พท.เปิดศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 262 แห่ง
พรรคเพื่อไทยเปิดศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 262 แห่ง เล็งหักเงินเดือนของส.ส.บางส่วนเป็นกองทุนช่วยเหลือ
พรรคเพื่อไทยเปิดศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 262 แห่ง เล็งหักเงินเดือนของส.ส.บางส่วนเป็นกองทุนช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดศูนย์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 262 เขต ในนาม"เพื่อไทยช่วยไทยร่วมใจช่วยน้ำท่วม" พร้อมเป็นตัวแทนรับบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง จากประชาชนในเขตพื้นที่กทม. ร่วมกับ นายการุณ โหสกุล ตัวแทน ส.ส.กทม. นายศักดา คงเพชร และ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ตัวแทน ส.ส.จากภาคอีสาน
ทั้งนี้ จะมีการใช้พื้นที่ทั้ง 136 เขตเลือกตั้งที่มีส.ส.ทำงาน รวมถึงสำนักงานประจำจังหวัดทุกจังหวัด เป็นศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรวม 262 เขต
ซึ่งส.ส.ในเขตจังหวัดภาคอีสานและภาคเหนือจะทำ 2 หน้าที่คือ 1.จะเป็นพื้นที่กระจายความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย พร้อมกำชับส.ส.ทุกคนให้ออกพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ร่วมกับหน่วยงานราชการ โดยเบื้องต้นจะดูแลเรื่องน้ำดื่มอาหารแห้ง จากนั้นจะให้ความรู้กับประชาชนเรื่องโรคติดต่อ รวมทั้งเฝ้าระวังอุบัติเหตุที่ อาจเกิดจากภัยพิบัติที่มากับน้ำท่วม
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังขอบคุณประชาชนในเขตกทม.เมื่อทราบข่าวได้ร่วมบริจาคมาทันที ซึ่งทั้ง 262 ศูนย์ จะเปิดทำงานทันที พร้อมประกาศหมายเลขรับบริจาคช่วยเหลือประชาชน โดยทีมงานในส่วนกลางจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและร้อยเอ็ด เพื่อให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย ขณะเดียวกันได้ฝากถึงรัฐบาลเร่งจัดหาน้ำสะอาดอาหารต่าง ๆและเตรียมการป้องกันโรคระบาด พร้อมเรียกร้องให้เร่งจ่ายเงินชดเชยภัยแล้งและน้ำท่วมโดยเร็ว เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาก
ด้านนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส. จังหวัดอุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะตัวแทนส.ส.ภาคอีสาน กล่าวว่า รัฐควรเร่งรัดเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา ซึ่งในช่วงหาเสียงเลือกตั้งระบุว่า จะชดเชยไร่ละ 2,000 บาท แต่ปัจจุบันได้อนุมัติ จ่ายชดเชยให้ประชาชนเพียงไร่ละ 500 บาทเท่านั้น แต่จะจ่ายมากน้อยเพียงใดก็ขอให้เร่งรัด เพราะเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาไม่มีจะกิน
ขณะที่ นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น้ำท่วมรอบนี้ จะเป็นครั้งที่คนกทม.ได้ช่วยเหลือพี่น้องภาคเหนือและภาคอีสาน ต่อไปจะพิจารณาความเป็นไปได้ในแง่ของกฎหมาย เพื่อหักเงินเดือนของส.ส.บางส่วน เป็นกองทุนช่วยเหลือ