posttoday

คดียุบ"ไทยรักษาชาติ" ปิดเกมไวตัดตอนปัญหา

18 กุมภาพันธ์ 2562

การสร้างความชัดเจนในคดียุบพรรคให้เร็วที่สุดอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคต

การสร้างความชัดเจนในคดียุบพรรคให้เร็วที่สุดอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคต

*************************

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

กระบวนการพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เริ่มต้นอย่างเป็นทางการภายหลังที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์รับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรค ทษช.ไว้พิจารณา

สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ กกต.มีมติยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยมีคำสั่งยุบพรรค โดยเห็นว่า “กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

กรณีเสนอพระนามทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดย กกต.อาศัยอำนาจตามมาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560

ขั้นตอนต่อจากนี้ทางศาลรัฐธรรมนูญจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบและส่งสำนวนคำร้องและให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง มิฉะนั้นให้ถือว่าไม่ติดใจยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมกับนัดพิจารณาครั้งต่อไปในวันพุธที่ 27 ก.พ. 2562 เวลา 13.30 น.

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่ากระบวนการพิจารณาในเรื่องนี้ดูจะรวดเร็วกว่าอีกหลายเรื่องที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ จนเป็นห่วงว่าจะเกิดความไม่เป็นธรรมต่อฝั่งที่เสียหายอย่างเพียงพอ

ดังจะเห็นว่าตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 ก.พ.กระบวนการทุกอย่างเดินหน้าอย่างรวดเร็วในแทบจะทุกขั้นตอน จนมาถึงขั้นตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาซึ่งใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์

ส่วนหนึ่งเข้าใจได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ จำเป็นต้องรีบเร่งดำเนินการให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะผลพวงของคดีนี้ยังเกี่ยวพันไปถึงการเลือกตั้ง ตลอดจนผลการเลือกตั้งที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ เป็นที่รับรู้กันโดยชัดเจนว่าพรรคไทยรักษาชาติถือเป็นหนึ่งในแบงก์ร้อยที่แตกมาจากแบงก์พัน ดังจะเห็นได้จากความเชื่อมโยงของทั้งแกนนำ ผู้สมัคร สส.ที่คาบเกี่ยวกัน จนบางพื้นที่ถูกมองว่ามีการหลบหลีกเพื่อไม่ให้ทับซ้อนสร้างปัญหาในพื้นที่

ดังนั้น เมื่อพรรคหนึ่งอยู่ระหว่างถูกพิจารณายุบพรรค ย่อมจะส่งผลต่อพรรคอื่น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อมโดยเฉพาะเรื่องการลงคะแนนของประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคไหนในเวลานี้การที่พรรคใดพรรคหนึ่งจะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบในช่วงเวลานี้ จึงล้วนแต่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในแต่ละพื้นที่เป็นอย่างมาก

การรีบทำให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดกับทุกฝ่ายในเวลานี้ เพื่อไม่ให้ความคลุมเครือบานปลายกลายเป็นปัญหาในอนาคต

เริ่มตั้งแต่เรื่องของการต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ในกรณีที่ยังไม่มีความชัดเจนว่า พรรค ทษช.จะถูกยุบหรือไม่ถูกยุบนั้น ย่อมทำให้ผู้สมัครของไทยรักษาชาติวางตัวลำบากว่าจะเดินหน้าต่อไปหรือรอดูสถานการณ์ความชัดเจนก่อน

ในเมื่อหากทุ่มเทลงพื้นที่หาเสียงแล้วต่อมาเกิดถูกยุบพรรค ย่อมอาจทำให้ทุกคะแนนที่กำลังจะได้รับต้องสูญหายไป เช่นเดียวกับประชาชนที่ตั้งใจว่าจะเลือกพรรคไทยรักษาชาติ หากถูกยุบก่อนจะถึงวันเลือกตั้งก็จะทำให้เสียโอกาสได้เช่นกัน

ยังไม่รวมกับการยุบพรรคหลังการเลือกตั้งที่อาจนำไปสู่ความปั่นป่วนต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ซึ่งไทยรักษาชาติชนะการเลือกตั้ง ก่อนการประกาศผลรับรองซึ่งจะเป็นเหตุให้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตดังกล่าว ทำให้ต้องเสียทั้งเวลา เสียทั้งงบประมาณ

ส่วนกรณีเขตที่ไทยรักษาชาติแพ้แม้จะไม่มีการเลือกตั้งใหม่ แต่สำหรับประชาชนที่ลงคะแนนมาให้พรรคนี้ ย่อมกลายเป็นคะแนนที่สูญเปล่าเพราะจะถูกตัดออกจากสารบบการคำนวณ สส.บัญชีรายชื่อ

การพยายามปิดเกมเร็วเพื่อทำให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนก่อนจะถึงวันเลือกตั้งอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทั้งในแง่ผู้สมัคร และคนลงคะแนน ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

อีกด้านหนึ่งยังช่วยสกัดป้องกันปัญหาความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยกเรื่องการถูกยุบพรรคขึ้นมาปลุกปั่นหรือสร้างกระแส อันอาจบานปลายกลายเป็นความวุ่นวายที่จะยิ่งฉุดรั้งบรรยากาศการเลือกตั้งไม่ให้เป็นที่ยอมรับ

ดังจะเห็นจากที่ผ่านมามักจะมีการหยิบยกประเด็นทำนองนี้ขึ้นมาเรียกกระแสสงสาร จากการถูกกลั่นแกล้งไม่ยุติธรรม เพื่อหวังกระแสตีกลับที่จะเกิดขึ้น

ในขณะที่กลุ่มที่ไม่หวังดีย่อมพยายามหยิบยกปมเหล่านี้ขึ้นมาเขย่าความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหวังทำลายความน่าเชื่อถือและผลการเลือกตั้งที่จะตามมา ซ้ำเติมข้อครหาก่อนหน้านี้ที่ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐพยายามช่วงชิงสร้างความ
ได้เปรียบในหลายด้าน

ที่สำคัญชนวนความคลุมเครือที่เกิดขึ้นย่อมถูกนำไปสู่การหยิบยกไปใช้ประโยชน์จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีทั้งหลาย ดังจะเห็นจากก่อนหน้านี้ที่เริ่มปรากฏกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อน หรือข่าวลวงเรื่องการปลดนายทหารระดับสูงซึ่งล้วนแล้วแต่จะยิ่งกัดกร่อนบรรยากาศที่ควรจะเดินไปสู่การเลือกตั้งอย่างโปร่งใสเป็นธรรม เพื่อเป็นจุดเปลี่ยนพาประเทศกลับสู่สภาวะปกติ

แนวโน้มการสร้างความชัดเจนในเรื่องคดียุบพรรคให้เร็วที่สุดจึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาในอนาคต และกระทบไปถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น