posttoday

สหรัฐตั้งภาษีจีน25% เล็งเก็บเพิ่มจากแผนเดิม10%

02 สิงหาคม 2561

สหรัฐวางแผนตั้งภาษีจีนเพิ่มเป็น 25% จาก 10% ด้านปักกิ่งลั่นพร้อมตอบโต้กลับ

สหรัฐวางแผนตั้งภาษีจีนเพิ่มเป็น 25% จาก 10% ด้านปักกิ่งลั่นพร้อมตอบโต้กลับ

รอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวเกี่ยวข้องว่า รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วางแผนเก็บภาษี 25% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.63 ล้านล้านบาท) เพิ่มจากอัตรา 10% ที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยจะมีผลกับสินค้านำเข้าจากจีนกว่าพันรายการ เช่น อาหาร ผลิตภัณฑ์เคมี เหล็กและอะลูมิเนียม รวมถึงสินค้าอุปโภคหลายรายการ ตั้งแต่อาหารสุนัข เฟอร์นิเจอร์ พรม ยางรถยนต์ จักรยาน ถุงมือเบสบอล และเครื่องสำอาง

หลังการเปิดเผยดังกล่าว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เตือนว่า รัฐบาลปักกิ่งจะออกมาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของชาติ แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ เอริน เอนนิส รองประธานอาวุโสของสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน เปิดเผยว่า การเพิ่มกำแพงภาษีเป็น 25% จะทำให้ข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งรุนแรงกว่าเดิม โดยก่อนหน้านี้การตั้งภาษี 10% ก็กลายเป็นปัญหาที่แก้ไขยากอยู่แล้ว

"เมื่อดูจากขอบเขตของสินค้าแล้ว สินค้านำเข้าจากจีนประมาณครึ่งหนึ่งจะเจอกับกำแพงภาษี รวมถึงสินค้าอุปโภคด้วย" เอนนิส กล่าว

อย่างไรก็ดี บลูมเบิร์ก รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า คณะผู้แทนของ สตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และหลิวเฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีจีน กำลังพยายามผลักดันให้สองชาติกลับมาเจรจาลดข้อพิพาทด้านการค้าแบบเป็นความลับ โดยสหรัฐอาจยอมล้มเลิกแผนขึ้นกำแพงภาษีรอบล่าสุด หากจีนตกลงอ่อนข้อให้

ด้านที่ประชุมโปลิตบูโร ย้ำว่า จีนจะมุ่งสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและขจัดปัญหาสกัดการเติบโตจากภายนอก โดยล่าสุด ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เปิดเผยว่า ได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบการเงิน 6.9 แสนล้านหยวน (ราว 3.3 ล้านล้านบาท) ผ่านทางกลไกการกู้ยืมระยะกลาง (MLF) ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา