posttoday

JWDผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรต่อยอดความสำเร็จเข้าหุ้นยั่งยืน

19 ตุลาคม 2561

JWD โชว์นวัตกรรม ‘DG-Total’ ระบบบริหารสินค้าอันตรายแบบครบวงจร เพิ่มความปลอดภัย ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อยอดความสำเร็จเข้าหุ้นยั่งยืน

JWD โชว์นวัตกรรม ‘DG-Total’ ระบบบริหารสินค้าอันตรายแบบครบวงจร เพิ่มความปลอดภัย ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อยอดความสำเร็จเข้าหุ้นยั่งยืน

บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD โชว์ศักยภาพผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน นวัตกรรม ‘DG-Total’ ระบบบริหารจัดการสินค้าอันตรายแบบครบวงจรมาใช้ดำเนินธุรกิจ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน หนุนบริษัทฯ ได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ในรายชื่อ ‘หุ้นยั่งยืน’ หรือ THIS ประจำปี 2561

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWDผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จผ่านเกณฑ์การคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ ‘หุ้นยั่งยืน’ หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI)ประจำปี 2561 หลังจากผ่านเกณฑ์การพิจารณาด้านการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) หรือ ESG จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้น JWD ที่มีโอกาสจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้ลงทุนที่มีแนวคิดลงทุนในหุ้นที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

JWDผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรต่อยอดความสำเร็จเข้าหุ้นยั่งยืน

หนึ่งจุดเด่นสำคัญที่ทำให้JWDได้รับการพิจารณาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ คือ มิติด้านการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ที่ JWD มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและได้รับความไว้วางใจจากการท่าเรือฯ ให้รองรับการนำเข้า – ส่งออกสินค้าประเภทนี้คิดเป็น70% ของประเทศซึ่งบริษัทฯ มองว่าธุรกิจนี้อาจส่งผลกระทบต่อสังคมและชุมชนโดยรอบมากที่สุด หากเกิดภาวะฉุกเฉิน จึงดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยระดับขั้นสูงที่ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจ ชุมชนรอบด้าน จนถึงความปลอดภัยระดับชาติอย่างเคร่งครัดภายใต้แนวคิด “ป้องกันก่อนเกิดเหตุ”ด้วยการนำระบบ “DG-Total” หรือระบบบริหารจัดการสินค้าอันตรายแบบครบวงจรเข้ามาใช้ อันเป็นการผนวก 4 องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับยกย่องเป็น “ต้นแบบการจัดการสินค้าอันตรายของประเทศ”ด้วยสร้างมาตรการรองรับความปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำได้แก่

1. DG-NET ระบบเครือข่ายข้อมูลและการสื่อสารเกี่ยวกับสินค้าอันตราย

2. YARD & WAREHOUSE MANAGEMENT SYSTEM ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการลานวางสินค้า และคลังสินค้าอันตรายตามคลาสที่ระบุ

3. DG PORT SAFETY ศูนย์ความปลอดภัยสินค้าอันตราย

4. DG OVERSIDE DELIVERY การบริหารจัดการการขนส่งสินค้าอันตายข้างลำเรือ

นำสู่การดำเนินการเชิงรุก โดยจัดตั้ง “ศูนย์ความปลอดภัยสินค้าอันตราย (Dangerous Goods Port Safety)” ที่มีทีมระงับเหตุฉุกเฉิน นักเคมีและผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าอันตรายประจำ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินภารกิจหลักประกอบด้วย

1.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลด้านความปลอดภัยสินค้าอันตราย (Safety Data Center)มีเอกสารข้อมูลสินค้าอันตราย Safety Data Sheet (SDS) >65,000ฉบับ/ปีโดยเอกสาร SDSถือเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญมากต่อการจัดการสินค้าอันตรายทั้งสภาวะปกติและฉุกเฉินโดยเปิดให้ภาครัฐและเอกชนใช้ประโยชน์SDS ได้ด้วย

2. จัดฝึกอบรมและซ้อมแผนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตั้งแต่ระดับชุมชนจนถึงระดับชาติอาทิ
- ฝึกซ้อมแผนระงับเหตุฉุกเฉินร่วมกับท่าเรือ เทศบาล หน่วยกู้ภัย มากกว่า 10 ครั้งต่อไป
- จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าอันตราย (DG Training Center) มากกว่า 30 ครั้งต่อปี
- ควบคุมอันตรายระหว่างการเก็บตัวอย่างสินค้าอันตรายมากกว่า150 ครั้งต่อปี
- ควบคุมความปลอดภัยระหว่างการขนถ่ายตู้สินค้าอันตราย ณ ท่าเทียบเรือ
- ตรวจสอบความปลอดภัยบนเรือขนส่งสินค้าอันตราย (ขาเข้า) มากกว่า4,500 ลำต่อปี

3. บริหารจัดการเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินด้วยความพร้อมทั้งบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ และมีการร่วมซ้อมแผนฉุกเฉินกับหน่วยงานรัฐทั้งระดับจังหวัด ระดับประเทศ จนถึงระดับนานาชาติที่ร่วมกับ Washington Starter จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหน้าที่ด้านดูแลเรื่องสินค้าอันตรายและอุบัติภัยของโลกโดยเฉพาะทั้งยังทำหน้าที่ตรวจสอบการขนส่งอาวุธประจำการฝึกซ้อมร่วม“คอบร้าโกลด์” ซึ่งปี 2560ทีมฉุกเฉินของJWD สามารถระงับเหตุฉุกเฉินจากสินค้าอันตรายไปมากกว่า 40 ครั้ง

“การนำระบบ DG-Total มาใช้สามารถเพิ่มความปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ได้ทันที ทั้งในขณะเกิดเหตุบนเรือขนส่ง ระหว่างที่เรือเข้าเทียบท่า หรือระหว่างการขนส่งสินค้าอันตราย ขณะเดียวกันยังช่วยในการจัดเก็บฐานข้อมูลสินค้าอันตรายอย่างเป็นระบบทดแทนการจัดเก็บด้วยเอกสารที่มีความยุ่งยากซับซ้อน สามารถค้นหาข้อมูลได้เรียลไทม์เพื่อจัดการเหตุได้ทันท่วงที ช่วยลดอัตราการสูญเสีย นอกจากนี้เรายังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางให้ความรู้และฝึกอบรมสัมมนาเกี่ยวกับสินค้าอันตรายอีกด้วย” นายชวนินทร์ กล่าว

นอกจากนี้ตลอดเวลาที่ผ่านมา JWD ยังดำเนินการสนับสนุนเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง อาทิ จ้างงานคนในพื้นที่ จ้างคนพิการ บริจาค สนับสนุนรูปแบบต่างๆนี่จึงเป็นที่มาสู่การประกาศจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เข้าอยู่ในกลุ่มหุ้นยั่งยืน ซึ่งในประเทศไทยมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพียง11% เท่านั้นที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มดังกล่าว