HEYTEA กำลังจะมาไทย? พบประกาศรับ Store Manager ประจำกรุงเทพฯ

กระแสชาจากจีนอาจกำลังเดือดขึ้นอีกระลอก เมื่อมีผู้พบว่า HEYTEA แบรนด์ชาชื่อดังจากจีน โพสต์ประกาศรับสมัครตำแหน่ง Store Manager เพื่อปฏิบัติงานใน กรุงเทพมหานคร บนแพลตฟอร์ม LinkedIn จนเกิดคำถามตามมาว่า นี่คือสัญญาณของการเตรียมเปิดสาขาในไทยอย่างเป็นทางการหรือไม่?

 

ก่อนหน้านี้ไม่นาน HEYTEA เพิ่งเริ่มวางจำหน่าย ชาอู่หลงบรรจุขวด กลิ่นองุ่นแบล็คเคอร์แรนท์ ในร้าน 7-Eleven ในไทย

 

https://www.posttoday.com/smart-sme/733774

 

อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากแบรนด์ว่า HEYTEA จะเปิดสาขาในประเทศไทยหรือไม่ ต้องติดตามความชัดเจนกันต่อไป

รู้จัก HEYTEA แบรนด์ชาจีนที่เขย่าวงการ

HEYTEA เป็นแบรนด์ชาจากจีนที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเฉพาะ ชาชีส และ ชาผลไม้ ซึ่งกลายเป็นเทรนด์ไปทั่วประเทศจีน และขยายอิทธิพลไปยังหลายประเทศ

 

แบรนด์ก่อตั้งในปี 2012 ที่มณฑลกวางตุ้ง เริ่มต้นภายใต้ชื่อ ROYAL TEA ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น HEEKCAA และใช้ชื่อ HEYTEA อย่างเป็นทางการในปี 2016

 

ผู้ก่อตั้งคือ Nie Yunchen ซึ่งเคยล้มเหลวจากการทำธุรกิจร้านขายสมาร์ตโฟนตามกระแส iPhone 4 ก่อนจะหันมาศึกษาตลาดเครื่องดื่ม และมองเห็นโอกาสในตลาดชา ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นจีน

 

แม้ช่วงเริ่มต้นร้านจะยังไม่โดดเด่น แต่ Yunchen เดินหน้าปรับกลยุทธ์ ศึกษาการสร้างแบรนด์จาก Starbucks จนค้นพบว่า “ประสบการณ์ลูกค้าและเอกลักษณ์ของแบรนด์” คือหัวใจสำคัญ

 

ต้นตำรับ “ชาชีส” และเมนูไวรัล

HEYTEA กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการเปิดตัวเมนู ชาชีส ที่สร้างกระแสไวรัลบนโซเชียล จนหลายแบรนด์ต้องทำตาม ภาพจำของ HEYTEA จึงผูกกับการเป็น “ต้นตำรับชาชีส” ที่นักท่องเที่ยวไปจีนมักต้องไปต่อแถวลองชิม บางสาขาต้องรอคิวนานเป็นชั่วโมง อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์คือ Cheese Grape Boom ชาผลองุ่นชีสที่กลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของแบรนด์

 

มินิมัล + โซเชียล 

จุดเด่นของ HEYTEA ไม่ได้มีแค่รสชาติ แต่รวมถึง ดีไซน์ร้าน โลโก้ และแก้วเครื่องดื่มสไตล์มินิมัล ทำให้ลูกค้ามักถ่ายรูปแชร์ลงโซเชียลอยู่เสมอ

 

กลยุทธ์การตลาด HEYTEA กับการร่วมมือแบรนด์หรู (Luxury Collaboration) ถือเป็นหนึ่งในหมากสำคัญที่ทำให้แบรนด์ชาจีนก้าวจาก “เครื่องดื่มแมส” สู่ “ไลฟ์สไตล์พรีเมียม” ได้อย่างชัดเจน ในเชิงแบรนด์ดิ้ง โฟกัสกลุ่มวัยรุ่น ใช้พลังโซเชียลมีเดียอย่าง Xiaohongshu, Douyin และ WeChat ควบคู่กับการทำงานร่วมกับ KOLs รวมถึงจับมือกับแบรนด์ระดับโลก เช่น

• Fenty Beauty ของ Rihanna
• Fendi แบรนด์หรูจากอิตาลี

โดยแคมเปญพิเศษบางครั้งสามารถขายได้มากถึง 1.5 ล้านแก้ว ภายใน 3 วัน

 

ราคาเข้าถึงได้ – สาขาทั่วโลก

อีกทั้งราคาเครื่องดื่มของ HEYTEA เริ่มตั้งแต่ 18–29 หยวน หรือประมาณ 80–130 บาทต่อแก้ว เช่น เมนู Cheese Grape Boom ราคา 19 หยวน (ราว 85 บาท)

 

ปัจจุบัน HEYTEA มีสาขามากกว่า 4,300 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในจีน และขยายไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และมาเลเซีย แต่ยังไม่มีสาขาในประเทศไทย

 

สุดท้ายแล้ว การพบประกาศรับสมัครงานในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ จะเป็นเพียงการขยายทีมงาน หรือคือสัญญาณของการเปิดร้าน HEYTEA ในไทยจริง ๆ คงต้องรอติดตามความเคลื่อนไหวจากแบรนด์กันต่อไปอย่างใกล้ชิด