สินค้าจำเป็น หรือสินค้าฟุ่มเฟือย มีลุ้นกำไรได้ทั้งคู่
หลังจากเงียบหายไปจากความสนใจของนักลงทุนไทยพักใหญ่ อยู่ๆ ก็มีข่าวใหญ่เขย่าวงการแฟชั่นโลก และหุ้นในกลุ่ม Luxury Brand ให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ Bernard Arnault ประธานและซีอีโอของ LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Christian Dior มูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4.5 แสนล้านบาท ทำให้กลุ่ม LVMH เข้าครอบครองกิจการทั้งหมดของ Christian Dior เรียบร้อยแล้วและนอกจาก Louis Vuitton และ Christian Dior แล้ว กลุ่ม LVMH ยังมีอีก 70 แบรนด์ เช่น Tag Heuer, Bulgari, Marc Jacob และ Kenzoเห็นแบบนี้แล้วเลยอยากรู้เลยว่า ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเพิ่มขึ้นไปได้มากแค่ไหนและก็เป็นไปตามคาด ที่ราคาหุ้นทั้งสองบริษัทปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 28 เม.ย.Christian Dior ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 26.45%LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton ราคาเพิ่มขึ้น 24.86%ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นของสองบริษัทนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้น เพราะถ้าลงไปดูราคาสินค้าในกลุ่ม Luxury Brand ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน (เมื่อราคาขายในช็อปปรับเพิ่มขึ้น ก็ทำให้ราคาขายในตลาดมือสองปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย) เช่นกระเป๋า Chanel รุ
หลังจากเงียบหายไปจากความสนใจของนักลงทุนไทยพักใหญ่ อยู่ๆ ก็มีข่าวใหญ่เขย่าวงการแฟชั่นโลก และหุ้นในกลุ่ม Luxury Brand ให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อ Bernard Arnault ประธานและซีอีโอของ LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton ประกาศการเข้าซื้อกิจการ Christian Dior มูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4.5 แสนล้านบาท ทำให้กลุ่ม LVMH เข้าครอบครองกิจการทั้งหมดของ Christian Dior เรียบร้อยแล้ว
และนอกจาก Louis Vuitton และ Christian Dior แล้ว กลุ่ม LVMH ยังมีอีก 70 แบรนด์ เช่น Tag Heuer, Bulgari, Marc Jacob และ Kenzo
เห็นแบบนี้แล้วเลยอยากรู้เลยว่า ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเพิ่มขึ้นไปได้มากแค่ไหน
และก็เป็นไปตามคาด ที่ราคาหุ้นทั้งสองบริษัทปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 28 เม.ย.
Christian Dior ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 26.45%
LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton ราคาเพิ่มขึ้น 24.86%
ไม่ใช่แค่ราคาหุ้นของสองบริษัทนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้น เพราะถ้าลงไปดูราคาสินค้าในกลุ่ม Luxury Brand ก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน (เมื่อราคาขายในช็อปปรับเพิ่มขึ้น ก็ทำให้ราคาขายในตลาดมือสองปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย) เช่น
กระเป๋า Chanel รุ่น Classic Flap Bag ที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในสินทรัพย์น่าลงทุน โดยเมื่อดูจากราคาขายนับจากปี 2553 จนถึงปี 2559 ราคาปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยกระโดดขึ้นมาปีละ 40-70%
รุ่นที่ทำราคาได้ดีที่สุด คือ Medium Classic Flap Bag ที่ปรับราคาจาก 2,850 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 9.97 หมื่นบาท เมื่อปี 2553 มาเป็น 4,900 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.71 แสนบาท ในปี 2559 โดยรวมแล้วราคาปรับเพิ่มขึ้น 71.92%
เพราะฉะนั้นถ้าหวังกำไรจากสินค้า Luxury Brand ก็อาจจะซื้อสินค้าโดยตรง หรือจะซื้อหุ้นของบริษัทเหล่านี้ก็ได้
แต่พอไปดูราคาหุ้นแล้ว เห็นทีจะยาก เพราะนอกจากจะต้องออกไปลงทุนต่างประเทศด้วยตัวเองแล้ว ราคาต่อหุ้นก็ไม่ใช่น้อยๆ (ราคาหุ้นสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นแพง) เพราะราคาหุ้น Christian Dior เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2560 อยู่ที่ 251.95 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1 หมื่นบาท/หุ้น
ขณะที่ราคาหุ้น LVMH Moet Hennessy Louis Vuitton อยู่ที่ 226.50 ยูโร คิดเป็นเงินไทยประมาณ 9,060 บาท/หุ้น
ถ้าซื้อสัก 100 หุ้น ต้องใช้เงิน 1 ล้านบาท
เลยย้อนไปนึกว่า ในประเทศไทยก็มีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในกลุ่ม Luxury Brand ซึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2550 (ช่วงที่เปิดขายกองทุนแรกๆ น่าตื่นเต้นมาก) 2 กองทุน ได้แก่
ธนชาตพรีเมียมแบรนดส์ฟันด์ (T-PREMIUM BRAND)
มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีตั้งแต่ 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุน PICTET FUNDS (LUX) - PREMIUM BRANDS ซึ่งจดทะเบียนในประเทศ Luxembourg
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 26 เม.ย. 2560 อยู่ที่ 11.95%
เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ชิค ฟันด์(I-CHIC)
เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Dominion CHIC Fund Limited - Euro IC Share Class (Master Fund) ซึ่งบริหารและจัดการโดย Dominion Fund Management Limited เพียงกองทุนเดียว
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนทั่วโลก โดยมีอัตราส่วนการลงทุนโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 26 เม.ย. 2560 อยู่ที่ 6.60%
นอกจากกองทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่ม Luxury Brand ช่วงหลังๆ ก็มีกองทุนที่เน้นลงทุนสินค้า Global Brand ขึ้นมาอีกหลายกองทุน เช่น
ทิสโก้ โกลบอล คอนซูเมอร์ (TISCOGC)
มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares GlobalConsumer Staples ETF ในสกุลเงินเหรียญสหรัฐ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 27 เม.ย. 2560 อยู่ที่ 8.02
กรุงศรีโกลบอลแบรนด์อิควิตี้ปันผล(KF-GBRAND)
มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ กองทุน Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund (Class Z) (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 27 เม.ย. 2560 อยู่ที่ 7.81%
กองทุนทั้งสองประเภทอาจจะดูคล้ายๆ กัน แต่จากข้อมูลของบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จะพบว่า กลุ่มหุ้นที่กองทุนทั้งสองประเภทนี้เข้าไปลงทุน แม้จะอยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเหมือนกัน แต่แตกต่างกัน
โดยที่ I-CHIC และ T-PREMIUM BRAND จะเน้นลงทุนหุ้นกลุ่ม Consumer Cyclical ในสัดส่วนที่สูงมาก และสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกองทุนหุ้นต่างประเทศที่มีการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้
I-CHIC ลงทุนในกลุ่ม Consumer Cyclical อยู่ 66.93%
T-PREMIUM BRAND ลงทุนในกลุ่ม Consumer Cyclical อยู่ 65.75%
ขณะที่ TISCOGC และ KF-GBRAND จะลงทุนหุ้นกลุ่ม Consumer Defensive โดยเฉพาะ TISCOGC มีสัดส่วนลงทุนสูงถึง 90.95% และ KF-GBRAND ลงทุนอยู่ 51.45%
กิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) อธิบายความหมายของหุ้นสองกลุ่มนี้ว่า กลุ่ม Consumer Cyclical จะเป็นกลุ่มที่มีผลเปลี่ยนแปลงตามสภาพเศรษฐกิจสูง เช่น รถยนต์ บันเทิง โดยในกลุ่มนี้จะรวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือย ส่วนกลุ่ม Consumer Defensive จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจเท่าไรนัก
หรือถ้าจะแบ่งสินค้าอุปโภคบริโภคเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
1.สินค้าจำเป็น (Consumer Staples) เช่น เสื้อผ้า อาหาร
2.สินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ รถยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
แต่ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทไหนก็น่าจะได้ผลดีจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่นับวันจะดีขึ้นเรื่อยๆ
ฉัตรแก้ว เกราะทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภค กับราคาหุ้นทั่วโลก มักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน


