posttoday

ไม่มีกลีบกุหลาบ บนเส้นทางนักบิน

24 มีนาคม 2559

เครื่องบินทะยานจากพื้นดินขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ต่างจากเส้นทางนักบินที่ทุกคนล้วนเริ่มต้นจากจุดเดียวกัน

โดย...กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย

เครื่องบินทะยานจากพื้นดินขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่ต่างจากเส้นทางนักบินที่ทุกคนล้วนเริ่มต้นจากจุดเดียวกัน โดยไม่สนใจว่าคุณจะเก่งมาจากไหน อายุเท่าไหร่ เพศอะไร อย่างว่าที่นักบินและว่าที่กัปตันทั้ง 3 คนนี้ เขาและเธอมีชีวิตต่างกัน มีปัจจัยแวดล้อมต่างกัน แต่มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างคือ ฝันเดียวกัน

พวกเขาจึงพยายามสู้เพื่อฝันบนเส้นทางที่ไร้กลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนเข้าใจ

จากดวงดาวสู่ฟากฟ้า

นักเรียนการบินชั้นปีที่ 3 สิงโต-สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล หรือ สิงโต เดอะ สตาร์ กำลังศึกษาอยู่สาขาวิชานักบินพาณิชย์ สถาบันการบิน มหาวิทยาลัยรังสิต อันเป็นผลจากความชอบเครื่องบินในวัยเด็กทำให้เขาอยากเป็นนักบินไปโดยปริยาย โดยหลักสูตรดังกล่าวต้องเก็บชั่วโมงบิน 202 ชม.ขึ้นไป และเมื่อจบการศึกษาจะสามารถสมัครเข้าสายการบินพาณิชย์ได้ต่อไป

เขาสารภาพว่า หลักสูตรการบินไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องจำทฤษฎีและปฏิบัติมาก รวมถึงต้องรับความกดดันสูงจากหน้าที่ความรับผิดชอบ ส่วนคุณสมบัติของการเป็นนักบินที่ดี อย่างแรกเขาบอกว่า ต้องมีใจรักในอาชีพ และมีทัศนคติที่ดี

ไม่มีกลีบกุหลาบ บนเส้นทางนักบิน สิงโต เดอะ สตาร์

 

“อย่าคิดว่าอาชีพนี้เงินเดือนสูงเท่านั้น หรือดูเท่ดูเก๋ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เพราะอาชีพนี้ต้องทำงานกับความกดดันและต้องมีความรับผิดชอบสูงมาก เพราะไม่ใช่แค่ชีวิตเราคนเดียว แต่คือชีวิตของผู้โดยสารอีกสองหรือสามร้อยคนบน
เครื่องบิน”

รวมถึงต้องมีความอดทน แบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัว และต้องเตรียมงบประมาณเพื่อการเรียน อย่างตัวเขาก็หาเงินทุกบาททุกสตางค์เองทั้งหมด โดยต้องใช้เงินมากกว่าสองล้านเจ็ดแสนบาท นอกจากนี้หากได้เป็นนักบินเต็มตัวแล้ว เขาจะไม่ทิ้งอาชีพในวงการบันเทิง เพราะทั้งหมดล้วนเป็นงานที่เขารักและตั้งใจที่จะรักษาสมดุลไว้ให้ดีที่สุด

นักบินหญิง สู้เพื่อฝัน

เส้นทางของนักบินหญิง ปุ๊ก-พนิตา เหลืองนาคทองดี วัย 38 ปี ตำแหน่ง First Officer Trainnee สังกัดสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เธอเริ่มต้นจากการเป็นเด็กสายศิลป์ เอกภาษาอังกฤษ ทำงานไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องบิน กระทั่งได้รื้อความฝันที่เก็บไว้ด้วยการตัดสินใจเข้าโรงเรียนการบิน ในวันนี้เธอได้เป็นนักบินสมใจและกำลังสะสมประสบการณ์เพื่อเป็นกัปตัน

“ตอนเด็กๆ ได้ขึ้นเครื่องบิน และเคยมีแอร์โฮสเตสพาเข้าไปดูในค็อกพิท พอได้เห็นก็รู้สึกว่าอยากทำแบบนี้บ้าง รู้เลยว่ามันคืองานที่เราอยากทำ และกลายเป็นความฝันว่าจะโตมาเป็นนักบิน” เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้น จนเวลาผ่านไป 35 ปี พนิตาได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวให้เข้าเรียนที่โรงเรียนกรุงเทพการบิน (บางกอกเอวิเอชั่นเซ็นเตอร์) ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ช้าแต่ยังไม่สายเกินไป

เธอเล่าว่า ในประเทศไทยมีโรงเรียนการบินหลายแห่ง ซึ่งใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งเธอทราบดีว่าการเป็นนักบินไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะชีวิตนักบินไม่ได้สบายอย่างที่คนทั่วไปคิด แต่พอยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้สึกว่านักบินเป็นอาชีพที่ “ใช่ที่สุด”

“ถ้าเราทำมันได้ ผ่านมันมาได้ และประสบความสำเร็จในจุดที่เราคิดเอาไว้ นั่นคือมันใช่ส่วนหนึ่ง แต่มันจะใช่ร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นคือการนำสิ่งที่เรียนไปใช้ในการประกอบอาชีพด้วยความสนุกและมีความสุขกับงาน อยู่กับมันโดยไม่ทุกข์ ก็ถือว่าอาชีพนี้เหมาะกับเรา”

ปัจจุบันสายการบินในประเทศไทยมีการเปิดรับสมัครนักบิน 2 แบบ แบบแรก คือ Qualified Pilot นักบินที่มีใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรีหลังจบการศึกษาจากโรงเรียนการบิน (อย่างเธอ) และ Student Pilot ซึ่งสายการบินจะทำการสอบคัดเลือกว่าที่นักบิน หลังจากนั้นจะส่งไปฝึกบินในโรงเรียนการบิน 1 ปี หลังจากได้รับใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรีก็สามารถเข้าทำงานกับสายการบินนั้นได้เลย

ไม่มีกลีบกุหลาบ บนเส้นทางนักบิน ปุ๊ก-พนิตา เหลืองนาคทองดี

 

“นักบินต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ อาศัยจินตนาการ ประกอบกับความรู้ที่ได้เรียนมา” พนิตากล่าว “นักบินที่ดีต้องมีสายตาเหมือนเหยี่ยว เพราะต้องใช้สายตาที่ดีสังเกตทุกอย่างที่อยู่รอบตัว ต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนสิงโต เพราะต้องอยู่ในสภาวะกดดันกับภาระความรับผิดชอบสูง และมีมือที่นุ่มนวลเหมือนผู้หญิง เพราะต้องใช้ความนุ่มนวลในการควบคุมเครื่องบินเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย”

ส่วนศักยภาพในการเป็นนักบินแล้ว เธอยืนยันว่าระหว่างชายและหญิงไม่มีความแตกต่างกัน อาจจะต่างกันบ้างในแง่ของสรีระ แต่เชื่อว่าผู้หญิงก็สามารถทำการบินได้ดีพอๆ กับผู้ชาย

“นักบินกับการบินหนึ่งไฟลต์เหนื่อยพอๆ กับไปวิ่งรอบสนามหลายรอบ เพราะสมองต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ต้องใช้สมาธิสูงมาก และต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลา ซึ่งทำให้เหนื่อยและล้าพอสมควร ฉะนั้นก่อนไปบิน นักบินควรต้องพักผ่อนและรับประทานให้อาหารให้เพียงพอ” เพราะเหตุนี้อาชีพนักบินพาณิชย์จึงมีการจำกัดชั่วโมงทำงานอยู่ที่ปีละไม่เกิน 1,000 ชม. เดือนละไม่เกิน 110 ชม. และสัปดาห์ละไม่เกิน 35 ชม.

“คิดว่าจะยึดอาชีพนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทำไม่ไหว” เธอกล่าว และเมื่อถึงวันนั้นจะอุทิศตนเผยแพร่ความรู้ให้นักบินรุ่นต่อๆ ไป และเธอยังสนับสนุนให้ทุกคนทำตามฝันและใช้ชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย “ความฝันดูเหมือนยากและไกลเกินเอื้อม แต่เชื่อว่าทุกคนทำความฝันนั้นได้ เงินไม่ได้ซื้อทุกอย่าง เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่ความตั้งใจของเราทั้งสิ้น ถ้าชอบมันมากพอและรักที่จะอยู่กับมัน ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับความอดทนของเรา ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้หรอกว่าทำได้หรือไม่” เธอทิ้งท้าย

ไม่มีกลีบกุหลาบ บนเส้นทางนักบิน เฟม-นิธิวุฒิ โรจน์ประสิทธิ์พร

 

จากเด็กหนุ่มสู่นักบิน

หนุ่มคลีโอปี 2558 เฟม-นิธิวุฒิ โรจน์ประสิทธิ์พร กำลังอยู่บนทางฝันกับอาชีพนักบิน สายการบินไทย ในวัยเพียง 27 ปี ด้วยความที่รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นอะไร ประกอบกับได้รับโอกาสจากครอบครัวที่ให้เลือกเรียนต่อในสาขาที่ชอบ เขาจึงมุ่งหน้าสู่อาชีพนักบินเต็มตัว

“แทบทุกคนต้องเริ่มนับจากศูนย์” เขากล่าว “เพราะวิชาการบินไม่มีสอนในมหาวิทยาลัยทั่วไป คนที่เรียนด้านฟิสิกส์ ด้านวิศวะมาก็อาจนำมาใช้ได้บ้างแต่ไม่ทั้งหมด” นอกจากนี้การเป็นนักบินต้องอาศัยใจรักเป็นสำคัญ คนที่คิดเพียงว่านักบินเป็นอาชีพที่เท่ ได้เงินดี จะอยู่ในวงการนี้ได้ไม่นาน เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ ความรักในอาชีพ

“นักบินต้องมีความรับผิดชอบในตัวเองและรับผิดชอบผู้อื่นอย่างสูง ต้องตระหนักรู้ถึงหน้าที่ของตัวเอง ต้องมีความคิดที่เป็นขั้นเป็นตอน มีเหตุและผล ต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และต้องรักษาสุขภาพอยู่เสมอ” เขาเพิ่มเติม

นับถึงตอนนี้เฟมทำงานเป็นนักบินพาณิชย์ได้ประมาณ 2 เดือน เพิ่งอยู่ในจุดเริ่มต้นที่ยังต้องเก็บชั่วโมงบินและพัฒนาต่อเป็นกัปตัน ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะไปสิ้นสุดที่อายุเท่าไร เพราะนี่คืออาชีพที่เขาตามหาและรู้สึกท้าทายทุกครั้งที่ได้บิน

ข่าวล่าสุด

ประกาศ! ปิดกั้นอ่าวไทย 'สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย' เข้ากัมพูชา