posttoday

กสม.เสนอรัฐบาลปรับแผนหาวัคซีนโควิดให้ทันต่อสายพันธุ์โรค

15 กรกฎาคม 2564

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติห่วงสถานการณ์โควิดระบาดรุนแรง เสนอ5แนวทางต่อรัฐบาลปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชน

ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ได้ทวีความรุนแรงและขยายตัวเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อระบบบริการสาธารณสุข การดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป นั้น

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) รับทราบถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลผ่านมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดยังมีแนวโน้มขยายวงกว้างและดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง กสม. มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอเสนอแนะต่อรัฐบาลในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชน ดังนี้

1. ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนด้วยการเร่งกระจายการฉีดวัคซีน ให้แก่ประชาชนให้มากและเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ในเร็ววัน

2. การจัดสรรและจัดลำดับความสำคัญของวัคซีนควรทำโดยกระบวนการที่โปร่งใสตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก โดยเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิต บุคลากรด่านหน้าด้านสาธารณสุข รวมถึงกลุ่มเปราะบางทั้งหลาย เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ คนไร้บ้าน คนไร้รัฐ และแรงงานนอกระบบ

3. ขอเสนอให้ปรับแผนการจัดหาวัคซีนให้ทันต่อสายพันธุ์ของโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ประชาชนจะได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิผลสูงสุดในการป้องกันโรคโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งเตรียมความพร้อมแผนการจัดสรรวัคซีนสำหรับการฉีดกระตุ้น (booster dose) ด้วย

4. จัดบริการตรวจเชิงรุกให้ครอบคลุมและทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มประชากรในพื้นที่เสี่ยง อาทิ ชุมชนแออัดใน กทม. และเขตปริมณฑล เพื่อจำกัดวงของการแพร่ระบาดของโรค และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวหากได้รับเชื้อ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือได้ทันที

5. ขอเสนอให้ติดตามว่าประชาชนที่เดือดร้อนจากมาตรการควบคุมโรคได้รับการเยียวยาจากรัฐอย่างทั่วถึงหรือไม่ โดยอาจพิจารณากำหนดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย และเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วต่อไป

กสม. ตระหนักดีถึงความท้าทายในการบริหารจัดการเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 และขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งขอให้กำลังใจประชาชนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อันเลวร้ายและยากลำบากในครั้งนี้ กสม. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคน จะร่วมมือร่วมใจกันเพื่อช่วยให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว

ข่าวล่าสุด

ก.ล.ต. มีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน JKN หลังศาลยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ