ส่องกฎหมาย 'ซื้อสิทธิ์-ขายเสียง' โทษหนัก! ทั้งจำทั้งปรับ
ส่องกฎหมาย 'ซื้อสิทธิ์-ขายเสียง' ถือเป็นอาชญากรรม โทษหนัก! จำคุก ปรับหลักแสน เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต
ทำความเข้าใจอาชญากรรมทางเลือกตั้งที่เรียกว่า "การซื้อสิทธิ์-ขายเสียง" ข้อกฎหมายและบทลงโทษที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
1. ความผิดของผู้ซื้อเสียง
การซื้อเสียงเป็นการกระทำที่บิดเบือนเจตจำนงของประชาชนอย่างชัดเจน ซึ่งกฎหมายให้ความสำคัญกับการลงโทษผู้กระทำผิดในส่วนนี้อย่างเข้มงวดที่สุด เนื่องจากถือเป็นผู้เริ่มต้นการทุจริต
ลักษณะความผิดและบทลงโทษ
- ความผิดฐานซื้อเสียงโดยตรง: กฎหมายกำหนดโทษแก่ผู้ที่ให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนหรืองดเว้นการลงคะแนน (ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม) รวมถึงการจัดเลี้ยง จัดพาหนะ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในลักษณะที่ไม่สุจริต
- บทลงโทษทางอาญาที่รุนแรง: ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- บทลงโทษทางการเมือง : ศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นเป็นระยะเวลา 20 ปี
ขอบเขตผู้กระทำผิด
บทลงโทษนี้ใช้กับ ผู้สมัคร สส., หัวคะแนน, ตัวแทนพรรคการเมือง, หรือบุคคลใดๆ ที่กระทำการซื้อเสียง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากฎหมายมุ่งเอาผิดกับทุกฝ่ายที่พยายามใช้เงินเข้าครอบงำผลการเลือกตั้ง
2. ความผิดของผู้ขายเสียง
การขายเสียงถือเป็นการสมยอมให้เกิดการทุจริต
แม้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยอมรับเงินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อแลกกับการลงคะแนน จะไม่ได้มีบทบาทเป็นผู้ริเริ่ม แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นการสมยอมให้เกิดการทุจริตและมีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน
ลักษณะความผิดและบทลงโทษ
- ความผิดฐานขายเสียง : คือการเรียก, รับ, หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อแลกกับการลงคะแนนหรืองดเว้นการลงคะแนนให้ผู้สมัครใด
- บทลงโทษทางอาญา: ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- บทลงโทษทางการเมือง: ศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นเป็นระยะเวลา 10 ปี
ความสำคัญของบทลงโทษ
การถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งถึง 10 ปี ถือเป็นบทลงโทษที่ร้ายแรงทางสิทธิพลเมือง ซึ่งตอกย้ำว่า กฎหมายถือว่าการขายเสียงเป็นความผิดที่ส่งผลกระทบต่อความบริสุทธิ์ของระบอบประชาธิปไตย
ผลที่ตามมาทางกฎหมายเพิ่มเติมสำหรับนักการเมือง (มาตรการลงโทษสูงสุด)
หากผู้สมัครหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกพิสูจน์ว่ากระทำการซื้อเสียง นอกเหนือจากโทษอาญาที่ระบุข้างต้นแล้ว ยังมีมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติมที่รุนแรง และมีผลกระทบต่อตำแหน่งทางการเมืองในระยะยาว
- การถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบแดง) : หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบหลักฐานการทุจริต และการเลือกตั้งนั้นได้ประกาศผลไปแล้ว กกต. มีอำนาจยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่และมีคำสั่ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบแดง) ของผู้สมัครนั้น
- เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต : ในกรณีที่ความผิดร้ายแรงและมีการตัดสินถึงที่สุดโดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อาจนำไปสู่การ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดชีวิต และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
การกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงและครอบคลุมทั้งจำคุก ปรับ และการเพิกถอนสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง เป็นมาตรการที่รัฐใช้เพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ของระบบเลือกตั้ง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบอบประชาธิปไตยไทย


