จาซินดา อาร์เดิร์น : ผู้นำตัวอย่างท่ามกลางวิกฤต

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกหญิงนิวซีแลนด์โชว์ภาวะความเป็นผู้นำที่หนักแน่น กล้าหาญ ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตของประเทศ

ในช่วงที่อาร์เดิร์นประกาศตัวว่าจะลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา และประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสด้วยความที่ทั้งสามคนถือเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่อาจจะช่วยนำพาประเทศออกจากวังวนเดิมๆ

แต่ยิ่งนานวันเข้าชาวโลกก็ยิ่งประจักษ์ว่านายกรัฐมนตรีหญิงแห่งนิวซีแลนด์มีภาวะความเป็นผู้นำที่โดดเด่นกว่าผู้นำฝรั่งเศสและแคนาดา ที่ช่วงแรกดูเหมือนจะ “ท่าดี” แต่ยิ่งอยู่ไปยิ่งแสดง “ทีเหลว” ออกมาจนประชาชนต้องผิดหวัง

ฝ่ายมาครงนั้นชาวฝรั่งเศสเทคะแนนให้ถึง 66% จนคว้าชัยในการเลือกตั้งเมื่อปี 2017 แต่ปลายปี 2018 ผลสำรวจจาก Ifop Poll พบว่าประชาชนเริ่มไม่ปลื้มผู้นำวัย 40 ปีแล้ว คะแนนความนิยมในตัวมาครงลดลงมาอยู่ในระดับต่ำที่สุด เหลือเพียง 22% จากท่าทีอำนาจนิยมและการประกาศขึ้นภาษีคนจน แต่อุ้มคนรวย จนนำมาสู่การประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี

ขณะที่ทรูโด ผู้นำแคนาดาถูกกล่าวหาว่าเข้าไปพัวพันกับการคอร์รัปชั่น จากการแทรกแซงไม่ให้ฝ่ายอัยการดำเนินคดีทุจริตของ SNC-Lavalin บริษัทด้านวิศวกรรมขนาดใหญ่ของประเทศ จนรัฐมนตรีพากันทิ้งเก้าอี้ไปแล้ว 2 ราย เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการจัดการปัญหาคอร์รัปชั่นของผู้นำ

แต่เหตุกราดยิงอุกอาจกลางมัสยิดที่เมืองไครต์เชิร์ชกลับทำให้นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น โดดเด่นขึ้นมาจนมีเสียงชื่นชมจากทั่วโลก เนื่องจากทุกคำพูดทุกการกระทำของเธอล้วนแสดงถึงความจริงใจที่มีต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุ ทั้งยังรับมืออย่างรวดเร็ว ชี้แจงความคืบหน้าของสถานการณ์ชัดเจน

คล้อยหลังเหตุการณ์ไม่นาน นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นประกาศด้วยท่าทางเข้มแข็งว่าเป็นการก่อการร้ายและจะไม่มีการเอ่ยถึงชื่อคนร้ายเด็ดขาด เพื่อไม่ให้คนร้ายได้ใจ รวมทั้งเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนกฎหมายการครอบครองปืนอย่างเร่งด่วน จนวานนี้อาร์เดิร์นประกาศว่านิวซีแลนด์จะแบนปืนไรเฟิลและอาวุธกึ่งอัตโนมัติทุกชนิด โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ราวต้นเดือนหน้า

หลังเหตุการณ์ 1 วันนายกหญิงลงพื้นที่เมืองไครต์เชิร์ชโดยสวมผ้าคลุมศีรษะเช่นเดียวกับหญิงมุสลิม ทั้งยังเข้าไปพูดคุยและกอดญาติผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด โดย อาห์เหม็ด ข่าน ผู้รอดชีวิตจากการกราดยิงที่มัสยิดอัลนูร์ เผยว่า “ผู้คนค่อนข้างเซอร์ไพรส์ที่เห็นผู้นำประเทศสวมฮิญาบ ผมประทับใจเธอมาก”

ภาพการแสดงความจริงใจดังกล่าวของอาร์เดิร์นมักจะไม่ค่อยเห็นจากผู้นำคนอื่นนัก ซานา ซาอี๊ด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ ถึงกับกล่าวว่าเธอแทบจะนึกถึงการแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อผู้ประสบเหตุกราดยิงที่มัสยิดในมณฑลควิเบกของแคนาดาเมื่อปี 2017 ของนายกรัฐมนตรีทรูโดไม่ออกเลย

นอกจากนี้ ยังมีเสียงชื่นชมจากบรรดาสื่อมวลชนทั่วโลก อาทิ เกรซ แบ็ค จากนิตยสารชื่อดังในออสเตรเลีย เผยว่า “นี่แหละคือสิ่งที่ผู้นำควรเป็น” แอนนาเบล แคร็บบ์ จากเอบีซี ออสเตรเลีย เขียนในเว็บไซต์ว่า “ตั้งแต่เผชิญกับข่าวร้ายที่สุดในฐานะผู้นำประเทศ อาร์เดิร์นยังไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดเลย” ซูซานน์ มัวร์ จากเดอะ การ์เดียน ระบุว่า “มาร์ติน ลูเธอร์ คิง พูดไว้ว่าผู้นำที่แท้จริงไม่แสวงหาความเห็นชอบ แต่จะสร้างมันขึ้นมา อาร์เดิร์นได้สร้างความเห็นชอบที่แตกต่างไป ด้วยการลงมือทำ ด้วยการแสดงความใส่ใจ ด้วยการแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกัน”