posttoday

"ปู จิตรกร"หนุน"กรณ์"ฝากโหวตเตอร์เลือกเป็นผู้นำปชป.

14 พฤษภาคม 2562

นักเขียนดัง "ปู จิตรกร" ฝากเสียงประชาชนให้โหวตเตอร์ปชป.เลือก “กรณ์” เป็นหัวหน้าพรรค ชี้ ทำจริง รับฟัง ทันโลก

นักเขียนดัง  "ปู จิตรกร" ฝากเสียงประชาชนให้โหวตเตอร์ปชป.เลือก “กรณ์” เป็นหัวหน้าพรรค  ชี้ ทำจริง รับฟัง ทันโลก

เมื่อวันที่  14 พ.ค.  ปู จิตรกร บุษบา นักเขียนดัง  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว สนับสนุน นาย กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดย ปู จิตรกร ระบุว่า  ในการทำรายการวิทยุ โทรทัศน์ และนำคนไปเที่ยว มีแต่คนฝากมาบอกว่า "เลือกคุณกรณ์นะ" รับฝากเขามาแกล้วก็ต้องมาบอก เผื่อคนที่มีสิทธิเลือกเขาเข้ามาอ่าน จะได้รู้ว่า เสียงจาก "ภายนอก" ที่เขา "มีเยื่อใย" กับพรรคประชาธิปัตย์นั้น เขาอยากเห็นใครเป็นหัวหน้าพรรค

ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าอีก 3 ท่านที่เหลือเป็นอย่างไร เพราะในความเป็นจริง แต่ละท่านมีข้อเด่นในตัวเองทุกคน และเอาเข้าจริง ผมรู้จักอย่างน้อย 3 ท่าน ซึ่งน่านับถือจริงๆ อีกท่านไม่ได้เคยสนทนาหรือร่วมในกิจกรรมหนึ่งกิจกรรมใด หรือในชีวิตปกติ แต่ได้ยินกิตติศัพท์ว่าคนในพรรคก็นับท่านเป็นคิวแรกๆ ต่อจาก "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ดังนั้น สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ ไม่ได้พูดจากความมักคุ้นส่วนตัว แต่มองจาก "คนนอก" ที่ปรารถนาดี

ในเมื่อเลือกทีเดียวทั้ง 4 ท่านไม่ได้ ต้องเลือกเพียงท่านเดียว เลือกเพื่อมาทำงาน มานำพรรค มาสร้างความรักความนิยมจาก "คนภายนอก" ผมขอเลือก "กรณ์ จาติกวณิช"

1) มองบ้านเมืองห้าปีถอยหลัง ปัจจุบัน และอีก 5 ปีข้างหน้า ปัญหาเศรษฐกิจนับวันจะรุนแรงขึ้น "มือเศรษฐกิจ" คือความหวังของผู้คนแน่นอน เพราะความขัดแย้ง หรือการรบกันทางการเมือง เมื่อถึงจุดหนึ่ง คนจะรู้สึก "ทนไม่ได้" เพราะในสนามรบ ที่มุ่งแพ้มุ่งชนะทางการเมือง "ประชาชน" ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง "อนาคต" ไม่ได้ถูกลงทุนและเตรียมการ ถึงจุดหนึ่ง ประชาชนจะวางมือจากสงครามการเมือง ขั้ว-ข้าง แล้วร้องขอความช่วยเหลือ มองหาคนที่จะมาเปลี่ยนแปลง ผมเชื่อว่า "คุณกรณ์" กับพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความหวังและความเชื่อมั่นนั้นได้

2) กวาดตามองไปยังพรรคการเมืองทั้งหลาย ไม่มีพรรคไหน มีมือเศรษฐกิจและเป็นมือที่ซื่อสัตย์เท่าคณะบุคคลในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในส่วนของคุณกรณ์นั้น ได้ทำงานจริงและพิสูจน์ฝีมือมาแล้ว จนได้รับรางวัลที่ผมเรียกเอาเองว่า "ขุนคลังโลก" มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะนำทีม ไปดึงดูดและสร้างความหวัง ความนิยมจากคนภายนอกได้ง่าย เร็ว ชัด และจริงที่สุด ท่ามกลางการแข่งขัน เราถึงเวลาที่จะมีหัวหน้าพรรคที่คนอื่นก็รัก ไม่ใช่เฉพาะคนในพรรคที่รักสุดหัวใจ

3) ผมได้มีโอกาสสนทนาและทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่มีคุณกรณ์มาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง ได้เห็นความจริงใจ ตรงไปจริงมา กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ ไม่อวดรู้ แต่พร้อมจะแบ่งปันความรู้ให้พวกเรา ไม่ถือตัว ไม่วางมาด ธรรมดาที่สุด เปิดใจ และทำงานได้กับคนทุกวัยโดยไม่มีอคติ

4) การเลือกตั้ง หากยังเป็นระบบนี้อยู่ มีบัตรใบเดียว ผู้เลือกถูกทำให้เพ่งมองที่คนคนเดียวคือ "หัวหน้าพรรค" เมื่อเอาหัวหน้าพรรคอื่นๆ ในขณะนี้ และคาดการณ์ไปในอนาคต มาวางเรียงกัน "คุณกรณ์" ดูน่าสนใจ แตกต่าง และโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ อย่างชัดเจน และแตกต่างไปจาก "ภาพจำ" หรือ "ภาพที่คุ้นตา" แบบ "ประชาธิปัตย์" ที่คนอื่นๆ รู้สึกชิน และรู้สึกว่า "พอ"

5) บุคลิกและผลงานของคุณกรณ์หักล้างวาทกรรมที่คนอื่น "ตีตรา" ประชาธิปัตย์ว่า "ดีแต่พูด" ได้สนิท และไม่เน้น "ความขัดแย้งทางการเมือง" ซึ่งเป็นเรื่องที่มีคนค่อยๆ "เอือมระอา"
.
6) ชอบที่คุณกรณ์ประกาศว่า จะผลักดันคนเก่งๆ ในพรรคขึ้นมาทำงาน ช่วยกันสร้างพรรค สร้างความหวังให้แก่พี่น้องประชาชน อันที่จริงคนในพรรคที่มีความสามารถมีมาก แต่ขาดเวที ขาดการโปรโมทที่เป็นระบบ เป็นช้างเผือกที่ไม่มีใครขัดสีฉวีวรรณ ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องมี "หัวหน้า" ที่ "เห็น" และผลักดัน โดยไม่ปิดกั้นการมีส่วนร่วมจาก "คนข้างนอก" ซึ่งในที่สุด พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ได้เป็นแค่ "พรรคพวกกันเอง" แต่เปิดรับคนภายนอก แต่ไม่ "มองข้าม" คนภายใน

7) คุณกรณ์ปักธงในพื้นที่อีสานได้ 1 จุดอย่างเป็นรูปธรรม คือการทำโครงการ "ข้าวอิ่ม" ที่มหาสารคาม และค่อยๆ กระจายออกไป นั่นคือความเป็น "ประชาธิปัตย์" ที่บริสุทธิ์ที่สุดในพื้นที่อีสาน ไม่ได้ไปขโมยความรักจากใคร ไม่ได้ไปเอาคะแนนนิยมทางการเมือง แต่ไปด้วยความปรารถนาดีล้วนๆ ที่จะ "เปลี่ยนแปลง" ชีวิตชาวนา และทำได้สำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ และเป็นความสำเร็จที่ "ขยายผล" ขยายพื้นที่ได้

คุณกรณ์เป็นผู้นำของประเทศไทยได้ และนำประเทศไปสู่พื้นที่สากลได้ ด้วยความรู้ที่มี และการสื่อสารที่ดี มีประสิทธิภาพ พร้อมๆ กับพาผู้คน "หมุนทันโลก" ได้ และพาวิวัฒนาการของโลกมาถึงทุกคนได้ ไม่ตกโลก นั่นคือปัจจัยกระทบกับประชาชนของเราในเวลาอันใกล้ หากมองไม่ขาด ไม่เห็น ไม่ทัน ก็จะวางนโยบายป้องกัน พัฒนา และช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติได้ยาก

9) เท่าที่เคยสนทนากับคุณกรณ์มาบ้าง เสียงที่ได้ยินประจำซ้ำๆ คือ "ปัญหานี้จะแก้ยังไงดี" เขาติดตามปัญหาของประชาชน แล้วเอามานั่งขบคิด เมื่อจะหาคำตอบ เขาไม่ได้นั่งฟังแต่เสียงตัวเอง เขาจะถามคนอื่นๆ ด้วย แม้กระทั่งผม ที่ไม่ได้รู้อะไรมากมายในทางนโยบายหรือทางการเมือง ยังถูก "ขอความเห็นหน่อยครับ" หากมีโอกาสเจอกัน

10) คุณกรณ์ไม่ใช่คนที่ไร้อุดมการณ์ ผมรู้ว่าชาวประชาธิปัตย์นั้นห่วงอุดมการณ์ ด้วยฐานะภาพอย่างเขา หากไม่มีอุดมการณ์ ป่านนี้ ออกไปได้ดิบได้ดีที่พรรคอื่น หรือออกไปทำธุรกิจของตัวเองต่อแล้วครับ แต่ตั้งแต่เขาตกผลึกว่า ธุรกิจที่ทำมา และรายได้ที่มีอยู่ เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพชอบและเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว ก็ถึงเวลา "แทนคุณแผ่นดิน" และเขาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นพรรคที่มีทั้งอุดมการณ์และหลักการในการทำหน้าที่ "ผู้แทนราษฎร" และ "พรรคการเมือง"
.
11) การเลือกครั้งนี้ เป็นการเลือกเพื่อการดำรงอยู่และการเดินต่อไปข้างหน้าของพรรคมิใช่หรือครับ พรรคจะดำรงอยู่อย่างมีความหมาย ก็ต่อเมื่อเป็นที่ต้องการ ศรัทธา เชื่อถือจาก "คนภายนอก" ซึ่งเป็นผู้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหรือไม่เป็น เขาอยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์เป็น "คำตอบ" ของเขา เขา-คือคนที่ทำให้พรรคดำรงอยู่อย่างมีหน้าที่และมีความหมาย แต่พอดีว่าคราวนี้ "คนใน" เท่านั้นที่มีสิทธิเลือก จงเลือกเพื่อ "ใจ" ของคนภายนอกด้วย มิใช่ยึด "ใจ" ของคนภายในเท่านั้น

12) สุดท้าย ที่ผมประทับใจมากๆ ก็คือ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผมเห็นคุณกรณ์ "เคียงข้าง" หัวหน้าพรรคของเขามาตลอด ไม่ว่าหัวหน้าพรรคกำหนดท่าทีและทางเลือกใดในการแข่งขัน เสี่ยงแค่ไหน ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักหนาเพียงใด คุณกรณ์อยู่ข้างๆ ร่วมในการแถลงข่าวแทบจะทุกครั้ง แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก บุคคลสามคนที่อยู่ด้วยในยามแถลงข่าวเสมอๆ ก็คือ คุณพนิช วิกิตเศรษฐ์ คุณองอาจ คล้ามไพบูลย์ และ "คุณกรณ์ จาติกวณิช" เขาไม่เอาตัวรอดจากความเสี่ยง ไม่ลอยแพแต่อยู่เคียงข้าง อยู่ด้วย แถลงข่าวจบ ปรบมือให้กำลังใจ หาเสียงก็ไปช่วยในหลายพื้นที่ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการนโยบายที่ร่วมกันผลิต "ชุดนโยบาย" ที่ทุกคนนำไปหาเสียงได้อย่างไม่อับอาย ซ้ำทุกคนทุกฝ่ายต่างยกย่องชื่นชมว่า นี่เป็นชุดนโยบายที่ดีที่สุด คิดถึงประชาชนที่สุด และรับผิดชอบต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศมากที่สุด

ด้วยคุณสมบัติดังที่กล่าวมานี้ หากผมมีสิทธิโหวต ผมจะโหวต "กรณ์ จาติกวณิช" แต่ผมไม่มีสิทธิ์ จึงได้แต่บันทึกไว้ ณ ที่นี้ เพื่อฝากท่านที่มีสิทธินำไปพิจารณา พร้อมๆ กับอีกหลายๆ เสียงที่ฝากผมมา