posttoday

อุทธรณ์ยืนคุก 10 ปี 2 ชายชุดดำ เหตุปะทะแยกคอกวัว ชุมนุม 10 เม.ย. 53

26 กุมภาพันธ์ 2563

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก ชายชุดดำ 2 คน คนละ 10 ปี เหตุปะทะแยกคอกวัว ชุมนุม 10 เม.ย. 53 อีก 3 คน ยกฟ้อง

เมื่อวันที่ 26 กพ. ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชายชุดดำ หมายเลขดำ อ.4022/2557 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกิตติศักดิ์ หรืออ้วน สุ่มศรี อายุ 50 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร, นายปรีชา หรือไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 30 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ , นายรณฤทธิ์ หรือนะ สุริชา อายุ 49 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี , นายชำนาญ หรือเล็ก ภาคีฉาย อายุ 51 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร และนางปุนิกา หรืออร ชูศรี อายุ 45 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 8 ทวิ 55, 72, 78 และข้อหาพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ชุมชน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จำเลยทั้ง 5 กับพวกที่ยังหลบหนี และพวกที่ถึงแก่ความตายไปแล้ว ได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน โดยร่วมกันพาอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ที่สามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินให้เกิดความเสียหายได้ อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ปืนเอ็ม 16 ปืนเอชเค 33 หรือ ปืนอาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถนนตะนาว ถนนประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กทม. ซึ่งเป็นเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ทั้งในเวลาเกิดเหตุมีการชุมนุมกันของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งวัน เวลาเกิดเหตุ เจ้าพนักงานยึดได้อาวุธสงครามของกลาง กระทั่งวันที่ 11 ก.ย. 2557 เจ้าพนักงานติดตามจับกุมพวกจำเลยทั้ง 5 ส่งพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดี พวกจำเลยให้การปฏิเสธ

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2560ว่า นายกิตติศักดิ์ จำเลยที่ 1 และนายปรีชา จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 4, 8 ทวิ 55, 72,78 ให้จำคุกคนละ 8 ปี และฐานพาอาวุธปืนไปในเมือง ที่ชุมชน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 10 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-5 นั้น พิพากษายกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์

จำเลยที่ 1และ2 ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลยกฟ้อง ส่วนอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 3 – 5 ด้วย

วันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัวจำเลยที่ 1-2 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล ส่วนจำเลยที่ 3-5 ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์เดินทางมาศาล

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า อุทธรณ์ โจทก์ - จำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นชอบแล้ว ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 ไว้คนละ 10 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3-5 แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา