posttoday

Whitney Wolfe Heard เศรษฐีนีผู้สร้างตัวเองที่อายุน้อยสุดในโลก

28 เมษายน 2564

รู้จัก Whitney Wolfe Heard เจ้าของแอปพลิเคชันหาคู่ ผู้หญิงที่สร้างตัวเองจนติดโผร่ำรวยที่สุดในอเมริกา

แอปพลิเคชันหาคู่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องด้วยข้อจำกัดในการพบปะทำให้ผู้คนหันไปติดต่อการทางออนไลน์ โดยหนึ่งในแอปพลิเคชันที่เติบโตอย่างรวดเร็วคือ Bumble

แอปพลิเคชันที่ก่อตั้งโดย Whitney Wolfe Heard ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการเป็นแอปหาคู่อันดับต้นๆ ในแอปสโตร์ ซึ่งทำให้เธอไปอยู่ในลิสต์ของผู้ประกอบการและผู้บริหารหญิงที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอเมริกา ประจำปี 2020 ของนิตยสาร Forbes และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในสุดยอดผู้ประกอบการอายุต่ำกว่า 30 ปีในปี 2017 และ 2018 อีกด้วย

นอกจากนี้เธอยังติดอันดับที่ 39 จาก 100 อันดับแรก "ผู้หญิงที่สร้างตัวเองที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา"

ช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของเธอเกิดขึ้นเมื่อแอปพลิเคชัน Bumble เสนอขายหุ้นต่อสาธารณะ (IPO) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาส่งผลให้ราคาหุ้นของ Bumble เพิ่มขึ้นถึง 67% โดยเธอมีสัดส่วนในการถือหุ้นถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในขณะนั้น

นั่นทำให้ Wolfe Heard กลายเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกด้วยวัย 31 ปี ซึ่งไม่เพียงแต่กลายเป็นซีอีโอหญิงที่อายุน้อยที่สุดของบริษัทสาธารณะเท่านั้นแต่ยังเป็นมหาเศรษฐีหญิงที่สร้างตัวเองที่อายุน้อยที่สุดอีกด้วย

โดยตามดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กพบว่ามหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองที่เป็นผู้หญิงนั้นมีจำนวนไม่ถึง 5% จากทั้งหมด 500 อันดับของโลก

เส้นทางของซีอีโอหญิงแกร่งกับแนวคิดช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

Wolfe Heard เกิดและเติบโตในซอลต์เลกซิตี นครในยูทาห์ เป็นลูกสาวของเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวยิว เธอเริ่มต้นธุรกิจเมื่ออายุได้ 20 ปีในระหว่างการเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยโดยการขายกระเป๋าไม้ไผ่เพื่อนำเงินไปช่วยเหลือในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกเมื่อปี 2010 โดยได้รับความร่วมมือจาก Patrick Aufdenkamp สไตล์ลิสต์ชื่อดังในการเพื่อตัวองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร "Help Us Project"

หลังจากนั้นไม่นานเธอและ Aufdenkamp ได้เริ่มธุรกิจที่ 2 ในชื่อ "Tender Heart" ซึ่งเป็นเสื้อผ้าที่สร้างความตระหนักเกี่ยวกับการค้ามนุษย์และการค้าที่เป็นธรรม จนกระทั่งเรียนจบเธอจึงเดินทางมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทำงานกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

ตอนอายุได้ 22 ปีเธอร่วมทำงานกับบริษัท Hatch Labs ก่อนที่จะทำงานในบริษัทสตาร์ทอัพ Cardify ซึ่งเป็นโครงการที่นำโดย Sean Rad เมื่อโครงการถูกทิ้งร้างไป เธอ, Sean Rad และ Chris Gulczynski จึงร่วมกันเริ่มต้นก่อตั้งแอปพลิเคชันหาคู่ที่ชื่อว่า Tinder

จาก Tinder สู่ Bumble

ก่อนที่จะมาเป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Bumble เธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแอปหาคู่ยอดนิยมอย่าง Tinder ด้วย โดยในปี 2012 หลังจากที่เธอจบการศึกษาจาก Southern Methodist University เธอก็ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายการตลาดของ Tinder

แต่อีก 2 ปีถัดมาเธอก็ตัดสินใจลาออกหลังจากที่ยื่นฟ้องบริษัทของเธอเองโดยระบุถึงการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศรวมถึงการเลือกปฏิบัติทางเพศ จาก Justin Mateen อดีตเจ้านายและแฟนเก่าของเธอเอง

ในปีเดียวกันนั้นเองเธอได้ร่วมมือกับ Andrey Andreev ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน Badoo โดยทั้งคู่ร่วมกันก่อตั้งแอปพลิเคชันหาคู่ขึ้นมาใหม่จนเกิดเป็น Bumble ในปี 2014

ทั้ง Bumble และ Badoo ได้รับแรงหนุนจากสมาชิกรายเดือนหลายสิบล้านคนในกว่า 150 ประเทศ

เพื่อนหญิงพลังหญิง

Wolfe Heard ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรีเป็นอย่างยิ่ง โดยหนึ่งสาเหตุที่แอป Bumble ได้รับความนิยมและความไว้วางใจเนื่องจากมันให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ใช้ฝ่ายหญิงหรือที่กล่าวกันว่าเป็นแอปหาคู่ที่ต้องการให้สิทธิ์ในโลกอินเทอร์เน็ตกับผู้หญิง

นอกจากนี้เธอยังเป็นไอดอลของผู้หญิงจำนวนมากซึ่งนอกจากจะได้แสดงให้เห็นถึงพลังของผู้หญิงในโลกของธุรกิจโดยการเป็นสุดยอดซีอีโอขององค์กรแล้ว Wolfe Heard ยังแสดงพลังในโลกของตลาดหุ้นด้วยซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าในจุดที่เธอยืนอยู่นี้ส่วนใหญ่นักธุรกิจชื่อดังก็มักจะเป็นผู้ชายเสียมากกว่า

ส่งผลให้แวดวงธุรกิจจับตามองการเดินทางของเธอซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอนาคตใหม่สำหรับแบรนด์และองค์กรต่างๆ ที่ดำเนินการโดยผู้หญิง

ภาพโดย TechCrunch/Wikipedia