posttoday

ก่วม–เมเปิ้ล (ไม้ต้นเขตอบอุ่นที่ปลูกได้ในเมืองไทย) (2)

14 ธันวาคม 2557

ฉบับที่แล้วได้กล่าวถึงก่วม หรือเมเปิ้ลในประเทศไทยและเล่าถึงเมเปิ้ลในยุโรปมาบ้างแล้ว

 

ก่วม–เมเปิ้ล (ไม้ต้นเขตอบอุ่นที่ปลูกได้ในเมืองไทย) (2)

ฉบับที่แล้วได้กล่าวถึงก่วม หรือเมเปิ้ลในประเทศไทยและเล่าถึงเมเปิ้ลในยุโรปมาบ้างแล้ว เมเปิ้ลจากญี่ปุ่นซึ่งผู้เขียนนำมาปลูกอยู่บนสวนบอนไซที่ดอยอ่างขาง ได้แก่ Acer Palmatum ซึ่งมีอยู่หลายพันธุ์ แต่ต้องยอมรับว่าเมเปิ้ลญี่ปุ่นนี้ปลูกได้ไม่ง่ายนัก เพราะชอบดินเป็นกรดอ่อน มีฮิวมัส (อินทรียวัตถุที่สลายตัวแล้ว) สูง ดินต้องระบายน้ำดี และมีร่มเงาให้บ้างเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน ซึ่งเมืองไทยมีแสงแดดจัดจ้ามาก ช่วงปลายฝนต้นหนาวยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะท้องฟ้าใส ไร้เมฆหมอกมาช่วยพรางแสงแดดจากดวงอาทิตย์ ทำให้ผู้คนที่เผลอตากแดดผิวหนังไหม้ได้ง่ายๆ ยอดอ่อนของเมเปิ้ลชนิดนี้จะถูกแดดเผาไหม้ตาย

เมเปิ้ลชนิดหนึ่งซึ่งมีใบแฉกงดงามมาก ได้แก่ ก่วมใบเพลน (Acer Platanoides) ซึ่งมีพันธุ์ขอบใบด่างสีครีม งดงามเป็นยอด คำว่าก่วมใบเพลนนี้ ผู้เขียนหมายถึงต้นเพลน (Plantanus Orientalis) ซึ่งเราเก็บเมล็ดมาจากต้นที่ปลูกไว้ข้างถนนสายหนึ่งริมแม่น้ำแซนในกรุงปารีส ใบของมันเป็นแฉก 5–6 แฉก เปลือกล่อนเป็นลายสวยมาก เรานำมาเพาะปลูกอยู่บนสถานีเกษตรหลวงดอยอ่างขาง บัดนี้ต้นใหญ่สูง 2–3 เท่าตัวคนแล้ว เรียกได้เต็มปากว่าเป็นต้นเพลนต้นแรก และในเมืองไทยก็ไม่มีที่ใดอีก หากขึ้นไปดอยอ่างขางก็ควรเดินเข้าไปดูได้ ส่วนต้นก่วมใบเพลนที่มีใบด่างเรียกว่าพันธุ์ Drummondii นี้ ใบจะกลับเป็นเขียวล้วนได้ เพราะหากมันเจริญเติบโตดีๆ ก็มักจะแข็งแรงพอที่จะกลับเป็นใบเขียวล้วนได้ จึงต้องลิดกิ่งที่มีใบเขียวล้วนออกทิ้งเสีย เพื่อคงความด่างเอาไว้ให้ชื่นชมกันได้เสมอ

ก่วม–เมเปิ้ล (ไม้ต้นเขตอบอุ่นที่ปลูกได้ในเมืองไทย) (2)

 

ต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นซึ่งปลูกเป็นบอนไซเพราะมีใบเล็กนั้นต้องนำออกจากกระถางบอนไซหากมีรากเต็มกระถาง การนี้จะต้องทำการตัดแต่งรากในฤดูที่มันนอนหลับพักตัวตอนช่วงเดือน พ.ย.–ม.ค. จากนั้นจึงผสมเครื่องปลูกให้ใหม่ โดยใช้พีทผสมเพอไลท์ และดินใหม่จากบนภูเขาหินปูน และเติมทรายหยาบ (ทรายแม่น้ำ) เล็กน้อย ไม่ควรใช้ปุ๋ยเคมีใดๆ เลย

เมเปิ้ลหรือก่วมบางชนิดมีถิ่นกำเนิดอยู่ในเทือกคอคาเซียน (Caucasian) เช่น Acer Cappadocicum พบในตุรกีก็มีอยู่หลายชนิด พวกนี้มีใบ 5–7 แฉก ใบอ่อนสีเหลือง–แดงเข้ม อีกชนิดคือ Acer Ginnata หรือเมเปิ้ลอามูร์ (Amur Maple) ออกดอกหอม พบในเทือกเขาสูงของตุรกี ส่วนเมเปิ้ลใบเพลนนั้นเรียกกันว่า นอร์เว เมเปิ้ล บางพันธุ์ให้ใบสีแดงสดสวยงามมาก

เมเปิ้ลญี่ปุ่นแท้ ได้แก่ Acer Japonicum (A.shirasawanum) มีพันธุ์ใบเหลือง ทรงพุ่มกลมโตช้า เพราะมีใบเหลืองอ่อน ปลูกเลี้ยงยาก ขายเป็นบอนไซราคาสูงมากทีเดียว ที่สวนบอนไซในญี่ปุ่นเรายังพบเมเปิ้ลใบรูปฝ่ามือ (A.palmatum) พันธุ์ Dissectum “Garnet” ซึ่งมีใบสีม่วง ยอดดอกสีแดงโกเมน งดงามสมราคา แต่ปลูกง่าย

ก่วม–เมเปิ้ล (ไม้ต้นเขตอบอุ่นที่ปลูกได้ในเมืองไทย) (2)

 

ในอังกฤษมีเมเปิ้ลที่ใบสวยเป็นเลิศไม่อาจจะอธิบายได้ถูก นอกจากจะบอกว่ามีใบสีชมพู 5–6 แฉก ยากจะหาต้นไม้อื่นใดมาเปรียบ ดูรูปถ่ายก็คงไม่งามเท่าได้เห็นต้นจริงหรอกครับ ป้ายที่ต้นติดเอาไว้ว่าเป็น Acer Pseudoplatanus หรือก่วมใบเพลน (ปลอม) พันธุ์ “Brillian Tissimum” สมชื่อพันธุ์จริงๆ

ก่วมใบเพลน (ปลอม) หรือ A.pseudoplatanus “Brilliantissimum” นี้ มีชื่ออีกชื่อคือ พันธุ์ปรินซ์ แฮน จีรี (Prinz Handjery) เป็นเมเปิ้ลซึ่งมีการเจริญเติบโตช้า (อธิบายได้เพราะมีคลอโรฟิลล์อยู่น้อย จึงสังเคราะห์ด้วยแสงได้น้อยนั่นเอง) ทรงต้นเป็นพุ่มเตี้ยกระชับ ฟอร์มกลม ใบสีชมพูคล้ายเนื้อกุ้งทะเล และเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลือง–เขียวอ่อนในที่สุด ปลูกได้ดีในระดับ 1,200 เมตรของประเทศไทย โดยมากเขาจะเอาต้นพันธุ์มาเสียบเข้าที่ต้นตอของเมเปิ้ลธรรมดาคือ A.pseudo platanus

ข่าวล่าสุด

พรรคประชากรไทย ชู 4 เสาหลักพลิกฟื้นประเทศ ส่งชิงเก้าอี้ สส.261 คน สู้ศึกเลือกตั้ง‘69