รักนะ...วาฟเฟิล
ได้ไปลิ้มรส “วาฟเฟิล” จนถึงขั้นต้องเอ่ยปาก “รักวาฟเฟิล” เลยเชียว ครั้นจะเก็บไว้คนเดียว ก็ใช่เรื่อง จึงอยากบอกต่อความอร่อย
โดย...อัคร เกียรติอาจิณ
ได้ไปลิ้มรส “วาฟเฟิล” จนถึงขั้นต้องเอ่ยปาก “รักวาฟเฟิล” เลยเชียว ครั้นจะเก็บไว้คนเดียว ก็ใช่เรื่อง จึงอยากบอกต่อความอร่อย
เสิร์ฟชิ้นเบ้อเริ่มเบ้อร่า จะกินหมดมั้ย (ในใจคิด) เอาวะ ยังไงซะต้องหมด หรือถ้าไม่หมด ก็ต้องลองให้ครบถ้วนกระบวนวาฟเฟิลเสียหน่อย เพราะเจ้าของสูตร“คุณตู่” อุตส่าห์นำเสนอ
มาชุดใหญ่ หวานและคาว หวานยังพอคุ้นลิ้น ที่ไหนก็มีให้กิน ส่วนมากร้านขนมก็มักจะเสิร์ฟกัน แต่คาวนี่สิ เรียกว่าเป็นของใหม่ไม่ซ้ำใครและแปลกจนต้องขอประเดิม
อย่าเพิ่งถามชื่อถามแซ่ ณ ตอนนี้ เพราะในปากกำลังเคี้ยวแป้งวาฟเฟิล เออ!!! นุ่ม เบา กรอบนอก ไม่เหมือนวาฟเฟิลที่เคยกิน อีกสักคำ ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม
เมื่อวาฟเฟิลหายวับลงท้อง หันไปถามเจ้าของสูตร ชื่ออะไรหนอ เธอบอกพร้อมอมยิ้ม “วาฟเฟิลไข่และเบคอน” แล้วเธอก็เล่าต่อว่า เป็นจานเด็ดที่ต้องสั่ง จะกินเป็นอาหารเช้า สาย บ่าย ค่ำ ได้ทั้งสิ้น แต่คนก็นิยมกินเช้ากัน ครบครันสำหรับคนที่ชื่นชอบไข่และเบคอน เพียงแต่เปลี่ยนจากขนมปังอบมาเป็นวาฟเฟิลแผ่นนุ่มแทน
มิน่าเล่า คนเขาถึงชอบกิน เพราะมันอิ่มกำลังสบายท้องนี่เอง ยิ่งเฉพาะคนที่ให้ความสำคัญกับมื้อเช้า จานนี้จานเดียวอยู่ได้จนถึงเที่ยง
เหลือบไปเจออีกจานวางข้างๆ เธอให้ลองลิ้มก่อนแล้วค่อยเฉลย คะเนจากรูปลักษณ์ที่เสิร์ฟละม้ายคล้ายแซนด์วิช ไม่รอช้า ขอเปิดดูไส้ พบว่ามีทั้งไก่ทอดและผักสารพัด กัดรวมกัน ให้ความรู้สึกของแป้งวาฟเฟิลนั้นนุ่มและเบา ส่วนไก่ทอดช่วยเพิ่มความอร่อย แล้วไหนจะซีซาร์สลัดรสข้นแกล้มเข้ากันดี แบบนี้ต้องเรียกว่าอร่อยคูณสอง
“จานนี้ชื่อวาฟเฟิลไก่ทอด กินเหมือนแซนด์วิชค่ะ แค่ใช้วาฟเฟิลแทนขนมปัง ซึ่งแป้งวาฟเฟิลที่ตู่นำมาดัดแปลงนั้นจะมีความเบากว่าต้นตำรับวาฟเฟิลเบลเยียม หรือแม้แต่วาฟเฟิลแคลิฟอร์เนียที่ตู่ไปอยู่ที่นั่น ทำให้เวลากินจะไม่รู้สึกหนักเกินไป จะเรียกว่าเป็นการประยุกต์ให้เหมาะกับคนไทยและอากาศประเทศไทยก็ได้ ถ้าเคยกินวาฟเฟิลเบลเยียมตัวแป้งจะเหนียวและแน่น แต่วาฟเฟิลสูตรของตู่จะนุ่มและเบา ชิ้นใหญ่ก็สามารถกินหมดชิ้นคนเดียว”
จริงแท้ตามคำเจ้าของ ขนาดไม่ใช่คนกินเยอะ ยังซัดจนเกลี้ยงจาน ย้ำว่า แป้งวาฟเฟิลของที่นี่นุ่มและเบา ที่สำคัญ ไม่หวานนำ เพราะถ้ายึดถือตามต้นรับเบลเยียมและยุโรปหลายชาติที่กินวาฟเฟิลเป็นล่ำเป็นสัน เช่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ ฮังการี และประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ก็มักจะเสิร์ฟวาฟเฟิลเป็นของหวาน
ยิ่งเมื่อไล่ย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์อาหาร ก่อนศตวรรษที่ 9-10 ที่ปรากฏหลักฐานแม่พิมพ์วาฟเฟิล และต่อเนื่องจนถึงปี 1725 ที่ใช้คำว่าวาฟเฟิลในภาษาอังกฤษ ก็นิยมเสิร์ฟเป็นของหวาน Brussels waffles คือหนึ่งวาฟเฟิลรสอันหวานเอกอุ
Liege waffle วาฟเฟิลแป้งมีความแน่นและเหนียว ยังคงด้วยรสหวานของน้ำตาลและคาราเมลขณะที่ Flemish waffle ถ้าขาดความหวานไปไม่อาจยกให้เป็นวาฟเฟิลตอนเหนือของฝรั่งเศส กระทั่ง Stroopwafels วาฟเฟิลที่มีความกรุบกรอบ มีขายในซูปเปอร์ ต้องมีความหวานนำ
ที่สหรัฐ วาฟเฟิลได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งเมนูยอดนิยม มีทั้ง American Waffles กับ Belgian Waffles นอกจากจะเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น ถั่วพีแคน ช็อกโกแลต ผลเบอร์รี่ ไอศกรีม แต่เวลาเสิร์ฟวาฟเฟิลจะขาดไซรัปและน้ำผึ้งไม่ได้
ขณะที่วาฟเฟิลสูตรร้านอีทดัสทรี แม้จะเสิร์ฟเป็นของหวาน แต่รู้สึกได้ถึงนุ่มและเบา รสไม่หนัก หรือแป้งไม่แน่น วัดได้จาก 2 จานนี้ “เรดเวลเวต วาฟเฟิล” กับ “สตรอเบอร์รี่ วาฟเฟิล” มีท็อปปิ้งยั่วน้ำลาย ครีมชีส ไอศกรีม ผลไม้ อนาคตเธออาจประยุกต์เอาผลไม้ไทยตามฤดูกาลเสิร์ฟร่วมในจานวาฟเฟิล เช่น มะม่วง ส่วนวาฟเฟิลที่เป็นของคาว ต้องทดลองกันต่อไปว่าส่วนผสมอะไรจะเหมาะและไปกันได้ดีกับวาฟเฟิล
“ตู่มองว่าวาฟเฟิลมันคือของคาวที่มีรสหวาน สำหรับประเทศไทยและคนไทยตู่ว่าจะคุ้นกับวาฟเฟิลที่เสิร์ฟเป็นขนมมากกว่า และเพิ่งจะได้รับความนิยมปีที่แล้วเอง แต่ที่ต่างประเทศวาฟเฟิลมีมายาวนาน ส่วนใหญ่ก็กินเป็นของหวาน ถ้าจำไม่ผิด เมื่อสองปีวาฟเฟิลไก่ทอดนี่ติดอันดับเทรนด์อาหารโลกเลยนะคะ ที่ตู่ไปอยู่ก็ไม่มีร้านขายวาฟเฟิลเฉพาะ เหมือนร้านแพนเค้ก หรือ I-HOP (อินเตอร์เนชั่นแนล เฮ้าส์ ออฟ แพนเค้ก) แต่จะขายรวมกับแพนเค้กแบบเจาะจงเหมือนร้าน I-HOP ก็ยังไม่เห็น ส่วนวาฟเฟิลที่เสิร์ฟเป็นของคาวคนไทยอาจจะต้องใช้เวลานิดหนึ่ง
ส่วนผสมของวาฟเฟิลก็มีแป้ง ไข่ นม เนย น้ำตาล แล้วก็กลิ่นส้ม สูตรเหมือนต้นตำรับ เพราะมันคือเรื่องของวิทยาศาสตร์ แต่เทคนิคการทำแต่ละที่จะแตกต่างกัน อย่างสูตรของตู่แป้งก็ต้องใหม่ทุกวัน การตีไข่ก็เป็นหนึ่งเทคนิคที่ทำให้เกิดความฟูและความนุ่ม การผสมและการคนแป้ง ก็มีผลต่อรสชาติ มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆ และต้องอาศัยประสบการณ์ เรื่องความหวานตู่ก็จะลดความหวานลง เคยกินวาฟเฟิลบางร้านมั้ยคะ จะเชื่อมเลย เพราะส่วนตัวตู่ไม่ชอบวาฟเฟิลแบบนั้น ชิ้นเล็กๆ ก็กินไม่หมด เพราะมันแน่นเกินไป ยิ่งเป็นของคาวแป้งวาฟเฟิลต้องเบาค่ะ”
ลองไปลิ้มวาฟเฟิลทั้งคาวและหวานสูตรร้านอีทดัสทรีได้ (ระหว่างทองหล่อ 19-21) เปิดตั้งแต่เวลา 07.30-21.00 น. โทร. 02-185-1842
แล้วคุณจะ “รักวาฟเฟิล” (เหมือนกับเรา)


