posttoday

Taobao แพลตฟอร์มช้อปปิ้งจากจีน บุกตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเต็มตัว

29 พฤษภาคม 2568

Taobao แพลตฟอร์มช้อปปิ้งจากจีนในเครือ Alibaba เปิดเวอร์ชันภาษาไทย บุกตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเต็มตัว สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคยอมรอสินค้านาน แลกกับราคาคุ้มค่า

Taobao (เถาเป่า) แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์รายใหญ่ภายใต้เครือ Alibaba เดินหน้ารุกตลาดไทยอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัวเว็บไซต์เวอร์ชันภาษาไทยอย่างเป็นทางการ ตอบรับกระแสผู้ใช้งานชาวไทยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว


สำหรับ Taobao เปิดตัวครั้งแรกในปี 2003 โดยมีความหมายว่า “การค้นหาสมบัติ” และมีเป้าหมายในการเป็น “Taobao สำหรับทุกคน” โดยมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดเล็ก (SMEs) และผู้ใช้งานทั่วไปในจีน ทำให้สินค้าแบรนด์ต่างประเทศระดับนานาชาติไม่ค่อยพบในแพลตฟอร์มนี้ นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงของใช้ประจำวัน กว่า 10 ล้านรายการ ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าราคาถูกได้โดยตรงจากผู้ผลิตหรือร้านค้าโดยไม่ผ่านคนกลาง

 

ปัจจุบัน Taobao ถือเป็นแพลตฟอร์ม Mobile Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในจีน และ ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา Taobao เริ่มให้บริการจัดส่งสินค้าภายในวันเดียวในเขตเมืองเซี่ยงไฮ้ และขยายบริการไปยังเมืองอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง และไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสำหรับซื้อของเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมเทรนด์และคอนเทนต์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคติดตามสิ่งน่าสนใจได้อย่างไม่ตกเทรนด์
 

ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2024 Taobao และ Tmall ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในเครือ Alibaba ร่วมกันครองตำแหน่งธุรกิจค้าปลีกดิจิทัลที่มีมูลค่าสินค้ารวม (GMV) สูงที่สุดในโลก อ้างอิงจากรายงานของ Analysys 

 

และเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานจากทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Taobao ได้เปิดตัวระบบรองรับภาษามากมาย ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูง เพื่อยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งให้เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้งานจากหลากหลายประเทศมากยิ่งขึ้น

 

การเปิดตัว Taobao เวอร์ชันภาษาไทยในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Taobao ที่มีต่อผู้ใช้งานในประเทศไทย โดยขณะนี้นักช้อปชาวไทยสามารถเลือกใช้งานแพลตฟอร์มได้ถึงสามภาษา ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย

 

พงษ์ฐกร อ่อนหวาน Head of Taobao Thailand กล่าวว่า ถือเป็นก้าวสำคัญในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานชาวไทยที่มีการใช้งานแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องและเหนียวแน่น ซึ่งให้ความสำคัญกับเสียงจากผู้ใช้งานมาโดยตลอด และการเปิดตัวในครั้งนี้ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาในอีกหลายด้านที่จะตามมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้สะดวก และตอบโจทย์ผู้บริโภคในประเทศไทยอย่างแท้จริง 
 

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ามารุกตลาดในประเทศไทย Taobao ได้ใช้กลยุทธ์ การจัดส่งฟรี เมื่อมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำเพียง 99หยวน (ประมาณ 450 บาท) พร้อมอัดโปรโมชันแฟลชเซลล์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ 1 หยวน สำหรับผู้ใช้งานใหม่ (ประมาณ 5 บาท) รวมถึงดีลเด็ดในราคาพิเศษต่าง ๆ  

 

อีกทั้งยังมีระบบรองรับการชำระเงินเป็นเงินบาทในทุกเวอร์ชันภาษา ไม่ว่าจะเป็นจีน อังกฤษ หรือไทย ตัวเลือกการชำระเงินไม่ว่าจะเป็น Visa, MasterCard, TrueMoney, LINE Pay, Google Pay หรือ Apple Pay 

 

อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทยต่อเนื่อง 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนอกจาก Lazada (ในเครือ Alibaba) และ Shopee (ในเครือ Sea Group) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหลักในตลาดไทยแล้ว ยังมีผู้เล่นจากรายอื่นที่เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยเพิ่มขึ้น

 

หนึ่งในนั้นคือ AliExpress แพลตฟอร์ม cross-border e-commerce จาก Alibaba Group ซึ่งเน้นเจาะตลาดผู้บริโภคที่มองหาสินค้าราคาถูก โดยมีจุดเด่นด้านการสั่งซื้อโดยตรงจากจีน มีระบบแปลภาษาไทย และรองรับการชำระเงินหลายช่องทาง แม้จะใช้เวลาจัดส่งนาน แต่ราคาก็ถือว่าคุ้มค่า

 

อีกหนึ่งหน้าใหม่มาแรงคือ Temu จาก PDD Holdings (บริษัทแม่ของ Pinduoduo) ที่เข้ามาในไทยพร้อมจุดขายด้านราคาประหยัด โปรโมชั่นจัดหนัก และบริการส่งฟรี Temu เปิดให้บริการในไทยเต็มรูปแบบ รองรับภาษาไทย มีแอปและเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย พร้อมช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย

 

พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ยอมรอสินค้านาน เพราะราคาดี

 

การเข้ามาของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกสะท้อนถึงศักยภาพของตลาดไทยที่ได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะตลาดที่เติบโตเร็วและมีการแข่งขันสูง เหล่ายักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซกำลังเร่งขยายฐานลูกค้าและนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคไทยอย่างใกล้ชิด

 

ในขณะเดียวกัน การเข้ามาของแพลตฟอร์มเหล่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค คือผู้บริโภคไทยยอมรอ เพื่อสินค้าราคาถูกแม้จำเป็นต้องรอนาน ทำให้โลจิสติกส์ข้ามพรมแดนกลายเป็นเรื่องปกติ จากที่เคยเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม

 

ปัจจุบันการสั่งสินค้าจากต่างประเทศโดยตรงกลายเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคทั่วไป  สำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า SME ในหมวดแฟชั่น ของใช้ และแกดเจ็ต การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นเป็นโอกาสในการปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อสร้างความโดดเด่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
 

ข่าวล่าสุด

กกต.สรุปยอดสมัครเลือกตั้ง อบต.ทั่วประเทศพุ่งกว่า 1 แสนราย