posttoday

ตร.ได้ข้อมูลละเอียดมัดทีมอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญาพาไปฆ่าหั่นศพ

25 กุมภาพันธ์ 2563

แฉยิบขั้นตอนทีมอุ้มพี่ชายผู้พิพากษาไปฆากรรม ตร.พบหลักฐานเด็ดตั้งแต่ดักรอหน้าศาลอาญาพาไปฆ่าหั่นศพจ.นครสวรรค์ คุ้ยคดีเก่าอดีตภรรยา"บรรยิน"ขับรถชนต้นไม้ตายเทียบเคียงคดีฆ่าชูวงศ์

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญที่ทำให้ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่านายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เจ้าของสำนวนคดีโอนการหุ้นมูลค่า 300 ล้านบาทของเสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง โดยแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 6 คนนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการพบเจอคราบเลือดภายในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 รถยนต์ของกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้อายัดไว้เป็นของกลาง

ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงพบเจอชิ้นส่วนเศษกระดูกที่คาดว่าน่าจะเป็นของนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษา ลวดและยางรถยนต์ โทรศัพท์มือถือคราบน้ำมันที่ตรวจพบเจอบนผืนผิวดินภายในไร่แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ คาดว่าน่าจะเป็นจุดทำลายศพ ซึ่งเมื่อนำไปประกอบกับคำให้การของพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ระหว่างผู้ตายโดนอุ้มไปจากหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ และผู้ต้องหาบางรายที่ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันฆ่านายวีรชัยจริง รวมถึงวัตถุพยานหลักฐานสำคัญอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงค่อนข้างแน่นหนาพอสมควรที่จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวได้แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่พบศพของนายวีรชัยก็ตาม

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ตำรวจกองปราบปรามได้ทำการคลี่คลายการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ชุดสืบสวนกองปราบปราม นำโดย พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. (ตำแหน่งในขณะนั้น) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. (ตำแหน่งในขณะนั้น)ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. ลงพื้นที่จ.นครสวรรค์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลคดีการเสียชีวิตของ น.ส.รสรินทร์ ศรีนุกูล ภรรยาเก่าของ พ.ต.ท.บรรยินที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ มาเทียบเคียงกับการเสียชิวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง

ครั้งนั้นชุดสืบสวนกก.1บก.ป.ได้ทำการตรวจสอบ บันทึกประจำวันของ สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2534 ช่วงเวลา 23.00 น. สมัยที่ พ.ต.ท.บรรยิน ดำรงตำแหน่ง รองสารวัตรจราจรยศ ร.ต.ท. ที่สภ.แห่งหนึ่ง โดยในคืนเกิดเหตุขณะที่ พ.ต.ท.บรรยินและภรรยากลับจากรับประทานอาหารที่ร้านครัวชัยนาท อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โดยน.ส.รสรินทร์เป็นคนขับ โดยใช้เส้นทางสายอุทัยธานี มุ่งหน้าเข้าเมืองนครสวรรค์ ระหว่างใกล้เข้าเขตนครสวรรค์ เกิดเหตุรถสิบล้อแซงสวนขึ้นมา สมัยนั้นถนนยังเป็นเลนสวน ทำให้รถของพ.ต.ท.บรรยินหักหลบกะทันหัน จนเสียหลักตกข้างทางไปชนกับต้นสะเดาขนาดใหญ่ข้างทาง เป็นเหตุให้ภรรยาพ.ต.ท.บรรยินบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลพยุหะคีรี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ ชุดสืบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมบุคคลใกล้ชิด น.ส.รสรินทร์ ซึ่งทั้งหมดเป็นบุคคลใกล้ชิดของภรรยาเก่า พ.ต.ท.บรรยิน ได้ให้การเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในประเด็นที่ อดีตภรรยาของพ.ต.ท.บรรยิน คือ น.ส.รสรินทร์ขับรถยนต์ไม่เป็น และเมื่อตรวจสอบก็พบว่าไม่มีการทำใบขับขี่รถยนต์แต่อย่างใด โดยข้อมูลในส่วนนี้ทางชุดทำงานได้รวบรวมในสำนวนควบคู่กับผลการตรวจสอบทางเทคนิครถยนต์โดยผู้เชี่ยวชาญ ก่อนนำมาพิจารณาขออำนาจศาลออกหมายจับพ.ต.ท.บรรยิน ในคดีฆ่านายชูวงษ์ ซึ่งปมจูงใจมาจากการโอนหุ้น 300 ล้านบาทที่มีการโอนไปก่อนหน้านี้

รายงานข่าวระบุว่า จากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหา ทำให้พบแผนประทุษกรรมของขบวนการนี้ว่ามีการเตรียมการณ์วางแผนมาเป็นอย่างดี โดยหนึ่งในผู้ต้องหาได้ให้การซัดทอด รถยนต์ที่ก่อเหตุมีการสวมทะเบียน และเปิดเบอร์โทรศัพท์ใหม่ อีกทั้งระบุว่านายมานัสทำหน้าที่เป็นคนจัดหาทีมงาน โดยวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บรรยิน ได้สั่งการให้นายณรงค์ศักดิ์ เตรียมการหาซื้อน้ำมันจำนวน 18 ลิตร ยางรถยนต์ และลวดมาไว้ที่ดินป่ารกร้าง บริเวณเขาใบไม้ ในจ.นครสวรรค์ ก่อนที่จะวางแผนกันเดินทางไปก่อเหตุ แต่นายณรงค์ศักดิ์ได้สั่งให้ลูกน้อง ซึ่งเป็นคนต่างด้าว ไปซื้อแทน

รายงานข่าวแจ้งว่า ลูกน้องของนายณรงค์ศักดิ์ได้ขี่จยย.ไปซื้อกับคนสนิทของนายณรงค์ศักดิ์ ในส่วนวันเกิดเหตุที่บริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ กลุ่มผู้ต้องหา 4 คนมาที่เกิดเหตุโดยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ โดยทั้งหมดมีการอำพรางตัว ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า โดยพ.ต.ท.บรรยิน สวมเครื่องแบบตำรวจ สวมหมวกกันน็อคใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ขณะที่ผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ 3 คน สาวมหมวกแก๊ปใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า

สำหรับ รถดังกล่าวมี พ.ต.ท.บรรยิน เป็นผู้ขับ และได้ขับไปตามเส้นทาง ถ.พระราม 5 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มุ่งหน้าไป จ.สุพรรณบุรี และ จ.นครสวรรค์ จนกระทั่งเวลา 22.00 น.ของวันที่ 4 ก.พ. ทั้ง 4 คนได้มาถึงที่ป่ารกร้าง บริเวณเขาใบไม้ ในจ.นครสวรรค์ โดยพาตัวนายวีรชัยเข้าไป ก่อนที่จะออกมาในเวลาเที่ยงคืน

มีรายงานว่า หนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่า ไม่ได้มีการหั่นศพผู้ตายแต่อย่างใด แต่เอามาเผานั่งยาง ก่อนที่จะเหลืออวัยวะบางส่วน ใส่ถุงโยนทิ้งน้ำ ทั้งนี้จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบซากกระดูก เศษยางรถยนต์ เม็ดกระดุมเสื้อ ซึ่งคาดว่าเป็นของผู้ตาย และเศษลวด อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมไว้ตรวจหาดีเอ็นเอ นอกจากนี้ได้พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายถูกโยนทิ้งน้ำที่ริมน้ำปิง บริเวณหน้าวัดไทรด้วย