posttoday

ไขความลับชื่อ AI สุดปั่น! Grok, o3, ELMo สะท้อนความล้ำ ครีเอทีฟของคนสร้าง?

24 กุมภาพันธ์ 2568

ทำไมแชทบอท AI ถึงมีแต่ชื่อแปลกๆ มีนัยยะอะไรแฝงไหม? ชวนไขความลับปริศนาชื่อ AI Grok, o3, ELMo ที่สะท้อนความล้ำ ครีเอทีฟของคนสร้างจริงหรือไม่?

ในโลกที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ชื่อของปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลับกลายเป็นเรื่องที่สร้างความสับสนให้กับผู้คนอยู่บ่อยครั้ง ตั้งแต่ Grok, o3, ELMo ไปจนถึงชื่อแปลกๆ อีกมากมาย

 

การตั้งชื่อ AI ให้พิลึกพิลั่น หลายคนคงสงสัยว่า มีความหมายอะไรซ่อนไว้ไหม? ใครเป็นตัวต้นเรื่อง? หรือเป็นเพียงเรื่องตลกภายในของคนในวงการสายเทค? 

 

ChatGPT o3-mini, 4o mini, และ 4 ลำดับชื่อรุ่นยังชวนงง

ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา สตาร์ทอัพ AI ชื่อดังอย่าง OpenAI ได้เปิดตัว ChatGPT โมเดลใหม่ในชื่อ o3-mini ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ AI คู่แข่งจากประเทศจีนอย่าง Deepseek

 

แต่การตั้งชื่อโมเดล ChatGPT แต่ละรุ่นเองก็สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งานไม่น้อย ลองสังเกตดูว่า ChatGPT o3-mini เปิดตัวหลัง ChatGPT 4o mini 6 เดือน

 

ส่วน ChatGPT 4o mini เปิดตัวหลัง ChatGPT 4 ที่มาหลัง ChatGPT 3.5 อีกที  ขณะที่สัปดาห์ก่อน Sam Altman เผยว่า ChatGPT รุ่นต่อไปจะใช้ชื่อว่า 4.5 (หัวจะปวด)

 

คำถามคือ ทำไมชื่อรุ่นแชทบอท AI ถึงได้วกวนขนาดนี้?

ไขความลับชื่อ AI สุดปั่น! Grok, o3, ELMo  สะท้อนความล้ำ ครีเอทีฟของคนสร้าง?

ย้อนรอยการตั้งชื่อของ OpenAI

แต่เดิมนั้น OpenAI เคยใช้ตัวเลขเรียงลำดับที่เข้าใจได้ง่าย เหมือนกับชื่อรุ่นของ iPhone แต่เมื่อเทคโนโลยี AI พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

 

การตั้งชื่อแบบเดิมๆ ก็ดูจะไม่ทันสมัย กลยุทธ์การตั้งชื่อก็เริ่มเปลี่ยนไป พวกเขาจึงเริ่มใช้ตัวอักษรและคำต่างๆ เข้ามาผสมปนเป ทำให้ชื่อรุ่นของ ChatGPT ดูแปลกตาและเข้าใจยากยิ่งขึ้น

 

Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI เองก็ยอมรับถึงปัญหาในการตั้งชื่อ แม้แต่ ChatGPT แชทบอท AI ชื่อดังของบริษัท Sam ก็ยังออกปากว่าเป็น "ชื่อที่แย่"

 

และถ้าเขาย้อนเวลากลับไปได้ เขาคงไม่เลือกชื่อ OpenAI เป็นชื่อบริษัทด้วยซ้ำ

ธรรมเนียมการตั้งชื่อแปลกๆ ของวงการไอที

การตั้งชื่อแปลกๆ นั้นกลายเป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งในวงการเทคโนโลยี บริษัทชั้นนำหลายแห่งที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นปี 2000 มักจะใช้คำที่ไม่มีความหมายในการตั้งชื่อ

 

เพราะคำเหล่านั้นมักจะซื้อเป็นชื่อโดเมนได้ในราคาถูก เช่น Zynga, Flickr และ Zillow

 

ถึงแม้ว่าในช่วงสิบปีที่ผ่านมา สตาร์ทอัพ AI จะเลือกใช้ชื่อที่ฟังดูสมเหตุสมผลมากขึ้น (เช่น OpenAI, xAI) แต่ก็ต้องยอมรับว่าวงการเทคยังคงรักษาธรรมเนียมการตั้งชื่อแปลกๆ เอาไว้

 

เมื่อไม่กี่ปีก่อนเว็บไซต์ The Verge ได้สังเกตเห็นเทรนด์การใช้ชื่อตัวละครจาก Muppet เป็นชื่อย่อของโมเดล AI เช่น ELMo, Big BIRD และ ERNIE

 

ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำเพื่อความสนุกสนานของทีมวิจัยและพัฒนาเท่านั้น

 

มุกตลกในวงการและความหมายที่มีแค่ทีมวิจัยและพัฒนาเข้าใจกันเองก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อธิบายได้ว่าทำไมชื่อ AI ถึงได้มีความแปลก

 

ยกตัวอย่างเช่น แชทบอท "Grok" ของ Elon Musk คำนี้เป็นศัพท์เฉพาะในวงการเทคโนโลยีที่หมายถึงการเข้าใจบางสิ่งอย่างลึกซึ้ง

 

ทั้งยังมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์ปี 1960 ที่ Musk ชื่นชอบ เรื่อง Stranger in a Strange Land โดยเนื้อเรื่องบอกเล่าถึงเด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยมนุษย์ดาวอังคารก่อนจะเดินทางมายังโลก

ไขความลับชื่อ AI สุดปั่น! Grok, o3, ELMo  สะท้อนความล้ำ ครีเอทีฟของคนสร้าง?

ชื่อ AI ที่สื่อถึงความทะเยอทะยาน

Google ได้เปลี่ยนชื่อแชทบอท AI ของบริษัทเป็น Gemini เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของบริษัท 

 

ชื่อ Gemini ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ AI แต่อย่างใด คำอธิบายอย่างเป็นทางการของบริษัทบอกว่ามันเป็นชื่อของกลุ่มดาวที่เชื่อมโยงกับฝาแฝดในตำนานเทพปกรณัมกรีก

 

และสื่อถึงความสำคัญของผู้ช่วย AI ที่มี "บุคลิกภาพสองด้าน สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว" 

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีคำอธิบายที่น่าเชื่อถือกว่านั้นคือ Gemini เป็นชื่อโครงการของ NASA ที่ผลักดันโครงการ Apollo

 

ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความทะเยอทะยานของ Google ในการพัฒนา AI ที่จะส่งผลกระทบในระยะยาวเหมือนกับการลงจอดบนดวงจันทร์

 

ชื่อ AI ที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตร

บริษัทที่มีประวัติการขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคมายาวนานมักจะตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ AI ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากกว่า 

 

AI ของ Microsoft ใช้ชื่อว่า Copilot ซึ่งอธิบายได้เป็นอย่างดีว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้เหมือนกับนักบินผู้ช่วย

 

ขณะที่ Apple ใช้ชื่อ Apple Intelligence ซึ่งเป็นการเล่นคำกับตัวย่อ AI ส่วนยักษ์ใหญ่ไอทีสัญชาติเกาหลีอย่าง LG ก็ไปไกลกว่านั้นด้วยการเรียก ระบบ AI ของตัวเองว่า Affectionate Intelligence

 

อนาคตของการตั้งชื่อ AI

เมื่อปีที่แล้ว OpenAI ได้ประกาศว่าพวกเขาได้ซื้อโดเมน chat.com มาแล้ว ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า OpenAI อาจจะเปลี่ยนชื่อ ChatGPT เป็น Chat เฉยๆ

 

สรุปคือ ถึงแม้ว่า ChatGPT จะมีชื่อเต็มที่ยาว (Generative Pre-trained Transformer) และไม่สื่อถึงการทำงานของมันเท่าไหร่

 

แต่ชื่อย่อของ ChatGPT ก็ยังเป็นที่นิยมและใช้เรียกแชทบอท AI อื่นๆ ไปด้วย ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า OpenAI จะตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ ChatGPT เป็น 'Chat' จริงๆ หรือไม่

 

และถ้าเปลี่ยนแล้ว ผู้คนจะตอบรับกับชื่อใหม่นี้ยังไง เพราะจากบทเรียนในอดีต การเปลี่ยนชื่อแบรนด์ดังๆ อย่าง Facebook, Google หรือ Twitter ก็ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิดเสมอไป

 

การตั้งชื่อ AI เป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าสนใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของเทคโนโลยี AI และความคิดสร้างสรรค์ของผู้พัฒนา

 

ชื่อ AI บางชื่ออาจมีความหมายที่ซ่อนไว้ ในขณะที่บางชื่ออาจเป็นเพียงมุกตลกหรือรหัสลับภายในของทีมพัฒนา จึงอาจการได้ว่าการตั้งชื่อ AI ยังเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างความสนใจและดึงดูดผู้ใช้งานอยู่ไม่น้อย

ข่าวล่าสุด

Gemini ใน Google สู่การแปล 20 ภาษาผ่านหูฟังแบบเรียลไทม์