posttoday

"หากเกิดกับตัวเองบ้างจะรู้สึกอย่างไร" จากลูกสาวลุงในรถพยาบาลถึงเก๋งแดงขับรถขวาง

08 เมษายน 2561

ครอบครัวลุงในรถพยาบาลที่เสียชีวิตขออโหสิกรรมให้เก๋งแดงขับรถขวาง ถามหากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของตัวเองบ้างจะรู้สึกเช่นไร

ครอบครัวลุงในรถพยาบาลที่เสียชีวิตขออโหสิกรรมให้เก๋งแดงขับรถขวาง ถามหากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของตัวเองบ้างจะรู้สึกเช่นไร

จากกรณีที่มีผู้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์รถฉุกเฉินคันหนึ่งเปิดไซเรนขอทางขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีผู้ป่วยต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางในช่องเลนขวานั้นได้มีรถเก๋งสีแดง ไม่ยอมหลบขับแช่อยู่เลนขวา เมื่อรถฉุกเฉินขับตามได้สักระยะจึงต้องแซงซ้าย

ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดพบว่าผู้ป่วยที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุ ชื่อนายประสิทธิ์ แรมครบุรี อายุ 61 ปี ชาวบ้านสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่ต้องใช้รถฉุกเฉินคันดังกล่าว เดินทางจากโรงพยาบาลลาดกระบัง เพื่อกลับโรงพยาบาลครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใกล้กับภูมิลำเนาบ้านเกิด ซึ่งต่อมาได้เสียชีวิตลงนั้น

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ของนายประสิทธิ์ โดยครอบครัวและญาติของนายประสิทธิ์ต่างระบุว่า การสูญเสียในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น และคนขับรถเก๋งสีแดงควรจะมีน้ำใจมากกว่านี้

น.ส.สายใจ แรมครบุรี บุตรสาวคนโตของผู้ตาย กล่าวว่า นายประสิทธิ์ ผู้เป็นบิดา ทำหน้าที่เป็น พนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งบิดาเป็นคนขยันขันแข็ง แข็งแรงดี แต่มีโรคหืดหอบซึ่งเป็นโรคประจำตัว แต่ก็ดูแลตัวเองได้ดีมาตลอด กระทั่งเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา บิดามีอาการปวดศีรษะ จึงได้ไปหาซื้อยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านมารับประทาน และเมื่อวันที่ 5 เม.ย.เกิดอาการทรุดลงอย่างกะทันหันจนไม่รู้สึกตัว ครอบครัวจึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลลาดกระบัง ซึ่งแพทย์มาดูอาการแล้วลงความเห็นว่ามีอาการสมองขาดออกซิเจน หากรักษาก็ทำได้แค่กลายเป็นเจ้าชายนิทรา ทางครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะส่งตัวกลับมาพักที่โรงพยาบาลครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งใกล้กับบ้านเกิด เพื่อหวังว่าจะให้บรรดาญาติพี่น้องทั้งหมดได้มาดูใจกันเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเสียก่อน ยังดีที่พ่อยังได้กลับมาสิ้นใจยังภูมิลำเนาบ้านเกิด ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้นมีแม่และน้องชายนั่งไปในรถฉุกเฉินกับพ่อ ส่วนตนนั่งรถอีกคันขับตามไปจึงไม่เห็นเหตุการณ์

"ครอบครัวไม่ติดใจเอาความอะไรกับคนขับรถเก๋งและขออโหสิกรรมให้ เพราะอยากให้พ่อจากไปอย่างเป็นสุขที่สุด แต่ก็อยากฝากบอกว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ ควรที่จะมีน้ำใจมากกว่านี้ เพราะรถฉุกเฉินที่ต้องเปิดไซเรนและไฟขอทางนั้น มีผู้ป่วยอยู่ในรถ ส่วนใหญ่ต้องเร่งส่งตัวไปทำการรักษาอย่างทันท่วงที เพราะมีชีวิตเป็นเดิมพัน แม้ว่ากรณีของพ่อตนเอง ครอบครัวพอที่จะทำใจได้แล้ว แต่ก็อยากให้พ่อไปถึงบ้านโดยยังมีลมหายใจเพื่อให้ญาติพี่น้องได้มาพบหน้า และหากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับพ่อแม่ญาติพี่น้องขอตนเองบ้างจะรู้สึกเช่นไร"น.ส.สายใจกล่าว

ทั้งนี้พิธีฌาปนกิจศพของนายประสิทธิ์ แรมครบุรี จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 9 เม.ย.61 ที่วัดสระผักโพด ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เวลา 14.00 น.