ชาวเมืองคอนแห่ดูฐานอุโบสถโผล่กลางทะเล

โพสต์ทูเดย์ - ชาวบ้านแห่ดูฐานอุโบสถเก่าโผล่กลางทะเลหลังวัดแหลมตะลุมพุก เมืองปากพนัง

   ชาวบ้านต.แหลมตะลุม อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช จำนวนมากเดินทางไปดูพระอุโบสถของวัดแหลมตะลุมพุก ที่จมหายไปเมื่อไป 2505 หลังเกิดวาตภัยครั้งใหญ่ โผล่เหนือน้ำขึ้นมาให้เห็นในช่วงที่น้ำลด เป็นรูป 4 เหลี่ยมปริมน้ำ กว้าง 8 เมตร ยาว 16 เมตร แบบมหาอุต

   พระอธิการจตุพร จตุวโร เจ้าอาวาสวัดแหลมตะลุมพุก เปิดเผยว่า เดิมวัดแหลมตะลุมพุกสร้างมาเมื่อปี 2400 ในสมัยก่อนมีความเจริญ เป็นเมืองท่าที่จะเข้าไปยังเมืองปากพนัง มีหลักฐานที่ปรากฏว่าวัดแหลมตะลุมพุกมีที่ดินประมาณ 84 ไร่ แต่พอปี 2505 เกิดวาตภัยครั้งใหญ่ของประวัติศาสตร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,300 คน ทำให้เนื้อที่ของวัดขณะนี้เหลือประมาณ 36-37 ไร่เท่านั้น

   ทั้งนี้ เนื่องจากฝั่งที่ติดกับทะเลจะถูกคลื่นซัดจมหายไป เดิมอุโบสถของวัดซึ่งชาวบ้านระบุว่ามีอายุประมาณ 94 ปี ภายในมีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก เป็นที่เก็บกระดูกของชาวบ้าน แต่ได้จมอยู่ใต้ท้องทะเล ซึ่งเมื่อวันที่ 3 เดือนมี.ค. 2550 อาตมาได้ร่วมกับชาวบ้านทำการสำรวจอุโสถดังกล่าว ปรากฏว่าพบลูกนิมิต 4 ลูก

   พระอธิการจตุพร กล่าวอีกว่า ตัวอุโบสถนั้นหลังเกิดวาตภัยครั้งใหญ่ก็พังเสียหายทั้งหมด ยังคงเหลือฐานเท่านั้น เมื่อน้ำลดเต็มที่ก็จะโผล่มาให้เห็น ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้รวม 47 ปีเต็มๆ ปัจจุบันวัดแหลมตะลุมพุกยังไม่มีอุโบสถ

   อย่างไรก็ตาม อาตมาได้รวมกับญาติโยมหาทุนเพื่อทำการก่อสร้างอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จอีกไม่นานนี้ เนื่องจาก อ.ปกพนัง มีวัดทั้งหมด 52 วัด แต่วัดแหลมตะลุมพุกซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วัดเดียวที่ยังไม่มีอุโบสถเนื่องจากจมทะเลไปเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.ทุกปี น้ำจะลงเต็มที่ จะทำให้เราเห็นฐานของอุโบสถในช่วงนั้น

   ด้านนาย อนันต์ บุญโชติ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.3 ต.บางพระ อ.ปากพนัง  กล่าวว่า สมัยวัยรุ่นเดินทางมาที่วัดแห่งนี้เป็นประจำ โดยใช้เรือ หรือเดินเท้าเข้ามาที่วัด จำได้เมื่อตอนที่อายุประมาณ 22 ปี ได้เดินทางมาที่วัดแหลมตะลุมพุกซึ่งมีการจัดงานใหญ่โตมาก มีการเล่นหนังตะลุง มโนราห์ และมหสพอื่นๆ มากมาย  แต่หลังจากเกิดวาตภัยอุโบสถก็พังเสียหายจมอยู่ท้องทะลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา