posttoday

2ผู้ป่วยโรคโควิด-19ที่หัวหินหายดีแล้ว ยังต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด 43ราย

19 กุมภาพันธ์ 2563

ประจวบคีรีขันธ์-หมอเผยอาการผู้ป่วยโรคโควิด-19ทั้ง 2 รายที่หัวหิน หายดีแล้ว แต่ยังติดตามอาการผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 43 รายต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลหัวหินอ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5, นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,นายแพทย์นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน ,นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายสมิทธิ์ จันทร์หอม อายุ 45 ปี ชาวหัวหิน ซึ่งเคยเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาชีพขับรถแท็กซี่ มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะแพทย์ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีจากอธิบดีกรมควบคุมโรค,อธิบดีกรมการแพทย์ และรองอธิบดีกรมอนามัย รวมทั้งมอบเงินช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนจากกองทุนธารน้ำใจใต้ร่มพระบารมี ซึ่งคณะกรรมการระดับจังหวัดได้พิจารณาช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ

นายพัลลภ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 คน ของ อ.หัวหิน หายป่วยและออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนวัย 73 ปี ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และนั่งรถแท็กซี่รับจ้างมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ได้มีอาการเป็นไข้ ไอจึงเดินทางพบแพทย์โรงพยาบาลเอกชน และเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรค ต่อมามีผลยืนยันจากโรงพบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าหญิงคนดังกล่าวติดเชื้อไวรัสโควิด -19 หลังจากนั้นทางแพทย์ได้ดำเนินการรักษาและต่อมาได้ย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี กระทั่งล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงว่าหญิงชาวจีนที่ป่วยติดเชื้ออาการเป็นปกติแล้วและทางคณะแพทย์ พยาบาลได้อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งคนขับรถแท็กซี่ที่รับหญิงชาวจีนมาหัวหิน ก็หายป่วยแล้วเช่นกัน

2ผู้ป่วยโรคโควิด-19ที่หัวหินหายดีแล้ว ยังต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด 43ราย

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีชายคนขับรถแท็กซี่ที่รับหญิงชาวจีน วัย 73 ปีมาที่หัวหินนั้น ทางทีมสอบสวนโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามตัวหาคนขับรถแท็กซี่รับจ้างรายดังกล่าว จนกระทั่งสามารถติดต่อได้และแจ้งให้ทราบว่าหญิงชาวจีนรายดังกล่าวติดเชื้อและให้มาตรวจที่โรงพยาบาลหัวหิน เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 และมีการเก็บตัวอย่างส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จนผลออกมาเป็นบวกพบว่าติดเชื้อจึงให้ผู้ป่วยเข้ารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลหัวหิน เป็นระยะเวลา 12 วัน จนกระทั่งคณะแพทย์ พยาบาล แจ้งว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวหายเป็นปกติแล้วและอนุญาตให้กลับบ้านได้ไปเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมไปถึงการเฝ้าดูผู้ใกล้ชิดทั้งภรรยา และลูก ของผู้ป่วยก็ไม่พบว่ามีติดเชื้อแต่อย่างใด โดยการรักษาใช้ยาต้านไวรัส และการรักษาตามอาการ รวมทั้งการให้อาหารที่มีประโยชน์และน้ำดื่มที่เพียงพอต่อร่างกาย จึงช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและหายป่วยตามลำดับ

นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ติดตามอาการผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยจำนวน 43 รายอย่างต่อเนื่อง ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม มั่นใจว่า สามารถรับมือได้ เพราะมีการบูรณาการการทำงานที่เข้มแข็งตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานในการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดทั้งโรคซาร์ โรคเมอร์ส ที่ผ่านมา ยืนยันว่ามาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคโควิด 19 ในครั้งนี้ดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา มีการประชุมติดตามสถานการณ์ทุกวัน ซึ่งความร่วมมือจากทุกภาคส่วนถือเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะหากตรวจพบผู้ป่วยเร็วก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้เร็ว

2ผู้ป่วยโรคโควิด-19ที่หัวหินหายดีแล้ว ยังต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด 43ราย

นพ.สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้ตั้งศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2563 มีการซักซ้อมแผนกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกรณีพบผู้ป่วย เพื่อให้การรับมือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ประสานโรงพยาบาลของรัฐ 10 แห่งและโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง เตรียมพร้อมห้องแยกโรคและเวชภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที เฉพาะที่โรงพยาบาลหัวหินนี้มีห้องแยกโรค 19 ห้อง ที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานทุกวันไม่มีวันหยุด มั่นใจว่าหากเรามีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคที่ดีต่อเนื่องจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่น่าเป็นห่วง

นายสมิทธิ์ จันทร์หอม อายุ 45ปี ชาวหัวหิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่หายจากการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ยอมรับว่าตกใจเมื่อรู้ตัวว่า เป็นคนรับผู้ป่วยชาวจีนมาหัวหิน และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อด้วย เป็นห่วงครอบครัว และลูกเล็กๆอีก 3 คนกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสไปด้วย และกลัวสังคมจะรังเกียจและต่อต้าน เพราะสื่อโซเซียลแรงมาก เมื่อมาเก็บตัวอย่างเชื้อส่งตรวจแล้ว ผลออกมาว่าตนติดเชื้อเพียงคนเดียวครอบครัวไม่ติดเชื้อก็รู้สึกเบาใจ และยินดีมารับการตรวจตามคำแนะนำของหมอ ช่วง1-2 วันแรก มีอาการไข้ขึ้น ตัวร้อนมาก แต่เมื่อได้รับยาต้านไวรัสของหมอตามขั้นตอนอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยตนอยู่รักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหินเป็นเวลา 12 วัน จนหายดีในที่สุด ดีใจอย่างมากที่หายแล้ว และตั้งใจที่จะบอกเล่าประสบการณ์ตัวเอง เพื่อให้เป็นวิทยาทาน ไปยังเพื่อนคนขับรถแท็กซี่ หรือพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังเรื่องความสะอาด โอกาสที่จะได้รับเชื้อโรค ควรป้องกันตัวเองเพื่อความไม่ประมาทด้วยการปิดหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อส่งลูกค้าเรียบร้อยแล้วก็ควรเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสต่างๆภายในรถเพื่อความปลอดภัยของลูกค้ารายอื่นด้วย ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลหัวหิน และหน่วยงานต่างๆที่เข้ามาดูแลรักษาพยาบาลตนจนหายดีในครั้งนี้ด้วย

นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากกรณีการพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 ยอมรับว่าที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อความกังวลของประชาชนในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่หัวหิน ขณะเดียวกัน กรุ๊ปทัวร์จีนได้ยกเลิกการเดินทางมาที่หัวหินเช่นกันอันเนื่องมาจากสถานการณ์การระบาดของโรคที่จีน ส่งผลกระทบต่อยอดจองห้องพักโรงแรมต่างๆ ต่อเนื่องไปถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งขณะนี้ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจว่าประเทศไทยไม่ใช่พื้นที่การแพร่ระบาดและผู้ป่วย 2 รายที่พบที่หัวหินก็หายดีแล้ว ทั้งนี้ ขอขอบคุณสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ผู้ประกอบการโรงแรม สถานที่พักต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือในการเฝ้าระวังโรคจนทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และจากนี้ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ จะเดินหน้าจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวหลายกิจกรรมเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวกลับคืนมา ขณะเดียวกัน มีสื่อมวลชนจากต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาศึกษาแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อกลับไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ยังประเทศของตนเองด้วย