เจาะไส้ใน! เหตุผลที่จีนมี 'ตู้ ATM ทอง' หลอมได้ภายใน 30 นาที
เจาะไส้ใน เมื่อจีนมี 'ตู้ ATM ทอง' ที่สามารถตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองก่อนประเมินและรับซื้อได้ใน 30 นาที! แต่เหนือกว่าความสะดวก มีเหตุผลที่เรียกว่า การรีไซเคิลทองคำ!
KEY
POINTS
- เจาะไส้ใน เมื่อจีนมี 'ตู้ ATM ทอง' หรือ Smart Gold Store ที่สามารถตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทองก่อนประเมินและรับซื้อได้ใน 30 นาที
- รู้จักแนวคิด 'รีไซเคิลทองคำ' ที่อยู่เบื้องหลังนวัตกรรมที่มีผลต่อเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อม
นับเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญสำหรับวงการทอง โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่ราคาทองพุ่งทะยานไปตามความไม่แน่นอนของสงครามการค้า! เมื่อห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่าง โกลบอล ฮาร์เบอร์ ใน นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้เปิดตัว 'ตู้ ATM ทองอัจฉริยะ' ชื่อว่า 'Smart Gold Store' ที่สามารถทำให้คนที่มีทองในมือสามารถนำมาขายได้โดยใช้เวลาแค่เพียง 30 นาทีก็จ่ายเงินสดเข้ากระเป๋าได้เลย
โดยก่อนหน้านี้ Smart Gold Store ของคิงฮู้ดได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2024 และได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็วโดยได้รับรางวัลนวัตกรรมการผลิตในงาน JWA Sustainability Awards 2024 ซึ่งจัดโดย Informa Markets Jewellery มาแล้ว
'ตู้ ATM ทอง' อัจฉริยะ ที่สามารถวิเคราะห์ หลอมและชั่งน้ำหนักทองได้ใน 30 นาที
นวัตกรรมชิ้นนี้ถูกพัฒนาโดย China’s Kinghood Group ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ให้บริการใน 2 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน คือ
1. บริการรับซื้อทอง ซึ่งถือเป็นส่วนหลักของการพัฒนานวัตกรรมตู้ ATM อัจฉริยะนี้ เนื่องจากกฎของการขายทองนั้น ตู้ ATM อัจฉริยะกำหนดให้เป็นทองมีน้ำหนักมากกว่า 3 กรัมและมีความบริสุทธิ์อย่างน้อย 50% รวมถึงเครื่องประดับ เหรียญ และทองแท่ง เพราะฉะนั้นการตรวจสอบความแท้และความบริสุทธิ์ของทองอย่างเที่ยงตรงจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ตู้นี้ได้รับความนิยม
เพราะถ้าประเมินไม่แม่นยำ ก็จะขาดความน่าเชื่อถือ!
กลุ่มคิงฮู้ด บริษัทผู้พัฒนา ได้ชี้แจงว่าบริษัทได้พัฒนาระบบตรวจสอบน้ำหนักและความบริสุทธิ์ของทอง โดยใช้เซ็นเซอร์ขั้นสูงและสามารถให้ความร้อนทองถึง 1,200 องศาเซลเซียสภายในตู้นี้ได้ จากนั้นเมื่อได้ทองที่หลอมออกมาแล้วจึงวิเคราะห์และตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทอง ก่อนจะประมวลเป็นจำนวนเงินที่ขายได้ โดยทางบริษัทชี้ว่าระบบดังกล่าวมีความแม่นยำมาก เพราะคลาดเคลื่อนเพียง 0.01% ซึ่งเป็นระดับความแม่นยำที่ดีมากในการประเมินทองเพื่อซื้อขายในเชิงพาณิชย์
เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการจ่ายเงิน เครื่องสามารถอ้างอิงอัตราแบบเรียลไทม์จากตลาดทองนานาชาติได้ และสามารถชำระเงินหลายสกุลเงินในกว่า 100 ประเทศ และเครื่องนี้ยังสามารถปรับแต่งให้เข้ากับข้อกำหนดด้านกฎระเบียบของแต่ละประเทศ การวัด และภาษาที่หลากหลายทั่วโลก โดยเงินจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้ขาย ซึ่งกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
ข้อสำคัญอีกอย่างที่หลายสื่อชี้ประเด็นคือ การขายทองในตู้นี้ ทำได้โดยไม่ต้องมีเอกสารใดๆ
อย่างไรก็ตามบริษัทแจ้งว่าระบบรองรับการลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือกว่า 200 ประเทศ ซึ่งการลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือนั้นจะบอกถึงตัวบุคคลที่มาขายทองในตู้นี้ (แต่หากใช้ในประเทศที่ยังมีบัญชีม้า ซิมม้าก็คงจะต้องมีการเพิ่มระบบการซื้อ-ขายที่เข้มงวดขึ้นหรือไม่)
2. บริการขายทอง ซึ่งในตู้ก็จะมีลักษณะหน้าตาผลิตภัณฑ์ทองให้เห็นว่ามีอะไร แล้วผู้คนก็สามารถกดเลือกซื้อและชำระสินค้าได้ที่ตู้เลย
ไม่ใช่แค่ความสะดวก แต่วัตถุประสงค์คือเพิ่ม 'การรีไซเคิลทอง'
จากรายงานของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า การผลิตทองคำทั่วโลกที่ประมาณ 3,000 ตันต่อปี ต้องใช้แร่ทองรวมกันเกือบ 3 พันล้านตัน นอกจากนี้ยังมี กว่า 70 ประเทศ ที่ยังคงใช้เทคนิคการทำเหมืองทองแบบล้าสมัย ซึ่งใช้ปรอทในการแยกทอง ส่งผลให้เกิดมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและชั้นบรรยากาศ
การรีไซเคิลทองคำจากภาคเอกชน จึงเป็นทางเลือกสำคัญที่จะช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรจากเหมือง และลดมลพิษสิ่งแวดล้อม ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมทองคำอย่างยั่งยืน
การรีไซเคิลทองคำ คือ กระบวนการนำทองคำที่ใช้งานแล้วหรือไม่ได้ใช้งานกลับมาแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยไม่ต้องขุดแร่ใหม่จากเหมืองทอง ซึ่งการทำเหมืองทองนั้นใช้ทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากและสร้างมลพิษสูง เช่น ใช้น้ำจำนวนมาก ปล่อยสารพิษออกมา การรีไซเคลิทองคำจึงช่วยลดการปล่อยของเสียที่เป็นพิษ รวมไปถึงจะช่วยลดการขุดแร่ทองตามธรรมชาติลง
นอกจากนี้ ในมุมเศรษฐกิจทองที่ถูกเก็บสะสมไว้และไม่ใช้งาน ถือเป็นทองที่อยู่นอกระบบเศรษฐกิจ หากสามารถนำมาแปรรูป หรือเกิดการซื้อ-ขายใหม่ ก็จะทำให้มูลค่าของทองเข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น
สำหรับประเทศจีน ตามรายงานของสมาคมทองคำโลก (World Gold Council - WGC) และสมาคมทองคำแห่งประเทศจีน (China Gold Association) จีนเป็นประเทศที่มีการบริโภคทองมากที่สุดในโลก ต่อเนื่องมาระยะเวลามากกว่า 10 ปี โดยแซงหน้าอินเดียขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่ปี 2012 และ รักษาตำแหน่งนี้ได้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่ามีทองคำที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ในจีนถึง 17,000 ตัน และในแต่ละปีทองที่ถูกรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่มีสัดส่วนเพียง 2-3% เท่านั้น และจีนเป็น 1 ใน 2 ประเทศรองจากอินเดีย ที่มีการเก็บทองคำอยู่นอกระบบเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก โดยอินเดียมีทองคำที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ราว 20,000 ตัน!
อนาคตของ ตู้ ATM ทอง
การเปิดตัวของตู้ ATM ทอง 'Smart Gold Store' ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากทั่วโลก ด้านสำนักข่าว CNBC ของสหรัฐอเมริกา โต้แย้งว่า แนวคิดตู้ ATM ทองนั้นเคยมีคนคิดได้ตั้งแต่ปี 2012 โดยบริษัท Ex Oriente Lux จากเยอรมนีได้เปิดตัวเครื่อง 'Gold to Go' ที่ดูไบตั้งแต่ปี 2012 และต่อมาได้ขยายการติดตั้งไปยังสหรัฐอเมริกาและหลายแห่งในยุโรป ส่วนในเอเชียก็มีผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันเปิดตัวเช่นกัน โดยเป็นของบริษัทเยอรมันชื่อ 'TG Gold Super Market' เปิดตัวตู้ ATM ทองคำ 2 เครื่องในปักกิ่งเมื่อปี 2011 และ Gitanjali Group ผู้ผลิตเพชรจากอินเดียก็ติดตั้งตู้ ATM ที่ขายทั้งทองคำและเพชรในมุมไบในปีเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อหาข้อมูลจะพบว่า Gold to Go นั้นมีไว้สำหรับการซื้อทองเพียงอย่างเดียว โดยจะจำหน่าย ทองคำแท่งบริสุทธิ์ 24 กะรัต น้ำหนักตั้งแต่ 1 กรัมถึง 250 กรัม รวมถึงเหรียญทองและของที่ระลึกต่าง ๆ เช่นเดียวกับ TG Gold Super Market
เพราะฉะนั้นนวัตกรรมที่สามารถรับซื้อ วิเคราะห์ และหลอมเพื่อตรวจสอบความบริสุทธิ์ของทอง และจ่ายกลับมาเป็นเงิน ซึ่งสนับสนุน'แนวคิดการรีไซเคิลทอง' ของกลุ่มคิงฮู้ดในจีนนั้น ถือเป็นครั้งแรกของโลก
ปัจจุบัน กลุ่มคิงฮู้ดได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง Smart Gold Store ไปแล้วกว่า 40 แห่งทั่วประเทศจีน โดยพวกเขารายงานว่าแนวคิดของตู้นี้ นอกจากค่าธรรมเนียมที่ถูกหักออก (กรัมละ 18 หยวน หรือราว 81 บาท) โดยจะถูกหักจากราคาประเมินก่อนโอนเงินเข้าบัญชีผู้ใช้ภายใน 30 นาทีหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น และการนำทองเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
พวกเขายังสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น ประหยัดการใช้แก๊สเหลวได้ประมาณ 6,000 ขวด ลดการปล่อยก๊าซที่เป็นอันตรายได้ถึง 7,500 ลูกบาศก์เมตร และประหยัดกระดาษได้กว่า 1.2 ล้านแผ่น จากการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบอีกด้วย.


