posttoday

พาณิชย์ลุยสอบเอาผิด 3 ข้อหา "บอย ศรสุวีร์" ลั่นสาวถึงใครดำเนินคดีหมด

10 มีนาคม 2563

รมว.พาณิชย์เผยสั่งกระทรวงเดินหน้าสอบเอาผิด "บอย ศรสุวีร์" ใน3ข้อหา กักตุนหน้ากาก-ขายเกินราคา-ค้ากำไรเกินควร ลั่นสาวถึงใครดำเนินคดีหมด

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีนายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ บอย ที่โพสต์อ้างว่ามีหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ว่า มี 3 ข้อหาที่ กระทรวงพาณิชย์ต้องเข้าไปร่วมดำเนินการสอบสวน คือ

1. หากมีครอบครองหน้ากากอนามัยจำนวน 200ล้านชิ้นจริง หรือจำนวนเท่าไหร่ก็ตามที่อยู่ในครอบครองตามที่กฎหมายกำหนดห้าม จะต้องแจ้งการครอบครองซึ่งหากไม่แจ้งจะต้องผิดกฎหมาย

2. การจำหน่ายเกินราคา

3. ค้ากำไรเกินควร

"ผมได้กำชับว่าจะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะเกี่ยวพันไปถึงเรื่องการส่งออก เพราะต้องขออนุญาตและขณะนี้ยังไม่มีนโยบายให้ส่งออกได้ ดังนั้นถือเป็นการลักลอบส่งออก จึงถือเป็นเรื่องของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องต้องไปดำเนินการในอีกข้อหาหนึ่ง ขนาดนี้ต้องเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนว่า มีของกลางถึง 200 ล้านชิ้น จริงหรือไม่และของดังกล่าวขณะนี้อยู่ที่ไหน"

"ผมได้สั่งการผ่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปแล้ว ว่าให้ไปร่วมในทุกขั้นตอน โดยการดำเนินคดีจะต้องให้ถึงที่สุด ไม่ย่อหย่อน และสาวไปถึงใครก็ต้องดำเนินการ"นายจุรินทร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างถึงความใกล้ชิดกับคณะทำงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนยังไม่มีข้อมูล แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากกระทำผิดกฏหมาย ก็ต้องดำเนินการ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นหนังสือผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการปรับออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบริหารงานบกพร่องนั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะเราเป็นนักการเมือง ในระบอบประชาธิปไตย การตรวจสอบสามารถทำได้ หากกลไกไหนต้องการให้ชี้แจงตนก็ยินดี

"ที่ผ่านมาผมตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาหน้ากากอนามัย ร่วมมือทำงานกับกระทรวงสาธารณสุขมาโดยตลอด เพื่อจัดสรรให้เกิดความเพียงพอ และทางกระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่จัดสรรให้กับโรงพยาบาลสถานพยาบาลทุกแห่ง ในส่วนกระทรวงพาณิชย์จะจัดสรรไปยังร้านขายยา และร้านสะดวกซื้อ รวมถึงกลุ่มเสี่ยงอื่นที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ซึ่งถ้าในส่วนของสถานพยาบาลไม่เพียงพอก็ต้องปรับสัดส่วน โดยได้มีการประชุมร่วมกันทุกวันอยู่แล้ว"

"อีกทั้งนโยบายของผมมีความชัดเจน ว่าให้สถานพยาบาลแพทย์และผู้ป่วยก่อน ในขณะที่ประชาชนรัฐบาลได้ส่งเสริมให้ใช้หน้ากากผ้าหรือ หน้ากากทางเลือก เพื่อให้เกิดความสะดวกเพราะสามารถซักใช้ใหม่ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเบียดเบียนหน้ากากอนามัยสีเขียวซึ่งใช้ในทางการแพทย์"นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้เสนอ ครม.ของบฯกลาง เพื่อที่จะมาชดเชยการจัดสรรหน้ากากอนามัย ให้สถานพยาบาลเนื่องจาก ราคาจากโรงงานผลิตขายเกินราคา 2 บาท จึงจะต้องนำมาชดเชยค่าส่วนต่างให้กับโรงงาน