ธปท.–ปปง. จับมือคุมเข้มซื้อขายทองคำ ปิดช่องทำธุรกรรมผิดกฎหมาย
ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงาน ปปง. ตั้งคณะทำงานร่วม ยกระดับแนวทาง กำกับดูแลการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(สำนักงาน ปปง.) ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับกำกับดูแลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
เนื่องจากปัจจุบันราคาทองคำมีความผันผวนและพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จนมีปริมาณการซื้อขายทองคำสูงขึ้นมาก และเพิ่มแรงกดดันต่อค่าเงินบาทด้านแข็งค่าอย่างมีนัยสำคัญ
ที่ผ่านมา ธปท. ได้เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของกลุ่มบริษัททองคำ และกำหนดให้กลุ่มผู้ค้าทองคำรายใหญ่รายงานข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายทองคำมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในหลายมิติเพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำความผิดใช้ผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำเป็นช่องทางในการฟอกเงิน
อย่างไรก็ดีปริมาณการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลกดดันค่าเงินบาท ธปท. และสำนักงาน ปปง. จึงยกระดับการร่วมกันตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่มีการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ
รวมทั้งตรวจจับธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย โดยเฉพาะธุรกรรมซื้อขายทองคำบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีปริมาณธุรกรรมสูงขึ้นมากผิดปกติ โดยร่วมกันจัดตั้ง คณะทำงานร่วมเพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ด้านดังนี้
1.การเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูล ยกระดับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อปิดช่องว่างทางกฎหมาย โดยเน้นการระบุผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Ultimate Beneficial Owner: UBO) ให้เข้มข้นขึ้นเพื่อป้องกันการใช้ตัวแทนอำพราง (Nominee) ในการซื้อขายทองคำปริมาณมาก และทำให้การติดตามบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์มากขึ้น
2.การวิเคราะห์พฤติกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย เพื่อกำหนดปัจจัยบ่งชี้พฤติกรรมผิดปกติพร้อมทั้งเสนอแนวทางป้องกันและจัดการกับธุรกรรมที่ผิดปกติดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม
3.การกำหนดแนวทางการกำกับดูแลและตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ โดยจัดทำแนวทาง การยกระดับการกำกับดูแลและตรวจสอบติดตามธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำให้ครอบคลุม เข้มข้น และ
มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายใต้อำนาจตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง ธปท. และสำนักงาน ปปง. ในครั้งนี้ จะทำให้การกำกับดูแลธุรกรรม ที่เกี่ยวข้องกับทองคำมีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น เป็นการปิดช่องว่างที่ไม่มีหน่วยงานเฉพาะในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจค้าทองคำ
รวมทั้งป้องกันมิให้การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทองคำถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย เพิ่มความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการลงทุนทองคำ อันจะนำไปสู่เสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและการเงินในภาพรวม


