เปิดโปร์ไฟล์มือขวาคนสำคัญของปูติน ที่ถูกล้อว่าเป็นจอมมารใส่ปราด้า
ประธานาธิบดีเชเชนคนใกล้ชิดปูตินถูกโซเชียลล้อเลียนเรื่องสวมรองเท้าบู๊ต Prada
ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน การปรากฏตัวของ รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชนที่สวามิภักดิ์กับรัสเซียเรียกความสนใจจากชาวโลกได้ไม่น้อย หลังมีคนตาดีเห็นว่ารองเท้าบู๊ตที่เขาสวมในวันที่ประกาศสนับสนุนรัสเซียบุกยูเครนเป็นร้องเท้าแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Prada คอลเลคชัน Monolith
รองเท้าบู๊ตคู่นี้สนนราคาอยู่ที่ 1,500 เหรียญสหรัฐ หรือราว 48,915 บาท เซเลบสวมกันหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เบลลา ฮาดิด นางแบบแถวหน้า, เซเลนา โกเมซ นักร้องชื่อดัง และมอลลี-เม เฮก อินฟลูเอนเซอร์ชาวอังกฤษ
คาดีรอฟถูกชาวชุมชนออนไลน์ล้อเลียนและวิจารณ์กันสนุกปาก ราจิบ ซอยลู ผู้สื่อข่าวในตุรกี แชร์ภาพของคาดีรอฟพร้อมกับรองเท้าบู๊ต Prada Monolith พร้อมแคปชันว่า “Devil indeed wears Prada” (วายร้ายสวม Prada จริงๆ) ซึ่งเล่นคำกับภาพยนตร์เรื่อง Devil wears Prada หรือนางมารสวมปราดา
Chechen dictator Kadyrov spoke to the Chechen security forces in Prada Monolith boots. He is expected to deploy forces to Ukrainian cities. Devil indeed wears Prada pic.twitter.com/Kt2eYLm4CF
— Rag?p Soylu (@ragipsoylu) February 26, 2022
ผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกรายหนึ่งทวีตว่า “คุณที่เป็นพวกต่อต้านการรักร่วมเพศหนักที่สุดในโลกสวม Prada Monolith เนี่ยนะ????” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ทรมานชาวเกย์แต่สวม Prada ต้องเป็นการเปิดประตูนรกใหม่แน่”
นอกจากรองเท้าบู๊ตแล้ว ในวันนั้นคาดีรอฟยังเผยว่า เขาได้ส่งนักรบเชเชน 70,000 นายไปยูเครนเพื่อร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารรัสเซีย ซึ่งคลิปวิดีโอสั้นๆ ของสำนักข่าว RT ของรัสเซียที่ถ่ายไว้เมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.) เผยให้เห็นนักรบเชเชนหลายพันคนรวมตัวกันกลางจัตุรัสในกรุงกรอซนี เมืองหลวงของเชเชน แสดงความพร้อมสำหรับการสู้รบในยูเครน
ทว่าขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่านักรบเชเชนเหล่านี้ซึ่ง RT ระบุว่ามี 12,000 นายไปถึงยูเครนแล้วหรือยัง โดย RT รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า พวกเขากำลังรอคำสั่งจากปูติน
สำหรับตัวคาดีรอฟเองมีประวัติไม่ธรรมดา และยังใกล้ชิดกับปูตินจนมีกระแสออกมาว่าเขาอาจเป็นทายาททางการเมืองคนหนึ่งของผู้นำรัสเซีย
คาดีรอฟก้าวขึ้นสู่อำนาจเมื่อปี 2005 ด้วยการสนับสนุนของปูติน หลังจาก อัคมัต คาดีรอฟ ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้นำในภูมิภาคเชเชนถูกลอบสังหารเมื่อปี 2004
สองพ่อลูกคาดีรอฟเคนยืนอยู่ฝ่ายต่อต้านรัสเซียมาก่อนในสมัยที่เกิดเหตุปะทะนองเลือดระหว่างรัสเซียกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในเชเชน ช่วงปี 1994-1996 ก่อนจะเปลี่ยนข้างมาอยู่ฝ่ายรัสเซียในความขัดแย้งระหว่างกันครั้งที่ 2 ในปี 1999
คาดีรอฟมีท่าทีขึงขังดุดันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายตรงข้าม ชื่อของเขาเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งการลักพาตัว การทรมาน และการสั่งฆ่า จนถูกสหรัฐคว่ำบาตรเมื่อเดือน ก.ค. 2020 และสหภาพยุโรปในกรณีวิกฤตยูเครนเมื่อปี 2014
แอนนา โปลิตคอฟสกายา นักข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนที่วิจารณ์คาดีรอฟ ถูกยิงเสียชีวิตนอกอพาร์ทเม้นต์ในกรุงมอสโกเมื่อปี 2006 มีผู้ชาย 2 คนถูกจำคุกตลอดชีวิตแม้ว่าจะไม่สามารถตามได้ว่าใครเป็นคนสั่งฆ่า
และในปี 2009 นาตาเลีย เอสเตมิโรวา นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนรัสเซีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนที่วิจารณ์คาดีรอฟ ถูกยิงเสียชีวิตในคอเคซัสเหนือ และยังมีการตามสังหารคนใกล้ชิดของคาดีรอฟที่กระด้างกระเดื่อง เช่น อุมาร์ อิสเรรอฟ อดีตบอดีการ์ด ในกรุงเวียนนา และซูลิม ยามาเดเยฟ ในดูไบ
คาดีรอฟยังมีกองทหารส่วนตัวในชื่อ Kadyrovtsy ซึ่งมักจะปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของเขา
ผู้นำเชเชนรายนี้ยังชิงชังคนรักร่วมเพศเข้ากระดูก ถึงขั้นครั้งหนึ่งเคยพูดสนับสนุนให้มีการฆ่าเพื่อรักษาเกียรติ (honour killings) กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) โดยบอกว่า “ถ้าเรามีเกย์อยู่ที่นี่ บอกไว้เลยว่าญาติของเขาจะไม่ปล่อยให้เป็นแน่นอน เพราะศรัทธา ความคิด ขนบธรรมเนียมประเพณีของเรา แม้ว่ามันจะผิดกฎหมาย เราก็จะให้อภัย”
ความสัมพันธ์ระหว่างคาดีรอฟกับปูตินมีมานานหลายทศวรรษ โดยในปี 2007 ปูตินแต่งตั้งให้คาดีรอฟเป็นประธานาธิบดีสาธารณรัฐเชเชน และทั้งคู่ยังชอบศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวเหมือนๆ กันด้วย
ปี 2015 ปูตินเคยมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ขั้นสูงสุดแก่คาดีรอฟสำหรับ "ความสำเร็จในการทำงาน กิจกรรมทางสังคมที่มีพลัง และการช่วยเหลืออย่างเอาใจใส่อย่างยาวนาน"
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูเหมือนจะเป็นไปในทางต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกัน โดยปูตินอาศัยคาดีรอฟช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในเชเชน โดยปล่อยให้คาดีรอฟปกครองเชเชนได้ตามสบาย และทำเป็นหลับตาข้างเดียวบ้างหากคาดีรอฟจะใช้วิธีของตัวเองจัดการฝ่ายตรงข้าม อาทิ การตามไปจับตัวภรรยาของ ซาอิดี ยานกัลบาเยฟ อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาของเชเชนถึงในแผ่นดินรัสเซีย
ส่วนรัสเซียเข้าไปช่วยออกเงินทุนสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในเชเชน รวมทั้งถนนและมัสยิดใหม่ในกรุงกรอซนี
คาดีรอฟแสดงท่าทีจงรักภักดีกับรัสเซียสุดๆ และสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในดอนบัสของยูเครนและการผนวกรวมไครเมียของรัสเซียอย่างแข็งขัน และยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเชเชนจะไม่ประกาศตัวเป็นอิสรภาพจากรัสเซีย
ครั้งหนึ่งคาดีรอฟเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ถ้าไม่ได้ปูติน เชเชนก็อยู่ไม่ได้”
นอกจากส่งนักรบเชเชนไปยูเครนแล้ว คาดีรอฟเคยส่งนักรบเหล่านี้ไปช่วยปูตินปฏิบัติการทางทหารทั้งในซีเรียและจอร์เจีย
และในช่วงที่ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครนทวีขึ้นไม่กี่สัปดาห์นี้ ชื่อของคาดีรอฟได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอีกครั้ง เพราะเขามักจะออกแถลงการณ์ฝากไปยังผู้นำยูเครนโดยตรงหลายครั้ง
อย่างในครั้งล่าสุดที่เจ้าตัวสวมรองเท้า Prada ก็พูดให้ผู้นำยูเครนขอโทษปูตินเพื่อรักษาเคียฟไว้ด้วยความใกล้ชิดและท่าทีเหล่านี้ทำให้เกิดกระแสว่าคาดีรอฟคือผู้สืบทอดตำแหน่งของปูติน
จนเมื่อปลายเดือนที่แล้วคาดีรอฟเปิดใจถึงความเป็นไปได้ในการเป็นประธานาธิบดีรัสเซียในอนาคตผ่าน Telegram ว่า “ผมมักจะพูดเสนอว่าผมไม่เห็นตัวเองในตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาลกลาง ไม่ใช่ในฐานะประธานาธิบดี ไม่ใช่ในฐานะรัฐมนตรี และอื่นๆ ที่ของผมคือที่นี่ ในสาธารณรัฐเชเชน ผมจะไม่ไปจากที่นี่”
Photo by Alexey NIKOLSKY / SPUTNIK / AFP


