'เคปทาวน์'แล้งจัด เหลือน้ำจืดใช้เพียง 90 วัน

'เมืองเคปทาวน์' เตรียมหยุดจ่ายน้ำประปา หลังเผชิญวิกฤตฝนแล้งอย่างรุนแรง

เมืองเคปทาวน์ ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญในประเทศแอฟริกาใต้ต้องเผชิญสภาวะแล้งจัดอย่างหนัก เหตุเนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ไม่ตกต้องตามฤดูกาลในช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่ ส่งผลให้ระดับน้ำในเขื่อนลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็น และปริมาณน้ำในเขื่อนเหลือให้ใช้ได้จริงเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็น ส่งผลให้ภาวะขาดแคลนน้ำในครั้งนี้้เป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบร้อยปี

อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งนอกเมืองเคปทาวน์ในสภาพที่แห้งแล้ง

ขณะที่นางแพทริเชีย เดอ ลิล ผู้ว่าการเมืองเคปทาวน์ต้องออกนโยบายแก้ไขเบื้องต้นโดยกำหนดให้วันที่ 22 เมษายนที่จะถึงนี้ เป็นวันที่น้ำประปาหมดเมืองหรือ “เดย์ ซีโร่” (Day Zero) เพื่อเตือนให้ชาวเมืองเตรียมพร้อมรับสถานการณ์วิกฤตที่จะเกิดขึ้น

นางเพทริเชีย เดอ วิล

นอกจากนี้ทางเมืองยังออกมาตรการประหยัดน้ำโดยขอความร่วมมือจากประชาชน โดยนางเดอ ลิล อธิบายว่า จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อปริมาณน้ำในระบบจ่ายน้ำประปาของเมืองลงไปถึงระดับที่ต่ำกว่าเดิมอีก เมื่อถึงจุดนั้น ทางการจะปิดการจ่ายน้ำประปาเกือบทั่วเมือง เเต่จะไม่ปิดการจ่ายน้ำเเก่พื้นที่ยากจนหรือในสลัม เเต่จะลดความเเรงของน้ำลงเท่านั้น โดยหากประชาชนส่วนใดของเมืองที่ไม่มีน้ำประปาใช้ สามารถไปรับน้ำในจุดเเจกจ่ายที่ทางการนำไปบริการให้ราว 200 จุดทั่วเมือง โดยกำหนดให้รับน้ำได้ 25 ลิตรต่อคนต่อวัน เท่านั้น

ทั้งนี้สำหรับเมืองเคปทาวน์เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีชายทะเลที่สวยงาม แต่ต้องประสบกับภาวะฝนแล้วมาหลายปี โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาทางการเมืองได้บังคับใช้มาตรการประหยัดน้ำอย่างเคร่งครัด ชาวเมืองถูกห้ามไม่ให้ล้างรถยนต์ รดน้ำสวน หรือเติมน้ำสระว่ายน้ำ ทางการห้ามประชาชนอาบน้ำนานเกินสองนาที เเละกดชำระถังชักโครกเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้ทางการสามารถลดปริมาณการใช้น้ำที่ในละครัวเรือนลงเกือบครึ่งหนึ่งต่อเดือน

สำหรับปัจบันทางการของเมืองไม่ได้รอคอยให้ฝนตกตามฤดูกาลเท่านั้น แต่ยังมีมาตราการรับมือโดยการเร่งสร้างโรงงานรีไซเคิลน้ำ รวมทั้งโรงผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลอีก 3 โรง ด้าน เดอ ลิล ผู้ว่าการเมืองเคปทาวน์ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าสถานการณ์จะดีขึ้น หากชาวเมืองเคปทาวน์ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการใช้น้ำ ซึ่งจะส่งผลให้วัน “เดย์ ซีโร่” มาถึงช้าลง ในขณะชาวเมืองหลายคนต่างหวังว่าฝนจะตกลงมาภายในเดือนมิถุนายนนี้ก่อนที่สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก