posttoday

“ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” โตไม่หยุด SPayLater ใช้กับร้านค้าออฟไลน์ ได้แล้ว

17 กรกฎาคม 2568

ตลาด “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ไทยโตไม่หยุด! คาดปีนี้มูลค่าตลาดโต 14.9% พุ่งทะยานไปแตะ 2.4 แสนล้านในปี 2573 ล่าสุด ShopeePay ขยาย SPayLater สู่ร้านค้าออฟไลน์

ตลาด “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” หรือ Buy Now, Pay Later (BNPL) ในประเทศไทยกำลังเร่งเครื่องเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาวิธีชำระเงินที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่ากว่าเดิม ขณะที่ผู้ให้บริการทั้งในกลุ่มธนาคารและฟินเทคต่างเปิดเกมรุกเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่พุ่งสูงขึ้น

 

โดยภาพรวมตลาดการให้บริการช้อปก่อนจ่ายทีหลังในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างอิงผลการวิจัยจาก ResearchAndMarkets.com’s ได้มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้มูลค่าตลาดจะเติบโตขึ้น 14.9% และจะพุ่งทะยานไปแตะ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.4 แสนล้านบาท (อัตราเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568) ภายในปี 2573 ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอีคอมเมิร์ซ และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกในการชำระเงินที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่ามากขึ้น

 


 

หนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดนี้ คือ ShopeePay ซึ่งได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “SPayLater” เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกช้อปก่อน จ่ายทีหลัง ได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตหรือวางเงินดาวน์ โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบนแอป Shopee และ ShopeePay รวมถึงร้านค้าทั่วประเทศที่รองรับ QR Code

 

  • SPayLater โตแรง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่

 

นายศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริการ SPayLater ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ใช้งาน Shopee ทั่วประเทศ โดยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้งาน และจำนวนการทำธุรกรรม โดยอัตราการเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังมองหาวิธีชำระเงินที่ตอบโจทย์มากกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของความยืดหยุ่น และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

จากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภคบนแอปพลิเคชัน Shopee พบว่า ผู้ใช้งานยุคใหม่ ไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่เพียงแค่การช้อปปิ้งออนไลน์เท่านั้น แต่ยังต้องการประสบการณ์ด้านการชำระเงินที่ไร้รอยต่อระหว่างโลกออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล

 

ในปีนี้ ShopeePay จึงเดินหน้ารุกตลาดออฟไลน์อย่างจริงจัง โดยขยายการให้บริการ SPayLater ไปยังร้านค้าทั่วประเทศผ่านฟีเจอร์ Scan & Pay เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว ทุกที่ ทุกเวลา ตามความต้องการ เรามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การขยายโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่เพียงแต่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้ร้านค้า และพันธมิตรของเราสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

 


 

การใช้งานจะเลือกใช้การชำระเงินแบบ “ช้อปก่อน จ่ายทีหลัง” สแกน PromptPay QR หรือ ShopeePay QR ในร้านค้าทั่วประเทศที่เข้าร่วมรายการ มากกว่า 9 ล้านจุดทั่วประเทศไทย ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อิเล็กทรอนิกส์ ความงาม แฟชั่น ร้านอาหาร ตลอดจนบริการต่าง ๆ 

 

อย่างไรก็ตาม การใช้ SPayLater ผ่าน PromptPay QR จะเป็นการเติมเงินเข้ากระเป๋า ShopeePay ด้วยวงเงินสินเชื่อ โดยมีดอกเบี้ยระหว่าง 15–25% ต่อปี ผู้ใช้งานควรวางแผนการใช้และชำระคืนให้ตรงเวลา

 

  • แข่งดุ! ผู้เล่นหลักเร่งขยายตลาด

 

ทั้งนี้ตลาด BNPL ไทยยังเต็มไปด้วยการแข่งขันจากผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น

  • Atome: ผู้นำตลาด BNPL ที่ให้บริการผ่อนชำระในหมวดแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และอิเล็กทรอนิกส์
  • K PAY LATER: บริการจากธนาคารกสิกรไทย ที่ชูความยืดหยุ่นในการชำระ
  • SpayLater: แพลตฟอร์มสินเชื่อนอกระบบธนาคาร เน้นกลุ่มคนไม่มีบัตรเครดิต
  • Pay Next: บริการผ่อนสินค้าแบบไม่มีเงินดาวน์ ที่ครอบคลุมสินค้าหลายประเภท


จากการคาดการณ์ของ ResearchAndMarkets.com ตลาด BNPL ไทยจะเติบโต 14.9% ในปีนี้ และมีมูลค่าสูงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท) ภายในปี 2573

 

ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็ว ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกำกับดูแล BNPL เพื่อป้องกันการปล่อยสินเชื่อเกินตัว และคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค โดยเน้นการส่งเสริมให้ผู้ให้บริการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมสนับสนุนการเติบโตที่มั่นคงของอีโคซิสเต็ม BNPL ในระยะยาว

 

  • โอกาสยังเปิด แต่ต้องเดินเกมอย่างระมัดระวัง

 

ตลาด BNPL ไทยยังมีศักยภาพเติบโตอีกมาก ทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการจำเป็นต้องพร้อมรับมือกับกรอบกำกับใหม่ที่จะทยอยออกมาในอนาคต เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค และวางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

 

 

Source : https://www.fintechfutures.com/press-releases/thailand-buy-now-pay-later-business-report-2025-2030evolving-regulations-and-strategic-partnerships-drive-growth-fintech-and-financial-institutions-compete-for-market-share?utm_source=chatgpt.com

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท