Tesla มูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หลังรับออเดอร์ล็อตใหญ่
Tesla รับออเดอร์รถ EV จำนวน 1 แสนคันจากบริษัท Hertz คาดโกยเงิน 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
หลังจากที่บริษัท Hertz ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ยักษ์ใหญ่ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla จำนวน 100,000 คัน ถือเป็นคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด ส่งผลให้ Tesla มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก
รายงานระบุว่าเป็นมูลค่าที่สูงกว่ามูลค่าของบริษัท General Motors, Toyota, Ford, Volkswagen, BMW, Honda และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ รวมกันเสียอีก ขณะที่หุ้นของ Tesla พุ่งขึ้นเกือบ 13% ดีดตัวเหนือระดับ 1,045 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในปีที่แล้วท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
เช่นเดียวกับ Hertz ซึ่งมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 10% และประกาศว่าบริษัทมีแผนที่จะจดทะเบียนใน Nasdaq ด้วย
ขณะที่ Elon musk มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 36.2 ล้านเหรียญสหรัฐภายในคืนเดียว โดยขณะนี้มีมูลค่าทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 289,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามดัชนี Bloomberg Billionaires ซึ่งมากกว่าทรัพย์สินของ Bill Gates และ Mark Zuckerberg รวมกัน
Wild $T1mes!
— Elon Musk (@elonmusk) October 25, 2021
Bloomberg ระบุว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวของ Hertz จะสร้างรายได้ให้กับ Tesla ถึง 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย Elon musk เผยว่ารถยนต์ที่ขายให้กับ Hertz จะคิดราคาตามปกติโดยไม่มีส่วนลดใดๆ ขณะที่ Hertz ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมูลค่าของข้อตกลงดังกล่าว
โดยผู้ใช้บริการของ Hertz ในสหรัฐและยุโรปจะสามารถเช่ารถยนต์ไฟฟ้า Tesla ได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยบริษัทมีแผนที่จะติดตั้งที่ชาร์จอีกหลายพันเครื่อง
ในระยะหลังมานี้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นกระแสหลักซึ่งได้รับความต้องการและความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 บริษัท นอกจากจะทำให้ Hertz มีความแตกต่างจากบริษัทเช่ารถรายอื่นๆ แล้วยังทำให้รถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้างมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลกำไรของ Tesla แข็งแกร่งขึ้นและมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดโรงงานแห่งใหม่ในประเทศจีนเมื่อปลายปี 2019 และกำลังจะมียอดขายทะลุ 1 ล้านคันในปีนี้ แต่ก็ยังคงมีเสียงเรียกร้องเกี่ยวกับปัญหาของระบบ Autopilot
ก่อนหน้านี้มีเพียงไม่กี่บริษัทที่มีมูลค่าแตะล้านล้านเหรียญสหรัฐ ได้แก่ Apple, Amazon and Microsoft
Photo by JOHN THYS / AFP