posttoday

สุทิน เตรียมแก้สัญญาจีทูจี เปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นฟริเกตจีน

24 ตุลาคม 2566

“สุทิน” เตรียมแก้จีทูจี เปลี่ยนเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ก่อนส่งทีมไปคุยจีนสัปดาห์หน้าให้ทันก่อนหมดสัญญา พ.ย. นี้ ชี้หากยกเลิกหรือขอเงินคืน อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่อยากหักจีน ขอบคุณ ทร. ที่ยอมสนองนโยบายรัฐบาล

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูการแก้ไขสัญญาแบบจีทูจี เปลี่ยนจากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต ว่า วันนี้เวลา 14.00 น. กระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือ จะมีการหารือกันในเรื่องนี้

ส่วนในการประชุมครม. นายกฯ ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องเรือดำน้ำ โดยจะให้ทางกระทรวงไปพูดคุยกันเอง และเรื่องเรือดำน้ำขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า โดยมีความสับสนอยู่ว่าเรือฟริเกตของประเทศจีน ราคา 14,000 ล้านบาท ส่วนราคา 17,000 ล้านบาท เป็นการตั้งงบเผื่อไว้ในปี 2567 สำหรับเรือฟริเกตของยุโรป ซึ่งกองทัพยังไม่รู้ว่าจะเอาของประเทศไหน จึงต้องตั้งเผื่อไว้ แต่ที่จะแลกเปลี่ยนกับเรือดำน้ำราคาอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท โดยที่เรือดำน้ำอยู่ที่ราคา 13,000 ล้านบาท ซึ่งทางเรากำลังจะไปต่อรอง และถ้าประเทศจีนยอมให้เปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต ก็อาจจะไม่ใช่ราคา 14,000 ล้านบาท อาจจะลดลง

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลออกมาเรียกร้องให้ขอเงินคืนจากจีน หรือเปลี่ยนเป็นสิทธิประโยชน์อย่างอื่น นายสุทิน ระบุว่า ต้องลองเจรจาในพื้นฐานของเดิมไปก่อน ถ้าไม่บรรลุผลค่อยว่ากัน แต่ในเรื่องข้อตกลงแบบจีทูจี มันมีมิติของความร่วมมือกันหลายด้าน ก็ต้องนำมาคิดควบคู่ด้วย การคิดขอคืนเงินหรือยกเลิกสัญญา มันจะกระทบกระเทือนถึงความร่วมมือทางด้านอื่นและความสัมพันธ์ด้วย จึงต้องคิดให้คุ้ม ซึ่งในช่วงที่เราเดินทางไปจีนในครั้งที่ผ่านมา ขอความร่วมมือกับทางจีนได้เป็นจำนวนมาก แต่หากเราต้องไปหักกันด้วยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มันอาจจะทำให้เสียประโยชน์ในด้านอื่น

เมื่อถามว่า การแก้ไขสัญญาจีทูจี จากเรือดำน้ำเป็นเรือฟริเกต วางกรอบเวลาไว้นานเท่าใด นายสุทิน บอกว่า วันนี้จะเชิญกองทัพเรือและกระทรวงกลาโหม มาหารือกัน ส่วนการไปพูดคุยกับทางการจีน ก็ยังไม่ได้คุย แต่จะไปเร็วๆนี้ เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องเงื่อนไขเวลาอยู่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะข้อตกลงจะหมดอายุ จึงต้องเร่งทำให้เร็วที่สุด โดยตนคิดว่าจะให้เขาไปเจรจาได้ภายในไม่เกินสัปดาห์หน้า แต่ต้องรอทางจีนด้วยว่าจะพร้อมเจรจาหรือไม่

เมื่อถามว่า กองทัพเรือพอใจข้อเสนอนี้หรือไม่ เพราะมีการสร้างอู่เรือดำน้ำรอไว้แล้ว นายสุทิน กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นเรื่องที่ทางกองทัพเรือเสนอมา เมื่อรู้ว่าเรื่องเครื่องยนต์เยอรมันปิดประตูสนิทแล้ว เราจึงบอกว่าถ้าประตูปิดสนิทแล้วจะเอาอย่างไร ทางกองทัพเรือก็เสนอมาเป็น 2 ทางเลือก ข้อแรกคือเรือฟริเกต ข้อสองคือเรือโอพีวี ซึ่งทางรัฐบาลเอาเป็นเรือฟริเกตดีกว่า หากถามว่ากองทัพเรือพอใจหรือไม่ แต่ทางเขาก็ให้ทางเลือกมา และก็ต้องสนองนโยบายรัฐบาล