posttoday

ยกฟ้องหนุ่มแพะคดีวิ่งราวเพชร15.8ล.ชี้หลักฐานอ่อน

26 กันยายน 2560

ศาลพิพากษา ยกฟ้อง หนุ่มแพะ คดีวิ่งราวเพชร 15.8 ล้าน ชี้ หลักฐานโจทก์อ่อน ออกหมายปล่อยตัวเย็นนี้

ศาลพิพากษา ยกฟ้อง หนุ่มแพะ คดีวิ่งราวเพชร 15.8 ล้าน ชี้ หลักฐานโจทก์อ่อน  ออกหมายปล่อยตัวเย็นนี้

ศาลอาญา ธนบุรี นัดฟังคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญาธนบุรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น จากกรณี นายพิสิษฐ์ ถูกกล่าวหา ว่า ทำการวิ่งราวเพชรมูลค่า 15.8 ล้านบาท ไปจากผู้เสียหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแวก เมื่อช่วงเดือนธ.ค. 2559 และนายพิสิษฐ์ ถูกตำรวจตามไปควบคุมตัวได้ ที่ จ.นครพนม ซึ่งผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเจ้าของเพชร ที่ กรุงเทพฯ ได้ชี้ตัวยืนยัน ว่าคนร้ายคือนายพิสิษฐ์

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน จากโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่าคดีนี้พยาน 2 ราย ซึ่ง เคยพบเห็นคนร้ายถึง 2 ครั้ง ยืนยันว่า คนร้าย มีรูปร่างท้วม ผิวดำแดง สูงประมาณ 158 ซม. ริมฝีปากล่างเผยอออกมา และเมื่อทนายจำเลย นำภาพถ่ายของจำเลย ไปให้พยานชี้ตัว ยืนยันว่า จำเลยไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุ ขณะที่ ผู้เสียหาย ซึ่งทำการซื้อขาย ราคา 15.8 ล้านกับคนร้ายที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแวก กลับให้การสับสน เกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย และจำเลย ประกอบกับ พนักงานสอบสวนไม่ทำการ ตรวจดีเอ็นเอ โต๊ะที่เกิดเหตุ ที่คนร้ายนั่งคุยกับผู้เสียหาย เพื่อมาเปรียบเทียบยืนยันว่า คนร้าย คือจำเลยหรือไม่

รวมทั้ง หมายเลขโทรศัพท์ 062-3857977 ที่ผู้เสียหายอ้างว่า คน คนร้ายใช้เบอร์โทรศัพท์นี้โทรมาติดต่อเรื่องของการซื้อเพชร และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ การจดทะเบียน ซิมก็พบว่าเป็นชื่อของนายพิสิษฐ์ จำเลย แต่ พนักงานสอบสวนไม่ทำการ หาหลักฐานมายืนยันว่าในการจดทะเบียนซิมนั้นนายพิสิษฐ์ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองไปแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ เอไอเอส ด้วยตนเองหรือไม่

พยานหลักฐานของโจทก์จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นั้น คือตัวจำเลย ตามฟ้องโจทก์ และจำเลยได้นำพยานที่อยู่ในจังหวัดนครพนมมาเบิกความเกี่ยวกับเรื่องของถิ่นที่อยู่ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย อีก พิพากษายกฟ้องและให้ออกหมายปล่อย จำเลยตามผลของคำพิพากษาหลังทราบผลคำพิพากษาแล้ว นายพิสิษฐ์ ได้ก้มลงกราบมารดา ภายในห้องพิจารณาคดี และ เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ที่ให้การช่วยเหลือทางคดี ได้เข้าไปแสดงความยินดีกับนายพิสิษฐ์ ด้วย

นายดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า คดีนี้หลังกระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติจำเลย จึงสั่งการให้ดีเอสไอ ทำการตรวจสอบพยานหลักฐาน ก็พบพิรุธ ในหลายเรื่อง และการที่ศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นบรรทัดฐาน ให้กับสังคม และพนักงานสอบสวน ควรทำคดีให้มีความรอบคอบ

ขณะที่ มารดาของนายพิสิษฐ์ กล่าวว่า ดีใจมากที่ลูกชายพ้นผิด ที่ผ่านมาก็ให้กำลังใจลูกชายมาโดยตลอดอย่างไรก็ตาม หลังศาลมีหมายปล่อยตัวจำเลย แล้ว จะได้นำคำสั่ง ดังกล่าวไปขอปล่อยตัวที่เรือนจำธนบุรี ในช่วงเย็นวันนี้