posttoday

สสว.ชี้ ESG เอสเอ็มอีไทยเริ่มแค่แยกขยะ ยังไปไม่ถึงธุรกิจยั่งยืน

11 ธันวาคม 2567

สสว.เปิดผลสำรวจ เอสเอ็มอี ด้าน ESG พบยังไม่สามารถนำมาปรับใช้ เพื่อเข้าสู่เทรนด์ธุรกิจแบบยั่งยืนได้ ด้วยข้อจำกัดด้านเงินทุน และสภาพคล่องของธุรกิจ

นางสาวปณิตา  ชินวัตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เปิดเผยผลสำรวจโอกาสและความท้าทายของธุรกิจเอสเอ็มอีสู่เทรนด์ธุรกิจ ESG (Environment, Social และ Governance) หรือแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ซึ่ง สสว. ได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจำนวน 2,675 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21 – 31 ตุลาคม 2567 พบว่า

เอสเอ็มอีไทย ร้อยละ 65.3 มีความรู้เกี่ยวกับแนวคิด ESG โดยพิจารณาสัดส่วนการรับรู้เอสเอ็มอี ร้อยละ 96.2 มีความรู้อยู่ในระดับพื้นฐาน เช่น รูปแบบการดำเนินธุรกิจแนว ESG จะช่วยลดการสร้างมลพิษ และรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังไม่มีความเข้าใจเชิงลึกและผลลัพธ์ที่สามารถจับต้องได้ ขณะที่ร้อยละ 3.8 มีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานและมีการเชื่อมโยงนำไปสู่ผลลัพธ์ได้ 

ESG เอสเอ็มอี เริ่มต้นที่แยกขยะ

เมื่อพิจารณาสัดส่วนกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีการนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ พบว่า เอสเอ็มอีร้อยละ 74.9 รับทราบเกี่ยวกับแนวคิด ESG แต่ยังไม่มีการนำไปใช้ และมีเอสเอ็มอีเพียงร้อยละ 25.1 เริ่มมีความตระหนักรู้ เนื่องจากเอสเอ็มอีให้ความสำคัญกับการนำมาปรับใช้กับธุรกิจในขั้นพื้นฐาน และบางขั้นตอนสามารถเริ่มทำได้ง่าย เช่น การลดการใช้พลาสติกและการแยกขยะ 

นอกจากนี้ ยังพบว่า ธุรกิจขนาดกลางมีสัดส่วนในการปรับใช้ที่เข้มข้นมากกว่าธุรกิจขนาดอื่น ๆ เนื่องจากให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ตรงกับเป้าหมายขององค์กร มีการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้า/บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือพัฒนาชุมชนโดยรอบ โดยบางส่วนได้รับอิทธิพลจากคู่ค้ารายใหญ่ หรือเป็นกลุ่มที่ต้องส่งออกไปยังประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG

สสว.ชี้ ESG เอสเอ็มอีไทยเริ่มแค่แยกขยะ ยังไปไม่ถึงธุรกิจยั่งยืน

ผลสำรวจความรู้เรื่อง ESG เอสเอ็มอีไทย

ส่วนด้านการรับรู้ข่าวสารของผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี พบว่า รับรู้ข้อมูล ESG ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ร้อยละ 54.4 รองลงมา คือรับทราบผ่านหน่วยงานภาคเอกชน ร้อยละ 23.2 และผ่านหน่วยงานภาครัฐ ร้อยละ 21.7 ในส่วนกิจกรรมภายใต้แนวคิด ESG ที่ผู้ประกอบการรับรู้มากที่สุด คือกิจกรรมที่ลดการสร้างมลพิษ เช่น การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 รองลงมาคือ การเลือกใช้สินค้ามือสอง/ใช้บริการเช่าสินค้า การเลือกใช้พลังงานทดแทน การผลิตสินค้าจากวัตถุดิบธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมี (Organic Product) เป็นต้น 

มอง ESG เพิ่มต้นทุนสินค้า

การสำรวจยังพบว่า เอสเอ็มอีมีการประเมินถึงผลที่จะเกิดขึ้นหากนำแนวคิด ESG มาปรับใช้ในธุรกิจ พบว่า เอสเอ็มอีร้อยละ 29.4 มองว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงต่อธุรกิจโดยจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้า/บริการเพิ่มขึ้น รองลงมาคือ ขั้นตอนการทำงาน การจดรับรองมาตรฐาน ต้นทุนในการจ้างผู้ตรวจสอบตามมาตรฐานต่าง ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี จากผลการสำรวจข้อมูลดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรให้ความรู้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของ ESG รวมทั้งการสนับสนุนด้านการเงินหรือแหล่งทุนในการปรับตัว การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจดทะเบียนธุรกิจหรือการขอมาตรฐานรับรอง

ทั้งนี้ สสว. มีโครงการ Business Development Service หรือ โครงการ BDS ที่จะช่วยส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ในการอุดหนุนผู้ประกอบการ ให้สามารถสร้างมูลค่าหรือพัฒนาธุรกิจเพื่อไปสู่การเป็นองค์กรอย่างยั่งยืน

ข่าวล่าสุด

ก.ล.ต. ชี้ประชุมผู้ถือหุ้น THAI ต้องเป็นไปตามกฎหมายบริษัทมหาชน