posttoday

เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ สิงคโปร์ จ่อถูกนำมาใช้แก้รถติด ‘ภูเก็ต’

07 มีนาคม 2568

เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ ที่สิงคโปร์ใช้จนสามารถลดระยะเวลาในชั่วโมงเร่งด่วนได้กว่า 20% และประหยัดงบประมาณได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอนาคตจะถูกนำมาใช้แก้ปัญหารถติดที่ ‘ภูเก็ต’

KEY

POINTS

  • เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ ที่สิงคโปร์ใช้จนสามารถลดระยะเวลาในชั่วโมงเร่งด่วนได้กว่า 20%
  • ไม่เพียงเท่านั้นยังประหยัดงบไปได้ราว 1 พันล้านดอลลาร์
  • ระบบนี้จะถูกนำมาใช้ที่ 'ภูเก็ต' เพื่อแก้ปัญหารถติดในอนาคต

ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์กับโพสต์ทูเดย์ ประเด็นการจัดการรถติดในภูเก็ต และเผยนโยบายสำคัญประการหนึ่งคือ 'การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ควบคุมระบบจราจรทั้งหมด ซึ่งมีต้นแบบระบบจากประเทศสิงคโปร์' ซึ่งปัจจุบันทางภูเก็ตได้มีการสำรวจแยกต่างๆ เพื่อติดต้องกล้องและระบบเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าจะลดปัญหาจราจรได้ราว 30-40% ภายใต้งบประมาณ 400 ล้านบาท  (อ่านเพิ่มเติม : กางแผนจัดการรถติด “ภูเก็ต“ เส้นทางพิเศษ-จังหวัดแรกใช้ AI ควบคุมระบบจราจร)

 

เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ สิงคโปร์ จ่อถูกนำมาใช้แก้รถติด ‘ภูเก็ต’

 

สำเร็จจริงหรือไม่ สิงคโปร์มีคำตอบ!

 

เคยมีการคาดการณ์ว่าในปี 2017-2022 สิงคโปร์จะมีพาหนะที่เดินทางเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านเป็น 16 ล้านเที่ยวต่อวัน และอาจสูงถึง 20 ล้านเที่ยวต่อวันภายในปี 2030  ทำให้เกิดปัญหาจราจรขนานใหญ่ และท้ายสุดก็คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการสร้างถนนเพิ่มเติม ซึ่งหมายถึงงบประมาณมหาศาล

สิงคโปร์จึงได้ขับเคลื่อนแก้ปัญหา ภายใต้แผน Smart Mobility 2030 ที่ริเริ่มโดยการขนส่งทางบกแห่งสิงคโปร์ (LTA) โดยมีระบบปัญญาประดิษฐ์ AI เป็นหัวใจสำคัญของแผนการณ์ดังกล่าว ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2006

 

เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ สิงคโปร์ จ่อถูกนำมาใช้แก้รถติด ‘ภูเก็ต’

 

ความสำเร็จของการดำเนินงานดังกล่าว สรุปเป็นผลลัพธ์ที่ได้ เช่น

 

ด้านเวลา

  • สามารถลดเวลาเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนได้ถึง 20%
  • เพิ่มความเร็วการเดินทางในชั่วโมงเร่งด่วนจากเดิมที่ 18 กม./ชม. เป็น 21 กม./ ชม.
  • ทำให้ประชาชนมีเวลาที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ด้านการขนส่งสาธารณะ 

  • ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ยอดผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 25% เป็นผลมาจากระบบ AI ที่สามารถคาดการณ์และคำนวนระยะเวลาการเดินทางได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • ลดระยะเวลารอรถบัสหรือรถไฟลงกว่า 15%


เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ สิงคโปร์ จ่อถูกนำมาใช้แก้รถติด ‘ภูเก็ต’

ด้านสิ่งแวดล้อม

  • ลดการใช้เชื้อเพลิงของรถโดยสารสาธารณะลง 10% เพราะรถไม่ติด
  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 5 แสนตันต่อปี
  • ลดการปล่อยปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลงได้กว่า 10%

 

ด้านงบประมาณ

  • มีการคาดการณ์ว่าการนำ AI มาใช้ในระบบจราจรและช่วยลดปัญหาการจราจรได้นั้นสามารถทำให้สิงคโปร์ประหยัดงบประมาณได้ราว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเลยทีเดียว
  • หลีกเลี่ยงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่มีต้นทุนสูง เช่นการสร้างถนนเส้นใหม่ จนทำให้ประหยัดงบประมาณไปได้อีกกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

เปิดโมเดล ‘ระบบจราจร AI’ สิงคโปร์ จ่อถูกนำมาใช้แก้รถติด ‘ภูเก็ต’

 

โมเดลแก้รถติดแบบสิงคโปร์ มีอะไรบ้าง?

 

เทคโนโลยีหลักที่สิงคโปร์นำมาใช้ในระบบโดยหลักๆ มีดังนี้

1.  ระบบขนส่งอัจฉริยะ (ITS)  ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแผน เป็นระบบขนส่งอัจฉริยะที่รวบรวมข้อมูลจากจุดต่างๆ ของเมือง เช่น กล้อง ตรวจสอบการจราจรในเวลาจริง GPS และเซ็นเซอร์บถนน  โดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำนายรูปแบบจราจร ระบุจุดที่อาจเกิดความแออัดล่วงหน้า และปรับเปลี่ยนการควบคุมสัญญาณไฟจราจรได้อย่างเรียลไทม์ 

หนึ่งในโครงการของระบบนี้คือ  Cooperative and Unified Smart Traffic System (CRUISE) ซึ่งพัฒนาร่วมกับสถาบันวิจัย Infocomm ของ A*STAR โดยเริ่มทดลองระหว่างปี 2561-2563 บริเวณถนน Corporation Road และ Boon Lay Way

CRUISE ใช้ AI ร่วมกับเทคโนโลยี เช่น ระบบนำทางดาวเทียมและข้อมูลจากยานยนต์ไร้คนขับ เพื่อปรับแต่งระยะเวลาสัญญาณไฟให้เหมาะสม ระบบนี้ตรวจจับการมีอยู่ของยานพาหนะและคนเดินเท้าแบบเกือบเรียลไทม์ ปรับเปลี่ยนการควบคุมจราจรเพื่อลดความล่าช้าและเพิ่มความปลอดภัยได้อีกด้วย

 

2. ระบบ ERP 2.0 ( Electronic Road Pricing) เป็นระบบเก็บค่าผ่านทางอิเล็กทรอนิสต์ที่ปรับอัตราค่าผ่านทางตามสภาพการจราจรจริง! โดยจะเก็บค่าผ่านทางมากขึ้นในช่วงเวลาที่มีความหนาของการจราจรสูง เพื่อให้ผู้ขับขี่เลือกเส้นทางอื่นหรือเดินทางในเวลาที่มีการจราจรน้อยลง

 

ระบบ ERP ในสิงคโปร์

 

3. ระบบ AI สำหรับภาคขนส่งมวลชน มีการนำ AI มาคำนวณและปรับเปลี่ยนความถี่ของรถเมล์หรือรถไฟฟ้าตามปริมาณผู้โดยสาร

 

4. กล้องจราจร AI ตรวจจับการละเมิดกฎ  เช่น ขับรถเร็วเกินกำหนด ฝ่าไฟแดง จอดรถผิดที่ โดยใช้การจดจำป้ายทะเบียนแบบอัตโนมัติ เพื่อออกใบสั่งอัตโนมัติ

.

.

ไม่ว่ารูปแบบของระบบจราจรโดยการใช้ AI จะออกมาเป็นรูปแบบไหน รับ-ไม่รับระบบใดของสิงคโปร์ แต่การนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหารถติดดังกล่าวของ ‘ภูเก็ต’ จะเป็นครั้งแรกและเมืองแรกในไทยที่นำระบบนี้มาใช้ในเมืองอย่างครอบคลุม ทั้งหมด 83 แยกของจังหวัดภูเก็ต