posttoday

ผวจ.ประจวบฯเข้มโควิด-19ออกจากบ้านไม่สวมแมสก์ปรับหนัก

04 เมษายน 2563

ประจวบคีรีขันธ์-ผู้ว่าประจวบฯ เข้มคุมโควิด-19 สั่งปิดโรงแรม ห้ามเรือนอกจังหวัดเทียบท่า ประชาชนออกนอกบ้านต้องสวมแมสก์ฝ่าฝืนปรับ 20,000บาท

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกคำสั่งเพิ่มเติมที่ 3861/2563 เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ดังนี้

1.ให้ทุกอำเภอจัดตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ตำบล หมู่บ้านชุมชน ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เพื่อสกัดกั้นการเข้า-ออก ของบุคคลที่มีความเสี่ยง กรณีมีเหตุสงสัยว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด 19 ให้ดำเนินการกักตัว คุมตัวไว้สังเกตอาการ และให้มารับการตรวจตามมาตรา 34(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พุทธศักราช 2558

2.ให้ตรวจสอบและตรวจตราการชุมนุม การทำกิจกรรม หรือการมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการอันเป็นการยุยงส่งเสริมความไม่สงบโดยเคร่งครัด ตามข้อกำหนด

3.ปิดโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พุทธศักราช 2547 ทุกประเภท และสถานประกอบการที่ให้บริการในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นโรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม หรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการ หรือใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคโควิด- 19

กรณีโรงแรมมีผู้เข้าพักอยู่ก่อนจะมีคำสั่ง ให้ผู้เข้าพักสามารถเข้าพักต่อไปได้จนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องพักจนหมด แล้วให้ปิดทันทีโดยไม่ให้มีการรับผู้เข้าพักเพิ่มอีก และเพื่อประโยชน์ในการตรวจคัดกรองโรคให้โรงแรมที่ยังมีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่แจ้งจำนวนและรายชื่อผู้เข้าพัก พร้อมทั้งวันที่ครบกำหนดที่ต้องออกจากห้องพักให้อำเภอทราบ หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด 19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกันหรือคุมไว้สังเกตอาการ

4.กำหนดมาตรการป้องกันการเกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ หรืออาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป โดยกำหนดให้ประชาชนในเขตจังหวัดทุกคน ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าก่อนออกจากบ้านทุกครั้งหากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 20,000 บาท

5.ห้ามมิให้เรือที่แจ้งออกมาจากต่างจังหวัดแจ้งเข้าท่าในเขตจังหวัด ยกเว้นมีเหตุจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัย กรณีเรือประมงพื้นบ้านที่จะออกทำการประมงในห้วงเวลาเคอร์ฟิว ให้แจ้งประสานกำนันผู้ใหญ่บ้านเพื่อแจ้งการเข้า-ออกในพื้นที่ ส่วนการทำเกษตรในช่วงเคอร์ฟิว เช่น ประมง ให้ขออนุญาตโดยวาจากับเจ้าพนักงาน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ในพื้นที่

ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พุทธศักราช 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพุทธศักราช 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2563 เป็นต้นไป