เทรนด์ Metabolic Beauty มาแน่ สวยสุขภาพดีจากข้างในสู่ข้างนอก
จับตาเทรนด์ Metabolic Beauty คาดมาแรงในปีหน้า เน้นดูแลตัวเองลงลึกถึงระดับเซลล์ ดูแลสัดส่วนร่างกาย โอกาสธุรกิจ Wellness
ทุกปีกระแสการดูแลตัวเอง มักจะหมุนเวียนกลับมาในรูปแบบใหม่เสมอ บางปีเราพูดถึง Clean Beauty ที่ปลอดสารเคมี บางปี Minimal Skincare กลายเป็นเทรนด์แรงที่ใคร ๆ ก็ทำตาม และในบางช่วง Wellness Lifestyle ก็เข้ามาครองพื้นที่ใจของผู้คนที่เชื่อว่าสุขภาพดีคือความงามที่แท้จริง
กระแสเหล่านี้ไม่ได้มาแค่สร้างแรงบันดาลใจให้คนหันมาดูแลตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึงทั้งอุตสาหกรรม ตั้งแต่ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ใหญ่ ไปจนถึงธุรกิจสปาและบริการความงาม ที่ต่างต้อง “ปรับตัว” ให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย และในปีหน้าที่กำลังจะมาถึง “Metabolic Beauty” ความงามที่เริ่มต้นจาก “ระบบเผาผลาญของร่างกาย” และลงลึกถึงระดับเซลล์ เสียงของเทรนด์ใหม่เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง…
สุนัย วชิรวราการ นายกสมาคมสปาไทย กรรมการคณะอนุกรรมการธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพ เปิดเผยในงาน T-Beauty ความงามไทยพร้อมสู้ศึกตลาดโลกหรือยัง? ว่า ตลาดความงามของไทย (T-Beauty) มีมูลค่าสูงและแสดงศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2024 มูลค่าตลาด T-Beauty กลับขยายตัวเฉลี่ยปีละ 9-10% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่คาดการณ์ว่าจะโตไม่ถึง 3% มูลค่าตลาดความงามไทยรวมอยู่ที่ 5.76 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตไปถึง 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2027
ทั้งนี้ T-Beauty ไม่ใช่แค่เครื่องสำอาง แต่เป็น Soft Power ของไทยที่สามารถเข้าถึงง่ายและส่งเสริมธุรกิจของประเทศได้อย่างมาก หากผนวกเข้ากับวัฒนธรรมและความเป็นไทยที่สวยงาม จะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นศูนย์กลางผู้ผลิตแบบ OEM/ODM ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีโรงงานคุณภาพมากกว่า 760 แห่ง ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของระบบนิเวศอุตสาหกรรม
จับตาเทรนด์ Metabolic Beauty
สุนัย กล่าวต่อว่า ความงามยุคใหม่ผสานเข้ากับสุขภาพ (Wellness) อย่างแยกไม่ออก ผู้บริโภคไม่ได้ต้องการเพียงแค่ความสวยจากภายนอก แต่ต้องการความสวยที่มาจากภายในและสุขภาพที่ดีในระยะยาว (Longevity)
Personalization และ Biohacking กระแสหลักคือการแสวงหาสิ่งที่เฉพาะตัว (Personalization) มากที่สุด โดยมีเทรนด์ที่น่าจับตาคือ Biohacking (ไอแฮ็กกิ้ง) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญที่จะมีการพูดถึงมากขึ้นในอนาคต หรือแม้แต่ Metabolic Beauty เป็นเทรนด์ที่คาดว่าจะมาแรงในปีหน้า ซึ่งเป็นแนวทางความงามที่เชื่อมโยงกับระบบ Metabolism หรือกระบวนการเผาผลาญของร่างกายเน้นการดูแลสัดส่วน และรูปร่างในระดับเซลล์ โดยการอินทิเกรตเทคโนโลยีและไบโอมาร์คเกอร์ (Biomarker) เช่น การวิเคราะห์เส้นผมหรือผิวหนัง เพื่อวัดคุณภาพและปรับปรุงทรีตเมนต์ให้เป็นเฉพาะบุคคล
อารมณ์และความรู้สึก (Sensorial Synergy)
สุนัยกล่าวอีกว่า 67% ของคนไทยเชื่อว่าอารมณ์ความรู้สึกมีผลต่อความสวย การดูแลความงามในยุคนี้จึงต้องดูแลไปถึงความรู้สึก (Feeling) และความพึงพอใจของผู้ใช้ (Feel Good) ซึ่งถูกจัดเป็นเหตุผลอันดับที่ 3 ที่ผู้บริโภคใช้ K-Beauty
พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่และปัจจัยการตัดสินใจ
การใช้จ่ายหลัก ผู้บริโภค 93% ใช้จ่ายหลักไปกับผลิตภัณฑ์ เช่น Skin Care, Body Care, Hair Care รองลงมาคือ Supplements (วิตามิน, คอลลาเจน) และอันดับสามคือ Treatment หรือ Service
ความรู้คู่คุณภาพ ผู้บริโภคยุคนี้มีความรู้และศึกษาข้อมูลมากขึ้น โดย 86% ยังคงลังเลและไม่เชื่อว่าของแพงต้องเป็นของดีเสมอไป พวกเขาสามารถหาข้อมูลส่วนผสม (Ingredient) ที่ใช้ได้ว่าตัวไหน "เวิร์ค" หรือ "ไม่เวิร์ค"
ปัจจัยในการซื้อ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการซื้อคือ คุณภาพ ราคา และส่วนผสม (Ingredient) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจและนำเสนอนวัตกรรม
ในส่วนความต้องการตามช่วงวัย Gen Z สนใจเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) และ Clean Label มากที่สุด รวมถึงสุขภาพสมองและสายตา (Brain and Eye health) ขณะที่ Gen X สนใจการชะลอวัย (Anti-aging) เป็นหลัก


