เช็คเงื่อนไขด่วน! สภากาชาดไทย เปิดให้ อบจ. จอง "วัคซีนโมเดอร์นา"
สภากาชาดไทย แจ้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ให้ อบจ. แจ้งความประสงค์จองวัคซีนทางเลือก "โมเดอร์นา" เพื่อฉีดให้ประชาชน 5 กลุ่ม ภายใน 21 ก.ค. โดยเงื่อนไขสำคัญของการใช้ ฉีดให้กับประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 64 นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชจังหวัดทุกจังหวัด เรื่องขอความร่วมมือในการแจ้งจองวัคซีนสำหรับฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มอื่นๆ โดยไม่คิดมูลค่า เนื้อหาระบุว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้มีประกาศ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ซึ่งได้ให้สภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานหนึ่งในการสั่งนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชน ดังความแจ้งแล้ว นั้น
ขณะนี้ สภากาชาดไทยได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Moderna จำนวนหนึ่งจากผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาฉีดบริการให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ โดยไม่คิดมูลค่า ตามพันธกิจของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัคซีนจำนวนหนึ่งให้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด และเงื่อนไขอื่นๆ รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
สภากาชาดไทย จึงขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ที่มีความประสงค์จะซื้อวัคซีนไปฉีดบริการให้กับประชาชนตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น และกรุณาแจ้งมายังสภากาชาดไทย ภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 นี้ด้วย
สำหรับรายละเอียดเงื่อนไขคือ 1. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องจัดทำแผนการขอรับการจัดสรรวัคซีนเพื่อนำวัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด พร้อมจำนวนคนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 กลุ่ม ตามลำดับ ได้แก่
1) คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
2) ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
3) บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร
4) ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน
5) บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนของ อบจ. ที่ยังไม่เคยได้รับวัคนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย
2. อบจ. ต้องเสนอแผนการขอรับการจัดสรรวัคซีน โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
3. เงื่อนไขที่สำคัญ ที่ อบจ. ต้องดำเนินการดังนี้
1) อบจ. ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุนงบประมาณค่าวัคซีนโมเดอร์นา ราคาโดสละ 1,300 บาท ให้แก่ สภากาชาดไทย เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Moderna มาให้ อบจ. สำหรับเงินค่าวัคซีน โดสละ 1,300 บาท นั้น เมื่อหักต้นทุนวัคซีนและค่าบริหารจัดการตามโครงการแล้ว เงินส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะได้นำเข้าสมทบใน “กองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน” ต่อไป
2) อบจ. ต้องจัดบริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน กลุ่มเป้าหมาย โดยไม่คิดมูลค่าและห้ามนำไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด
3) เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควตา ให้ อบจ. แล้วขอให้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากสภากาชาดไทย ภายในวันที่ 23 ก.ค. 2564 ก่อนเวลา 12.00 น.
4) สภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคซีนได้ ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 เป็นต้นไป


