สลด!จนท.อุทยานฯเขาแหลมถูกน้ำป่าดูดจมหายไปต่อหน้าเพื่อน
กาญจนบุรี-จนท.ชุดลาดตระเวน อช.เขาแหลมจมน้ำเสียชีวิต ขณะว่ายฝ่าน้ำป่าที่ไหลเชี่ยว เพื่อนำเชือกข้ามไปผูกอีกฝั่งให้ทีมข้าม ก่อนถูกกระแสน้ำป่าดูดจมหายไปต่อหน้าเพื่อนๆ
เมื่อวันนี้ 6 ส.ค. นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพ ของ อช.เขาแหลมกว่า 12 นาย ได้เดินทางเข้าไปยังบ้านกองม่องทะ หมู่ที่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เพื่อนำร่างของ นายภูวดล ป้องสา อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งประสบเหตุจมน้ำขณะปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังจากเมื่อวันที่ 5 ส.ค.เวลาประมาณ 22.13 น. ได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรว่า นายภูวดล จมน้ำระหว่างพยายามข้ามแม่น้ำรันตี บริเวณหน้าจุดสะกัดพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกองม่องทะ ซึ่งขณะเกิดเหตุมีระดับน้ำสูงและไหลเชี่ยว เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันมานานกว่า 3 วัน
ขณะที่ เพื่อนเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ไปด้วยกัน ได้ช่วยกันนำตัวขึ้นมาจากน้ำ และพยายามช่วยชีวิตด้วยการทำ CPR เนื่องจากชีพจรอ่อน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตในที่สุด จึงได้ประสานหน่วยพิทักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อขอความช่วยเหลือในการลำเลียงศพ นายภูวดล ออกจากป่าที่เกิดเหตุ
หลังรับแจ้ง นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หน.อช.เขาแหลม ได้จัดชุดกู้ภัยฯ เข้าพื้นที่ บ้านกองม่องทะ เพื่อประชุมร่วมกับ นายไพบูลย์ ช่วยบำรุงวงศ์ กำนัน ต.ไล่โว่ เพื่อหาทางในการนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากป่า แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน และน้ำป่าไหลหลาก กระแสน้ำไหลเชี่ยว การเดินทางเข้าพื้นที่ต้องใช้เรือและการเดินเท้าต่อ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับผู้ปฏิบัติภารกิจได้ จึงตัดสินใจจะเดินทางเข้าไปรับศพผู้เสียชีวิตและเพื่อนอีกทั้ง 5 นาย ออกจากป่าในช่วงเช้าแทน โดยเจ้าหน้าที่เดินทางด้วยเรือเล็กของชาวบ้านเดินทางขึ้นไปยังหน่วยสะกัดพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านกองม่องทะไปประมาณ 7 กม. โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที และต่อด้วยการเดินเท้าเข้าไปที่จุดเกิดเหตุอีกกว่า 1 ชม. ท่ามกลางการลุ้นระทึกของทุกคนกระทั่งทีมกู้ชีพจึงสามารถนำร่าง นายภูวพล กลับมาถึงท่าเรือบ้านกองม่องทะ ท่ามกลางบรรยากาศความเศร้าเสียใจ ของผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มที่ตั้งใจทำงาน เมื่อได้รับการมอบหมายงานจะทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ และเป็น หน.ชุดลาดตระเวนในเส้นทางสันหนอกวัว-กองม่องทะ รู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพไปอีกคน และต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่ต้องมาเสียบุคคลอันเป็นที่รัก โดย นายภูวพล มีภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน คนสุดท้องเพิ่งจะอายุได้ประมาณ 2 เดือน ภายหลังทราบข่าวตนได้รายงานผู้บังคับบัญชา โดยอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้สั่งการให้ตนดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิต และเรื่องการจัดงานศพอย่างสมเกียรติ พร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องเงินเยียวยาที่จะได้รับอย่างเต็มที่ตามระเบียบของทางราชการ
ด้าน นายอัจฉริยะ บุญยมยา เพื่อนในทีมผู้เสียชีวิต เปิดเผยวินาทีเกิดเหตุว่า ชุดลาดตระเวนที่มีนายภูวพล ป้องสา เป็นหัวหน้าชุด เริ่มออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมเก็บกู้กล้องที่วางไว้ดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ในเส้นทางสันหนอกวัว-บ้านกองม่องทะ โดยออกปฏิบัติหน้าที่ในเช้าของวันที่ 1 ส.ค. เป็นช่วงที่เริ่มมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ อช.เขาแหลม โดยชุดลาดตระเวนทั้ง 6 นาย มาถึงริมน้ำรันตี ตรงข้ามจุดสะกัดพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ขณะนั้นเริ่มใกล้จะมืดทุกคนตั้งใจจะข้ามไปนอนพักค้างคืนที่หน่วยพ่าบุ่ง ซึ่งอยู่คนละฝั่งน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นปกติ แต่ขณะนั้นปริมาณน้ำในแม่น้ำรันตี มีระดับน้ำสูงขึ้น และไหลเชี่ยว
สำหรับ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็น หน.ชุด อาสาที่จะเอาเชือกผูกเอวแล้วว่ายน้ำข้ามฝั่งไป เพื่อเอาเชือกผูกต้นไม้ ให้น้องๆ ข้ามฝั่งไปได้สะดวกและเพื่อความปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เสียชีวิตทำเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่ผู้เสียชีวิตไปถึงกลางน้ำ กระแสน้ำได้พัดร่างหายไปในกระแสน้ำวน ก่อนร่างผู้เสียชีวิตจะจมหายไป โดยทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจ และได้พยายามช่วยกันดึงร่างผู้ตายกลับเข้าฝั่ง แต่กว่าจะนำร่างกลับเข้าฝั่งพบว่าผู้เสียชีวิตได้หมดสติ และไม่มีชีพจร จึงได้พยายามช่วยกันปฐมพยาบาล โดยการทำ CPR นานกว่า 1 ชม.ก็ไม่ฟื้น จึงได้ขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่หน่วยพ่าบุ่ง วิทยุแจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ
อย่างไรก็ตาม รู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียผู้ร่วมงานที่เป็นที่รักในทีม เป็นผู้ที่ทำงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละมาตลอด หลังเกิดเหตุการณ์ทุกคนต่างขวัญเสีย แต่ก็ต้องนอนเฝ้าศพเพื่อนตลอดทั้งคืน จนกระทั่งมีการเข้าไปช่วยเหลือได้ในวันนี้