าตัวเลขที่เปิดเผยออกมา

จากการประเมินของ มาร์ค ลิปซิตช์ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พบว่าไทยมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เมื่อพิจารณาจากการเดินทางทางอากาศ

นอกจากไทยแล้ว การประเมินนี้ยังระบุว่าให้อินโดนีเซียและกัมพูชา น่าสงสัยว่ามีผู้ติดเชื้อน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเช่นเดียวกับไทย

แต่ความมั่นคงด้านสุขภาพของอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 30 ส่วนกัมพูชาอยู่ที่ 89 ห่างจากไทยแบบไม่เห็นฝุ่น

อย่างไรก็ดี ลิปซิตช์ชี้แจงว่า งานวิจัยชิ้นนี้ไม่มีเจตนาเจะหมายหัวประเทศใดประเทศหนึ่ง และแม้แต่สิงคโปร์ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบสาธารณสุขดีที่สุดประเทศหนึ่งและเคยรับมือกับโรคซาร์สมาแล้วยังเกิดความผิดพลาดในการตรวจสอบการติดเชื้อ Covid-19 บางเคส

กรณีอินโดนีเซีย แม้รัฐบาลจะยืนยันหนักแน่นว่ายังไม่พบการติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศ แต่ประชาคมโลกกลับไม่เชื่อมั่น เหตุผลหนึ่งคือ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ รวมทั้งไทยล้วนพบการติดเชื้อแล้วหลายราย

แต่ละปีอินโดนีเซียรับนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศราว 2 ล้านคน ส่วนใหญ่ไปอยู่ที่บาหลี และจนถึงสัปดาห์ที่แล้วสถานกงสุลจีนในบาหลีเผยว่ายังมีชาวจีนอีก 5,000 คนติดค้างอยู่ที่บาหลี ในจำนวนนี้เป็นชาวเมืองอู่ฮั่น 200 คน

แล้วจะเป็นไปได้หรือที่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะไม่พาเชื้อ Covid-19 เข้ามาด้วย เพราะเดินทางออกมากันตั้งแต่ช่วงที่เชื้อเริ่มระบาด

คำถามนี้ลิปซิตช์สรุปตอบไว้ในผลสรุปของการประเมินว่า จากการวิเคราะห์ทางสถิติ เชื้อ Covid-19 เดินทางมาถึงอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อจากที่อื่นเข้ามา (imported case) ส่วนใหญ่ล้วนมีประวัติการเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน ซึ่งชี้ว่าปริมาณการเดินทางทางอากาศมีส่วนสำคัญที่ทำให้เชื้อแพร่กระจายนอกจีน

นอกจากนี้ ลิปซตช์ยังตั้งสมมติฐานว่าที่อินโดนีเซียไม่มีรายงานการติดเชื้อสืบเนื่องมาจาก มีเคสของ imported case ที่หลุดรอดไป โดยอ้างรายงานของหนังสือพิมพ์ Sydney Morning Herald ของออสเตรเลียที่ระบุว่า อินโดนีเซียเพิ่งจะมีชุดทดสอบการติดเชื้อ Covid-19 เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเหตุผลสนับสนุนสมมติฐานนี้

แม้แต่ ยูซุฟ คาลลา ประธานกาชาดอินโดนีเซียยังเอ่ยว่า สิงคโปร์ที่มีการตรวจเข้มยังพบการติดเชื้อ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าเชื้อโคโรนาไวรัสแพร่มาถึงอินโดนีเซียแล้ว แต่ชาวฮินโดนีเซียอาจคิดว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาหรือไข้เลือดออก

ทว่า เตราวาน อากุส พุตรานโต รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียยังเชื่อมั่นว่าที่อินโดนีเซียไม่พบการติดเชื้อก็เพราะ “ พระเจ้า เพราะเราสวดมนตร์” ซึ่งคำอธิบายนี้ก็ยิ่งสร้างความฉงนให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินโดนีเซียเคยล้มเหลวในการรับมือกับโรคไข้หวัดนก (H5N1) จนองค์การอนามัยโลกต้องยื่นมือเข้ามาช่วย

สำหรับประเทศไทย นับตั้งแต่เชื้อ Covid-19 ระบาด รัฐบาลไทยไม่เคยห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศและยืนกรานไม่ยกเลิกการออก visa on arrival เพื่อจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวจีน เพราะห่วงความสัมพันธ์กับจีนและจะกระทบการท่องเที่ยว

ขณะที่ประเทศอื่นต่างยกระดับเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจีน  อาทิ สิงคโปร์ ห้ามนักท่องเที่ยวที่ถือพาสปอร์ตจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีน สหรัฐห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาจากจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ห้ามนักท่องเที่ยวจากมณฑลหูเป่ยที่เป็นจุดศูนย์กลางการระบาด

ช่องโหว่นี้หรือเปล่าที่ทำให้ต่างชาติไม่เชื่อมั่นในศักยภาพการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ของไทยจนพากันหนีหายไป