posttoday

ออสเตรเลียก็มีบัตรคนจน แต่ไม่ให้ถอนเงินสด และห้ามซื้อเหล้า

25 กันยายน 2562

ในขณะที่บ้านเรามีการแจกเงิน 500 บาทให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ประเทศออสเตรเลียก็มีเช่นกัน และทำกันมาก่อนบ้านเราแล้ว แถมยังเคลมว่าทำเป็นที่แรกในโลกด้วย

ในขณะที่บ้านเรามีการแจกเงิน 500 บาทให้กับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ประเทศออสเตรเลียก็มีเช่นกัน และทำกันมาก่อนบ้านเราแล้ว แถมยังเคลมว่าทำเป็นที่แรกในโลกด้วย

บัตรคนจนเวอร์ชั่นออสเตรเลียมีชื่อเรียกว่า Cashless Welfare Card หรือ Cashless Debit Card หรือ grey card หรือ white card โดยสองชื่อหลังนั้นเรียกตามสีของบัตร ซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียออกให้ประชากรในพื้นที่ห่างไกลที่มีปัญหาทางสังคมสูง ไม่ว่าจะเป็นการติดการพนัน ติดแอลกอฮอล์

รัฐบาลจะโอนเงินเข้าบัตรซึ่งใช้เหมือนบัตรเดบิตการ์ด 80% ของเงินช่วยเหลือที่ประชาชนจะได้รับ สำหรับใช้จ่ายในร้านค้าที่ลงทะเบียนกับทางการและมีสัญลักษณ์ EFTPOS โดยมีเงื่อนไขว่าเงินจำนวนนี้ไม่สามารถนำไปซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นการพนัน (ยกเว้นลอตเตอรี) หรือถอนเงินสด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเงินภาษีของชาวออสเตรเลียไปใช้ในทางที่ผิด ส่วนอีก 20% ที่เหลือโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ถือบัตรซึ่งสามารถถอนเป็นเงินสดได้

รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มทดลองใช้บัตร Cashless Welfare Card ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2016 สมัยของนายกรัฐมนตรี มัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ ในเขตอีสคิมเบอร์รี รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย และเมืองเซดูนาในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพื้นเมืองอะบอริจิ้นและยังมีปัญหาทางสังคมค่อนข้างสูง ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่น ได้แก่ เขตอีสคิมเบอร์รีและเขตโกลด์ฟิลด์ส เขตฮาร์วีย์เบย์และบันดาเบิร์กในรัฐควีนส์แลนด์ และเมืองเทนแนนท์ครีกในรัฐนอร์เทิร์นแทร์ริทอรี

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของออสเตรเลียมุ่งหวังให้ประชาชนรู้จักการใช้เงินอย่างมีสติและใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐาน และยังหวังว่าจะช่วยลดปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมที่เกี่ยวข้องแอลกอฮอล์ การพนัน และยาเสพติด

อย่างไรก็ดี รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการซื้อสินค้าต้องห้ามอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากร้านค้าที่จำหน่ายทั้งสินค้าต้องห้ามและสินค้าจำเป็น อาทิ ห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในทางปฏิบัติจึงต้องอาศัยพนักงานในการคัดกรองไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับผู้ถือบัตรสวัสดิการ หากจะกำหนดไม่ให้ใช้บัตร Cashless Welfare Card ในห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ก็จะเป็นการจำกัดช่องทางการใช้บัตรของผู้อื่น โดยเฉพาะในเมืองเล็กๆ ที่มีร้านที่ขึ้นทะเบียนไม่มาก

หลังการเดินหน้าทดลองโครงการไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ปรากฏว่ามีผลตอบรับที่หลากหลาย โทนี่ เบิร์ค จากพรรคแรงงานของออสเตรเลีย โจมตีว่ารัฐบาลเทิร์นบูลล์ให้ความสำคัญกับเรื่องการเมืองมากกว่านโยบาย การแจกบัตรสวัสดิการไม่ก่อให้เกิดการจ้างงาน เป็นการหยามประชาชน และไม่ใช่นโยบายที่ฉลาด

เทอร์เรนซ์ เดาสท์ ชาวออสเตรเลียที่ได้รับบัตร Cashless Welfare Card เผยว่า รัฐบาลไม่ควรสิ้นเปลืองงบประมาณ 10,000 เหรียญออสเตรเลีย หรือราว 207,203 บาทต่อคนไปกับโครงการนี้ เพราะไม่สามารถช่วยให้คนออสเตรเลียพยายามกลับไปหางานทำ และเสนอแนะว่าแทนที่รัฐบาลจะอัดฉีดเงินเพื่อไปสร้างกำไรให้กับบริษัทเอกชน ควรนำมาใช้กับสิ่งที่จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลเอง เช่น จัดโครงการเตรียมพร้อมการทำงาน ให้คนที่กำลังหางาน

ส่วน โจดี มิลเลอร์ สมาชิกสภาชุมชุนชาวอะบอริจิ้นในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เผยกับสำนักข่าว Guardian Australia ว่า ทุกคนที่เขาคุยด้วยรู้สึกว่าบัตรสวัสดิการดังกล่าวทำให้เกิดความอับอาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ใช้บัตรซื้อของก็มักจะได้รับสายตาที่มองเหมือนว่าคนที่ถือบัตรหางานทำไม่ได้

นอกจากนี้ Guardian Australia ยังพบว่าผู้ถือบัตรบางคนต้องการถือเงินสดมากกว่าจึงเลี่ยงด้วยการใช้บัตร Cashless Welfare Card ของตัวเองชำระค่าสินค้าให้คนอื่นเพื่อแลกกับเงินสดที่จะนำไปเป็นค่าอาหารกลางวันลูก และยังมีชาวบ้านบอกอีกว่า ร้านค้าบางแห่งตั้งราคาสินค้าที่จะใช้บัตรสวัสดิการแพงกว่าปกติ แล้วให้เงินสดหรือเบียร์เป็นการตอบแทน

ขณะที่ผลการประเมินจาก Orima Research บริษัทเอกชนเมื่อปี 2017 พบว่าประชาชนที่ได้รับบัตรสวัสดิการดื่มแอลกอฮอล์ลดลง 41% เล่นการพนันลดลง 41% ใช้ยาเสพติดลดลง 48% รวมทั้งรายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่าอัตราคนรุ่นใหม่ที่ว่างงานในพื้นที่เมืองบันดาเบิร์กและฮาร์วีย์เบย์ลดลง 10% นับตั้งแต่รัฐบาลแจกบัตร Cashless Welfare Card ซึ่งมากกว่าอัตราทั่วประเทศที่ลดลง 5%

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนแย้งว่าการลดลงดังกล่าวไม่ได้เป็นผลโดยตรงมาจากบัตรสวัสดิการ เนื่องจากรัฐบาลได้ดำเนินโครงการอื่นๆ คู่ขนานไปด้วย

ภาพ : เฟซบุ๊ค ABC Goldfields-Esperance