posttoday

โปแลนด์ดึงอียูชี้ชะตา! กีดกัน "หัวเว่ย" จากตลาดยุโรปหรือไม่

14 มกราคม 2562

โปแลนด์ขออียู-นาโต้ ร่วมตัดสินหัวเว่ยหลังเกิดกรณีสปาย ขณะบริษัทไล่ออกพนักงานที่ถูกจับแล้ว

โปแลนด์ขออียู-นาโต้ ร่วมตัดสินหัวเว่ยหลังเกิดกรณีสปาย ขณะบริษัทไล่ออกพนักงานที่ถูกจับแล้ว

โยอาคิม บรัดซินสกี รัฐมนตรีมหาดไทยโปแลนด์ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ควรทำงานร่วมกันเพื่อตัดสินว่าควรจะกีดกันบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ออกไปจากตลาดในยุโรปหรือไม่ หลังจากที่เกิดกรณีรัฐบาลโปแลนด์จับกุมผู้บริหารรายหนึ่งในหัวเว่ย ฐานต้องสงสัยว่าเป็นสปาย

บรัดซินสกี กล่าวกับสถานีวิทยุท้องถิ่นว่า โปแลนด์ยังต้องการร่วมมือกับจีนต่อไป แต่ต้องไม่รวมหัวเว่ย ซึ่งขณะนี้กำลังมีความกังวลเรื่องหัวเว่ยภายในนาโต้เองด้วย และนาโต้ควรร่วมมือกับอียูเพื่อแสดงท่าทีร่วมในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ทางการโปแลนด์ได้จับกุม หวัง เว่ยจิน ผู้อำนวยการฝ่ายขายของหัวเว่ยในโปแลนด์ และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์ชาวโปแลนด์ที่เคยทำงานกับบริษัทโทรคมนาคม ออเรนจ์ โปลสกา อีก 1 ราย ฐานต้องสงสัยเป็นสปาย ซึ่งหากผิดจริงอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ล่าสุด หัวเว่ยได้มีคำสั่งไล่ออกกับหวังแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเหตุการณ์นี้ทำให้บริษัทถูกลากเข้าไปพัวพันด้วย และย้ำว่าพฤติกรรมของหวังไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท

ด้านเอเอฟพีรายงานว่า หลายประเทศในยุโรปซึ่งอยู่ระหว่างการมุ่งพัฒนาระบบ 5จี ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันหลังจากที่ถูกสหรัฐกดดันก่อนหน้านี้ให้บอยคอตหัวเว่ย โดยบางประเทศยังคงเปิดรับ เช่น โปรตุเกส ส่วนเยอรมนีระบุว่ายังไม่มีหลักฐานว่าหัวเว่ยอาจเป็นสปาย ขณะที่ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาเป็นตลาดใหญ่ที่มีสัดส่วนถึง 27% จากยอดขายทั่วโลกของหัวเว่ย

ภาพ เอเอฟพี