posttoday

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

07 มิถุนายน 2561

"เซนโตซา" จากเกาะแห่งความตาย สู่ที่จัดประชุมครั้งประวัติศาสตร์ของสองผู้นำ

"เซนโตซา" จากเกาะแห่งความตาย สู่ที่จัดประชุมครั้งประวัติศาสตร์ของสองผู้นำ

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าสถานที่นัดพบเพื่อการประชุมครั้งสำคัญของสองผู้นำสหรัฐ และเกาหลีเหนือนั้นจะมีขึ้นที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

ด้วยเหตุที่โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะที่อยู่นอกชายฝั่งของเกาะสิงคโปร์ แยกจากแผ่นดินหลัก อีกทั้งยั้งอยู่บนเนินเขาที่กันหน้าออกทะเล จึงทำให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย และการกันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกสถานที่ประชุม แต่ทั้งนี้ความน่าสนใจของโรงแรมแห่งนี้ยังไม่หมด

 

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

เพราะบนเกาะเซนโตซาแห่งนี้มีประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่น่ารู้ซ่อนอยู่ ทางโพสต์ทูเดย์ออนไลน์จึงขอนำเสนอเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับโรงแรมซึ่งจะเป็นสถานที่พบกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของผู้นำทั้งสองประเทศ

 


รังโจรสลัด และคุกกักกันนักโทษ

สำหรับเกาะเซนโตซา ในปัจจุบันถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังและเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติและชาวสิงคโปร์ ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ตั้งของสวนสนุกยูนิเวอร์แซล และสนามกลอฟ์แล้วครั้งหนึ่งเกาะแห่งนี่้เคยเส้นจุดพักของบรรดาเรือขนส่งสินค้า ระหว่างจีนกับอินเดียในช่วงที่อังกฤษปกครองสิงคโปร์

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

แต่ก่อนที่เซอร์สแตมฟอร์ด แรฟเฟิล จะตั้งสถานีการค้าในสิงคโปร์นั้น เกาะแห่งนี้ถือเป็นแหล่งกบดานชั้นดีของบรรดาโจรสลัดในคาบสมุทรมลายู โดยก่อนหน้านั้นเกาะเซนโตซามีชื่อเรียกว่า Pulau Blakang Mati หรือแปลว่า เกาะแห่งความตาย จนกระทั้งปี 1972 จากเกาะแห่งความตาย รัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็นเกาะเซนโตซา ซึ่งแปลว่าเกาะแห่งความสงบและสันติภาพ พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่คุมขังนักโทษของกองทัพญี่ปุ่น หลังเข้ายึดสิงคโปร์ได้เป็นผลสำเร็จในปี 1942 ซึ่งกองทัพญี่ปุ่นได้เปลี่ยนชื่อเกาะแห่งนี้เป็น "เชียวนัน" ซึ่งแปลว่าแสงสว่างทางทิศใต้ โดยในช่วงสงครามโลกนี้เอง เกาะแห่งนี้ถูกใช้เป็นลานประหารนักโทษที่ต่อต้านการยึดครองของญี่ปุ่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน รวมไปถึงเป็นคุกกักกันนักโทษชาวอังกฤษและออสเตรเลียที่เป็นเชลยสงครามจำนวนนับร้อยนาย

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

เกาะแห่งความตาย สู่ สถานที่แห่งความสงบและสันติภาพ

หลังจากปี 1972 ที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้เปลี่ยนชื่อเกาะแห่งนี้จาก Pulau Blakang Mati เป็น Sentosa พร้อมแผนพัฒนาให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยว นั้น ได้มีการเปิดสวนสนุก กาสิโน พัฒนาสนามกลอฟ์ สร้างกระเช้าลอยฟ้า อีกทั้งยังพัฒนาบางส่วนของเกาะให้เป็นสนามเด็กเล่นของบรรดามหาเศรษฐี มีท่าเรือยอร์ช โรงแรม และบ้านพักตากอากาศระดับหรูหรา

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

โรงแรมคาเปลลา

โรงแรมคาเปลลาดำเนินการโดยกลุ่มคาเปลลา โฮเต็ล กรุ๊ป ของครอบครัวกวี่ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ เปิดให้บริการเมื่อปี 2009 ตัวอาคารเป็นตึกสไตล์โมเดิร์นผสมโคโลเนียล ฝีมือการออกแบบของ นอร์แมน ฟอสเตอร์ สถาปนิกชื่อดังชาวอังกฤษ โดยดัดแปลงจากอาคารที่เคยใช้เป็นพักของเจ้าหน้าที่ทหารปืนใหญ่ของอังกฤษ ที่เข้ามาประจำอยู่ในสิงคโปร์ช่วงปี 1880 โดยต่อมามีการประกาศให้อาคารที่พักนี้มีสถานะเป็นอาคารอนุรักษ์ในปี 2000

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

จุดเด่นของโรงแรมที่มักจะปรากฏรูปในสังคมออนไลน์คือ นกยูง ที่เดินไปเดินมาอย่างเสรีรอบตัวโรงแรม โดยเฉพาะบริเวณสระว่ายน้ำและห้องอาหาร The Knolls โดยที่ผ่านมาโรงแรมแห่งนี้เคยต้อนรับนักร้องดังระดับโลก อย่าง มาดอนน่า และเลดี้ กาก้า มาแล้ว

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

อีกทั้งระยะทางจาก Capella Hotel สามารถเดินไปถึงชายหาดปาลาวันเพียง 5 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังอยู่ไม่ห่างจากสวนสนุกยูนิเวอร์แซลและสนามกอล์ฟ เซนโตซา กอล์ฟ คลับ ซึ่งเป็นกีฬาโปรดของผู้นำสหรัฐ

 

เผยประวัติศาสตร์เบื้องหลังสถานที่ประชุมทรัมป์-คิม

 

ทั้งนี้ แน่นอนว่าในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ สถานที่แห่งนี้จะถูกจารึกในประวัติศาสตร์อีกครั้งถึงการเป็นสถานที่นับพบครั้งสำคัญของสองผู้นำสหรัฐ-เกาหลีเหนือ แต่ถึงอย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญกว่าคือผลของการประชุมจะนั้นจะสร้างความสงบและสันติภาพให้เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลีได้ตามความหมายของ "เซนโตซา" หรือไม่