posttoday

รวมคำเตือนอันตราย “ยาเคนมผง”

14 มกราคม 2564

กรมการแพทย์ เผย “ยาเคนมผง” อาจออกฤทธิ์รุนแรงจนอันตรายถึงตายได้แม้เสพครั้งแรก ด้านผู้เชี่ยวชาญ ป.ป.ส. ระบุเป็นคีตามีนผสมแวเลียม ชี้หากเสพเป็นระยะเวลานานทำให้กลายเป็นคนวิกลจริตได้

กรมการแพทย์ โดยสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เตือนภัยกลุ่มวัยรุ่นนิยมทดลองสิ่งแปลกใหม่  “ยาเคนมผง” ออกฤทธิ์รุนแรง อันตรายอาจถึงตายได้แม้เสพครั้งแรก 

นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวว่า เคตามีน (ketamine) เป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง ทำให้เกิดอาการมึนเมา เพลิดเพลิน มีความสุข เกิดภาพเหมือนฝัน รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศหรือหลุดลอยออกจากร่าง ซึ่งฤทธิ์ของยาเคในระยะสั้นจะทำให้เกิดอาการหวาดระแวง จิตหลอน จำอะไรไม่ได้ ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนเป็นอัมพาตชั่วขณะ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาทางสมองเกี่ยวกับความทรงจำและสมาธิ มีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้และปัญหาทางจิต กลายเป็นคนวิกลจริต

ในปัจจุบันพบว่ากลุ่มวัยรุ่นนำยาเค ผสมกับสารเสพติดอื่นอีกหลายชนิด เช่น ยาไอซ์ เฮโรอีน ยานอนหลับ(โรเซ่) นำมาผสมกันจนมีลักษณะละเอียดคล้ายนมผงแล้วนำมาเสพ จึงถูกเรียกว่า “ยาเคนมผง” เมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายทำให้ผู้เสพมีอาการุนแรง ประสาทหลอน คิดว่าจะถูกทำร้ายเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาท  ทั้งนี้ การเสพยาเคนมผง  ร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้ผู้เสพเสียชีวิต และสามารถเกิดขึ้นได้แม้จะเสพเป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะนี้พบผู้เสียชีวิตที่อาจเกิดจาการเสพยาเคนมผง จำนวนหลายหลาย ในบางรายที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ บรมราชชนนี กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดทุกประเภทส่งผลเสียอย่างร้ายแรงต่อร่างกายของผู้เสพ ยิ่งมีการใช้ร่วมกันหลายชนิดก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง บางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งใน “ยาเคนมผง” มีสารเสพติดที่ออกฤทธิ์รุนแรงหลายชนิด หนึ่งในส่วนผสมนั้นคือ เฮโรอีน ซึ่งออกฤทธิ์รุนแรงในทางกดประสาท หากเสพเฮโรอีนมากเกินความต้านทานของร่างกาย อาจทำให้หัวใจหยุดเต้นถึงเสียชีวิตได้ ขอย้ำเตือนกลุ่มวัยรุ่นหรือผู้ที่คิดจะทดลองใช้ “ยาเคนมผง” รวมไปถึงสารเสพติดชนิดอื่น ให้ตระหนักถึงอันตรายต่อตนเองอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต และนึกถึงผลกระทบต่อครอบครัวที่จะตามมา

รวมคำเตือนอันตราย “ยาเคนมผง”

ป.ป.ส. เผยผลตรวจ “เคนมผง” จากคดีสาวลอบขายในเขตสายไหม เป็น "คีตามีน" ผสม "แวเลียม" ชี้เสพเป็นระยะเวลานาน ทำให้กลายเป็นคนวิกลจริตได้

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยจากกรณีชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจนครบาล 2 เข้าจับกุมหญิงอายุ 23 ปี พร้อมของกลางซึ่งเป็นยาตัวใหม่ที่เรียกว่า “เคนมผง” สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ตรวจพิสูจน์วัตถุของกลาง  ผลปรากฏว่าของกลางที่เรียกว่า “เคนมผง” มีส่วนผสมของคีตามีนและไดอาซีแพม (Diazepam) หรือยาที่ทั่วไปรู้จักกันในทางการค้าว่า แวเลียม (Valium) จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559

ไดอาซีแพม หรือแวเลียม ออกฤทธิ์ที่สมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง ในทางการแพทย์ใช้เป็นยากล่อมประสาทหรือสงบประสาท ทำให้จิตใจสงบ ใช้สำหรับรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แก้อาการชัก เป็นต้น 

ผลข้างเคียงจากการใช้ไดอาซีแพมนั้น อาจทำให้มีอาการง่วงซึม เหนื่อยล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง ร่างกายสูญเสียความสมดุล ลมหายใจอ่อนแรง มึนงง เห็นภาพหลอน ซึมเศร้า กล้ามเนื้อกระตุก กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมถึงเกิดอาการชักได้ โดยความผิดในฐานผู้ขาย ต้องระวางโทษจำคุก 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 – 1,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานหรือคนในครอบครัว หากพบมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ให้รีบพูดคุยด้วยเหตุผล ไม่ใช้ความรุนแรง บอกกล่าวถึงอันตรายที่อาจจะตามมา  หากพบว่าบุตรหลายหรือคนใกล้ชิดมีการเสพยา ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และสามารถขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับยาและสารเสพติดได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 และหรือเข้ารับการบำบัดรักษาที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์  จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th