posttoday

ปารีณายอมชดใช้พ่อขับชนรถผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ

13 มีนาคม 2563

ราชบุรี-ปารีณาครวญใครก็รักพ่อ รับพยายามห้ามไม่ให้ขับรถหลายครั้งแล้วแต่ไม่ยอมฟัง เคยถามตำรวจแล้วทำไมไม่ยึดใบขับขี่ ได้รับคำตอบว่าไม่มีอำนาจ

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มี.ค.63 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ"พิรญาณ์ แก้วทอง ช่างสักคิ้วโหงวเฮ้ง" โพสต์รถถูกเฉี่ยวชน เนื้อหาระบุว่า “รถน้องสาวเราเอง โดนคนดังราชบุรีชน แต่ติดต่ออะไรไม่ได้เลย โทรก็ไม่รับสายสักครั้ง อายุก็ปาไปแปดสิบกว่าแล้ว ลูกยังปล่อยให้ขับรถชนชาวบ้านไปทั่ว ท่านรวยท่านไม่เดือดร้อนหรอก คนหาเช้ากินค่ำสิเค้าเดือดร้อน ท่านเล่นชนแล้วก็ไม่รับผิดชอบ ปากบอกรับผิดชอบๆๆ พอโทรไปก็ไม่รับ เอาไงล่ะทีนี้ ดังแล้วไง รวยแล้วยังไงวะ! ”

ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปตรวจสอบดังกล่าว และทราบว่าผู้ที่ถูกเจ้าของเฟซบุ๊กตำหนิคือนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และผู้เสียหายได้เข้าพบร.ต.ท.ภูษิต ฮ้อประเสริฐ ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี เพื่อร้องทุกข์ และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว โดยแจ้งว่าเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 63 เวลา12.30 น. ขณะผู้เสียหายจอดรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน กธ 3180 ราชบุรี ไว้ภายในปั้มน้ำมัน ปตท. สามเรือน หมู่ 7 ต.สามเรือน อ.เมืองราชบุรี ที่เกิดเหตุ ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 6 กว 2384 กรุงเทพมหานคร ขับมาเฉี่ยวชนด้านข้างจนรถเสียหาย จากนั้นมีชายไทย (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) แจ้งว่าชื่อนายทวี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และตั้งแต่เกิดเหตุก็ไม่สามารถติดต่อกับนายทวีได้เลย ผู้เสียหายจึงมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินฟ้องร้องเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ร่วมกับกรมป่าไม้ ถึงเรื่องราวที่นายทวี ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้จัดการร้านสะดวกซื้อว่าได้มีการชดใช้หรือไม่ ซึ่งนางสาวปารีณา ก็บอกว่า รักและเคารพคุณพ่อ แต่ไม่สามารถที่จะไปห้ามไม่ให้คุณพ่อขับรถได้ ทั้งที่ที่บ้านก็มีคนขับรถก็ยอมรับว่ามีคู่กรณีเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็รับผิดชอบทุกคน รายล่าสุดที่คุณพ่อไปเฉี่ยวชนก็ได้โพสต์เฟสบุ๊ค ให้ติดต่อมาเพื่อจะได้รับผิดชอบให้ ซึ่งปรากฎว่าเป็นคนรู้จักกันจึงมีการเคลียร์กันแล้วโดยทางผู้เสียหายจะนำรถให้ทางอู่ได้ประเมินราคาให้

นางสาวปารีณา กล่าวต่อมา ต้องยอมรับว่าคุณพ่อนั้นอายุมากแล้ว และแต่ละบ้านนั้นมีความจำเป็นที่แตกต่างกันบางบ้านลูกดูแลพ่อ ซึ่งครอบครัวของตนนั้น พ่อดูแลทุกอย่างบางครั้งก็ต้องให้เงินลูกใช้เพราะเงินเดือน ส.ส.นั้นไม่พอใช้ และตนก็มีหนี้สินที่กู้มาจากธกส.ต้องส่งดอกเบี้ยปีละล้านกว่าบาท จึงต้องพึ่งพาคุณพ่ออยู่ ขณะเดียวกันตนนั้นเป็นคนกล้าพูดจนบางครั้งต้องมีปากเสียงกับคุณพ่อ แต่คุณพ่อก็ยังเมตตาและยังดูแลอยู่ แต่ตนก็ยังพยายามที่จะพูดให้คุณพ่อไม่ต้องขับรถ และก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว เพราะพยายามหลายครั้งจนคุณพ่อหงุดหงิด แต่ก็จะไม่ลดความพยายามด้วยความรักคุณพ่อ แต่การพูดให้คุณพ่อหงุดหงิดมากๆก็เกรงว่าจะกลายเป็นบาป ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

"ไปท้วงติงมากๆคุณพ่อก็จะไม่มีความสุข เวลาที่ท่านออกไปท่านก็เข้าใจท่านขับรถได้ซึ่งเป็นอันตรายต่อสังคม ซึ่งในช่วงที่เคยเกิดเหตุก็มีการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำไมไม่มีการยึดใบขับขี่ ซึ่งทางตำรวจก็บอกว่าไม่มีอำนาจ ซึ่งวันนี้ยังไม่มีใครดำเนินคดีกับคุณพ่อ เพราะทุกคนอาจจะไม่ติดใจ แต่ลูกๆทุกคนยังคงติดใจอยู่ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้คุณพ่อหยุดขับรถ และใครที่ยังมีคุณพ่อที่อายุมากอยู่และมีคนมาด่าคุณพ่อก็จะรู้สึกเหมือนตนเองตอนนี้ ซึ่งโชคดีว่าคุณพ่อเล่นโซเซียลไม่เป็นไม่เช่นนั้นก็จะทำให้คุณพ่อเป็นทุกข์มาก"