สีฟ้าหลังฝนใน ‘หรู่เหยา’ สีอินเทรนด์แห่งรัชสมัยซ่งฮุยจง
ซ่งฮุยจง เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 8 ในสมัยราชวงศ์ซ่ง รัชสมัยของพระองค์อยู่ในช่วงเดียวกับบรรดาจอมยุทธเลื่องชื่อทั้งหลายโลดแล่น
ซ่งฮุยจง เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 8 ในสมัยราชวงศ์ซ่ง รัชสมัยของพระองค์อยู่ในช่วงเดียวกับบรรดาจอมยุทธเลื่องชื่อทั้งหลายโลดแล่น ไม่ว่าจะเป็นมารบูรพา อึ้งเอี๊ยะซือ พิษประจิมอ้าวเอี้ยงฮง หรือแม้กระทั่งซ้องกั๋ง บู๊ซ้ง และเกาฉิว แห่งวรรณกรรมอมตะเรื่องผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาเหลียงซาน
แต่ในยุคที่ยุทธจักรเต็มไปด้วยจอมยุทธฝีมือเลิศล้ำ (ในจินตนาการ) ฮ่องเต้ผู้ครองแผ่นดินยุคนั้นกับไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญวรยุทธ หรือการรบแต่อย่างใด พระองค์เชี่ยวชาญอยู่เรื่องเดียวคือศิลปะ
ความเชี่ยวชาญและรสนิยมของซ่งฮุยจง เป็นเอกอุในประวัติศาสตร์ฮ่องเต้จีน พระองค์เป็นทั้งศิลปินและผู้ส่งเสริมศิลปะ ศิลปะในสมัยนั้นจึงมีรสนิยมสูง และเฟื่องฟูในหลากหลายด้าน ส่งอิทธิพลต่อโลกศิลปะจีนและประเทศใกล้เคียงอย่างต่อเนื่องมานานนับพันปี
กล่าวได้ว่าศิลปะจีนที่เรารู้จักกันในยุคนี้ มีรากมาจากยุคราชวงศ์ซ่ง
หนึ่งในศิลปะยุคซ่งฮุยจงที่ขึ้นชื่อลือชาจนต้องกล่าวถึงทุกครั้งคือเครื่องเคลือบในรัชสมัยของพระองค์
แต่ละราชวงศ์จีนมักมีศิลปะเครื่องเคลือบเป็นของแต่ละราชวงศ์เอง ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างสรรค์ในช่วงต้นราชวงศ์และสืบสานต่อเนื่องกันไป แต่ฮ่องเต้ซ่งฮุยจง ซึ่งอยู่ในรัชสมัยที่ 8 ผลักดันเครื่องเคลือบชนิดใหม่ขึ้นมาเฉพาะยุคสมัยของพระองค์ หนึ่งในนั้นคือเครื่องเคลือบ "หรู่เหยา"
ว่ากันว่าวันหนึ่งซ่งฮุยจงฝันเห็นท้องฟ้ากระจ่างใสหลังเมฆฝนเคลื่อนหายไปมีสีสันงดงาม จึงปรารภกับข้าราชบริพารว่า ถ้าหากได้สีของท้องฟ้าในฝันมาไว้บนเครื่องเคลือบก็คงจะดีมิใช่น้อย... เป็นกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ และไม่ตรัสล้อเล่นให้เสียเปล่า ฝันก็ต้องไม่เสียเปล่าด้วยเช่นกัน
ซ่งฮุยจงทรงรับสั่งให้ช่างทำเครื่องเคลือบที่มีสีดั่งท้องฟ้าหลังฝนในฝัน มาแทนที่เครื่องเคลือบสีขาวทึบ ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้นที่ซ่งฮุยจงเห็นว่าสีขาวทึบแบบนั้นสะดุดตาและดูโดดเด่นเกินสีสันธรรมชาติ
สีสันใหม่ที่ซ่งฮุยจงอยากได้ไม่ง่ายเลย สีสันหลากหลายที่เคยพัฒนาขึ้นในเครื่องเคลือบราชวงศ์ถังก็ไม่ใช่ที่พระองค์ต้องการเลยสักสี อีกทั้งต้องทดลองที่อุณหภูมิหลากหลาย จึงค้นพบว่าหรู่เหยาต้องถูกเคลือบด้วยสารเคลือบสูตรใหม่และเผาด้วยอุณหภูมิที่ 1,000 องศาเซลเซียส (น้อยกว่าเครื่องเคลือบปกติประมาณ 200 องศาเซลเซียส) จึงจะได้สีที่ตรงตามความต้องการ หากมากไปหรือน้อยไป สีที่ได้จะออกเขียวหรือไม่ก็ออกฟ้าเข้ม ไม่เหมือนโทนท้องฟ้าหลังฝนของซ่งฮุยจง
แต่เมื่อพันกว่าปีที่แล้วจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิอย่างแม่นยำขนาดนั้นได้ที่ไหนกัน บรรดาช่างยุคนั้นจึงได้แต่สังเกตอุณหภูมิของเตาเอาด้วยตาเนื้อ
นั่นทำให้การเผาแต่ละครั้งได้ชิ้นงานที่มีสีตามที่ต้องการเพียงน้อยนิด แม้กระทั่งในเตาเผาเดียวกัน ตำแหน่งวางเครื่องเคลือบต่างตำแหน่งกันก็ยังส่งผลถึงสีสัน เผาครั้งหนึ่งอาจได้เครื่องเคลือบชิ้นสมบูรณ์ไม่กี่ชิ้น และหากชิ้นใดที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ซ่งฮุยจงจะสั่งทำลายทิ้งให้หมด
เครื่องเคลือบที่ได้นอกจากมีผิวสีฟ้ากระจ่างใสแล้วยังมีเหลือบเหลืองและฟ้าเข้มปนอยู่เล็กน้อย ตามทิศทางของแสงที่ตกกระทบและมุมมอง หรู่เหยาหลายชิ้นยังมีสีม่วงอมแดงอ่อนระเรื่อที่บริเวณขอบภาชนะ ว่ากันว่าสีม่วงอมแดงที่ขอบหรู่เหยา เกิดจากการนำหินอาเกต (หินโมรา) บดแล้วเจือลงในน้ำยาเคลือบ
นอกจากสีสันมหัศจรรย์ รูปทรงของหรู่เหยาแต่ละชิ้นยังมีความเรียบหรู เครื่องเคลือบหรู่เหยาถูกผลิตออกมาในสไตล์ไร้การประดับประดา เรียบง่ายแต่สง่างาม คล้ายศิลปะยุคโมเดิร์นมากกว่าวัตถุโบราณเมื่อกว่าหนึ่งพันปีที่แล้ว
นั่นเป็นเพราะซ่งฮุยจงมีความศรัทธาในลัทธิเต๋าเป็นพิเศษ ความเชื่อในลัทธิเต๋าซึ่งเน้นวิถีธรรมชาติ สะท้อนออกมาในสีสันและรูปร่างอันบริสุทธิ์ของ หรู่เหยา
แต่รัชสมัยของซ่งฮุยจงนั้นแสนสั้น ภายหลังพระองค์ถูกพวกจินจับไปเป็นเชลย ทำให้ราชวงศ์ซ่งต้องย้ายเมืองหลวงไปทางใต้ เครื่องเคลือบหรู่เหยาจึงมีการผลิตขึ้นในช่วงระยะเวลาเพียง 20 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นรสนิยมของเครื่องเคลือบก็พัฒนารูปแบบไปในทิศทางอื่น
หรู่เหยาได้ชื่อว่ามีรสนิยมสูงล้ำและหลงเหลืออยู่น้อยชิ้นจากข้อมูลปี 2015 ทั่วโลกมีเครื่องเคลือบหรู่เหยาเหลืออยู่เพียง 92 ชิ้น ในวงการค้าขายวัตถุโบราณ หรู่เหยาแต่ละชิ้นจึงมีมูลค่ามหาศาล หรู่เหยาที่ถูกประมูลด้วยสถิติราคาสูงสุดคือ จานหรู่เหยาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 13 ซม. ถูกประมูลไปในเดือน ต.ค.ปีนี้ด้วยราคา 37.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,258 ล้านบาท) ทำลายสถิติมูลค่าการประมูลเครื่องเคลือบจีนทุกชิ้นในประวัติศาสตร์
ไม่ใช่แค่คนในยุคปัจจุบันเท่านั้นที่ให้ค่าหรู่เหยาสูงส่ง ฮ่องเต้เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิงที่คลั่งไคล้งานศิลปะ ก็ตามล่าหาหรู่เหยามาสะสม เมื่อองค์เฉียนหลงได้เครื่องเคลือบหรู่เหยามา พระองค์จะจัดอันดับความสวยงามแล้วเขียนระบุลงไปว่าชิ้นไหนเป็นหรู่เหยาชั้นยอดและชั้นรอง เก็บรักษาไว้อย่างดีเพื่อชื่นชม
จะว่าไปก็เป็นเรื่องตลก ซ่งฮุยจงพ่ายแพ้แก่พวกจิน ถูกจับไปกักขังและใช้ชีวิตอย่างอดสู ชาวจินเป็นชนเผ่าที่เป็นบรรพบุรุษดั้งเดิมของชาวแมนจู ซึ่งในอีกไม่กี่ร้อยปีถัดสามารถบุกยึดแผ่นดินจีนจนก่อตั้งราชวงศ์ชิงขึ้นมาได้ ถ้ามองในแง่การทหาร ชัยชนะทางกายภาพของพวกจินและพวกแมนจูย่อมอยู่เหนือกว่าชาวจีน
แต่ด้านวัฒนธรรมซ่งฮุยจง-ฮ่องเต้ผู้ได้ชื่อว่าอ่อนแอและพ่ายแพ้ต่อพวกจินซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวแมนจูนี่แหละ ที่นำผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์ในรัชสมัยของพระองค์เอาชนะพวกชนเผ่านอกด่านอย่างยั่งยืนและข้ามกาลเวลา
แม้เมื่อราชวงศ์ชิงต้องอำลาเวทีประวัติศาสตร์ไปแล้ว เครื่องเคลือบหรู่เหยาก็ยังถือเป็นผลงานศิลปะทรงคุณค่าที่ซ่งฮุยจงทิ้งไว้ให้กับวัฒนธรรมจีน
จะว่าไปในปัจจุบันผู้คนอาจไม่เข้าใจความอินในความละเอียดอ่อนของสีท้องฟ้าหลังฝนในฝันของซ่งฮุยจง เพราะระบบอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีจอทีวี ทำให้โลกยุคนี้เสกสีสันอะไรขึ้นมาก็ย่อมได้ เทรนด์สีแห่งปีของโลกยุคนี้ จึงมีเบื้องหลังที่แท้จริงไว้เพียงเพื่อกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมไม่ให้แตกกระสานซ่านเซ็น ทำให้อุตสาหกรรมทิศทาง ทำงานง่ายขึ้น ลงทุนน้อยลง
แต่สำหรับพันกว่าปีที่แล้ว สีของสิ่งของเครื่องใช้ที่มีสีสันผิดแปลกไปจากธรรมชาติ คือการระดมความทุ่มเท คือสิ่งมหัศจรรย์แห่งยุค และสำหรับซ่งฮุยจงนี่คือความพยายามเก็บสีท้องฟ้าหลังฝนราชวงศ์ซ่งในฝันไว้ในเครื่องเคลือบหรู่เหยาชั่วกัปชั่วกัลป์


