posttoday

วีเอสที อีซีเอส เผยผลประกอบการปี 2023 พร้อมลุยเปิด Sale Office 11 จังหวัด

29 มีนาคม 2567

วีเอสที อีซีเอส เผยผลประกอบการปี 2023 รายได้รวมเฉียด 4 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยเปิด Sale Office 11 จังหวัด มุ่งรุกคืบเข้าตลาดหัวเมืองทั่วไทย

          บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอทีชั้นนำระดับโลกกว่า 70 แบรนด์ และเป็นบริษัทในเครือของวีเอสที อีซีเอส กรุ๊ป ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เผยผลประกอบการปี 2023 ฟันรายได้กว่า 38,000 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าลุยธุรกิจในทุกมิติ ทั้ง Device & Lifestyle, Consumer, Commercial และ Solutions มุ่งเพิ่มแบรนด์ผลิตภัณฑ์ พร้อมขยายสาขา Sale Office รุกตลาดต่างจังหวัดหัวเมืองทั่วไทย หวังสร้างบริการที่ตอบโจทย์ตลาดกลุ่ม B2B และ B2C ตั้งเป้าภายในปี 2024 นี้ยอดขายโตดับเบิ้ลดิจิต

วีเอสที อีซีเอส เผยผลประกอบการปี 2023 พร้อมลุยเปิด Sale Office 11 จังหวัด

          นายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า “ในปีที่ผ่านมาแม้ว่ายอดขายจากฝั่งคอนซูเมอร์ของเราจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดไว้ แต่เรายังมีสินค้าจากฝั่งคอมเมอร์เชียลและเอนเตอร์ไพรส์ที่เป็นธุรกิจฐานใหญ่ของเราที่เข้าไปกินแชร์ในตลาดและมีการเติบโตที่ชัดเจน คิดเป็นสัดส่วน 55% ของบริษัท และเรายังมีหน่วยธุรกิจดีไวซ์แอนด์ไลฟ์สไตล์ ซึ่งในส่วนนี้ คือ สมาร์ทโฟน, แก็ดเจ็ต, Smart Pet และมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV ซึ่งธุรกิจนี้มีการเติบโตขึ้นถึงสองดิจิต ส่งผลให้ยอดขายในปี 2023 ที่ผ่านมาของบริษัทฯ มีมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อน 10% และในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องเติบโตแบบก้าวกระโดด หรือประมาณ 10% เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังมีกลยุทธ์ในการสรรหาและนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์เหมาะสมกับทุกธุรกิจตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่”

          สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่กำลังเติบโตและเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในขณะนี้ คือ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ปัจจุบันบริษัทฯ มุ่งทำตลาดแบบ B2B โดยเริ่มนำร่องโปรเจคต์แรกกับทาง Grab นำส่งล็อตแรกจำนวน 3,000 คัน ให้แก่พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ ในโครงการเช่าขับ Grab EV ซึ่งได้รับการตอบรับจากเหล่าไรเดอร์เป็นอย่างดี ส่งผลให้ผู้บริโภคทั่วไปเริ่มมองเห็นว่ามีการใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นและมีศูนย์บริการ swab battery ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นความต้องการของตลาดอีกทางหนึ่ง โดยแผนการตลาดต่อไปเราจะเริ่มทำกับกลุ่ม B2C ในครึ่งปีหลังนี้ และเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ยังได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม, บริษัท สตรอม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สตรอม (STROM) และสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทยในการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ "โครงการ GreenWin (วินเขียว กทม.) เพื่อให้ผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์ หันมาใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยบริษัทฯ อำนวยความสะดวกในเรื่องการส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของแบรนด์ Strom ซึ่งปัจจุบันสามารถผลิตได้ 1,500 คันต่อเดือน พร้อมด้วยคุณสมบัติเด่น วิ่งได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร และมีระบบ fast charge พร้อมทั้งได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์เปลี่ยนแบตเตอรี่และการมอนิเตอร์ติดตามรถเพื่อช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน”

          ด้านนายธเนศ พันธ์สุขุมธนา รองประธานบริหาร กล่าวเสริมว่า “ในส่วนของกลุ่มธุรกิจ Commercial ปี 2023 ที่ผ่านมา เติบโตค่อนข้างดีประมาณ 10% สำหรับปี 2024 นี้คาดว่าจะโตประมาณ 20%  โดยมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ค, เซิร์ฟเวอร์และสตอเรจ การที่จะสร้างการเติบโตได้จะต้องอาศัยการทำการตลาดแนว Horizontal (Vertical Product) เพื่อให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งทางบริษัทฯ ได้สร้างทีมงานเฉพาะสำหรับรับผิดชอบส่วนนี้แล้ว และในส่วนของช่องทางการจำหน่ายจากลูกค้ารายใหญ่ลงสู่รายย่อย บริษัทได้เตรียมเน้นพัฒนาคนด้านการวางระบบเพื่อช่วยเพิ่มมาร์จิ้นให้กับบริษัทในอีกทางหนึ่ง”

          นายบุญชัย อัศวชัยสุวิกรม ประธานฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า “ธุรกิจในกลุ่ม Enterprise เราจะมี Project ใหญ่ที่ทำร่วมกับภาครัฐและเอกชน สำหรับปีนี้คาดว่าถ้างบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ของทางรัฐบาลได้ผ่านการพิจารณา ในช่วงหลังสงกรานต์จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยบริษัทฯ ได้ขยายผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการเติบโต โดยได้เพิ่มแบรนด์สินค้าด้าน Cybersecurity อย่าง Sangfor จากเดิมที่ถือแบรนด์หลักอยู่ 4 ตัวคือ F5, Fortinet, Bitdefender และ Kaspersky เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ คือ Power Management ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือก เช่น โซล่ารูฟ, อินเวอร์เตอร์ เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า แบรนด์ Fusionsolar, Trinasolar, TSUN, Longi และผลิตภัณฑ์อีกกลุ่มคือกลุ่ม CCTV เพื่อรองรับตลาดด้านการรักษาความปลอดภัยในกลุ่มโฮมยูสและภาครัฐบาล”

วีเอสที อีซีเอส เผยผลประกอบการปี 2023 พร้อมลุยเปิด Sale Office 11 จังหวัด

          นางสาวคุณากร อินทร์แก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด ผลิตภัณฑ์กลุ่มคอนซูเมอร์ กล่าวว่า “ธุรกิจกลุ่ม Consumer ปีนี้ตั้งเป้าที่จะโตสองดิจิต โดยมีการเพิ่มแบรนด์สินค้าเข้ามา อย่างโน้ตบุ๊คเดิมเรามี 5 แบรนด์หลัก ตอนนี้บริษัทฯ ได้เพิ่มแบรนด์ใหม่เข้ามา คือ msi เป็นตัวเกมมิ่งที่คาดว่าจะเติบโตได้เป็นอย่างดี อีกส่วนหนึ่งคือกระแสของ AI ที่จะเข้ามาในครึ่งปีหลังนี้ จะมีสินค้าเป็น AI CPU และสินค้าอื่น ๆ เข้ามาเสริมทัพ และจากการที่ในปีนี้บริษัทฯ ได้มีการขยายสาขาในรูปของ Sale Office ออกสู่ต่างจังหวัดทั่วไทยใน 11 จังหวัด ซึ่งเป็นการขยายในเชิงแนวกว้าง และเป็น Sub Warehouse กลุ่ม fast moving สามารถจัดจำหน่ายและส่งตรงให้กับลูกค้ารายย่อยในแต่ละจังหวัดได้ภายใน 3 ชั่วโมง เชื่อว่าจะช่วยเสริมธุรกิจกลุ่ม Consumer ในต่างจังหวัดได้มากขึ้น และเป็นการช่วยซัพพอร์ตให้สินค้าใน”

          นายธนเสฏฐ์ โมระศิลปิน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดผลิตภัณฑ์ดีไวซ์และไลฟ์สไตล์ กล่าวว่า “จุดแข็งของความสำเร็จกลุ่มธุรกิจดีไวซ์แอนด์ไลฟ์สไตล์ของเรา คือ  การสร้าง Coverage ให้มากขึ้น, ความเร็วในการดำเนินธุรกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด และสุดท้ายผลิตภัณฑ์ต้องมีความหลากหลาย ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนของเรามีการเติบโตที่โดดเด่นเพราะทางเวนเดอร์ช่วยซัพพอร์ตการทำราคาที่เหมาะสมให้กับตลาดเมืองไทยด้วย ปัจจุบันบริษัทถือครองสมาร์ทโฟนอยู่ทั้งหมด 7 แบรนด์ ซึ่งเราถือเป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์ครบและหลากหลายตรงตามความต้องการ ตั้งแต่ระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ไปจนถึงอัลตร้าโลว์คอส อาทิ Vertu, Samsung รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแมส อย่าง itel, Infinix, ZTE, Wiko เป็นต้น

วีเอสที อีซีเอส เผยผลประกอบการปี 2023 พร้อมลุยเปิด Sale Office 11 จังหวัด

          สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์ให้น้ำ ให้อาหาร และเอนเตอร์เทน มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในช่วงซีซันนอล อาทิ ช่วงซัมเมอร์หรือช่วงปิดเทอม ตลาดดังกล่าวจะได้รับความนิยมมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นส่วนมาก และคาดว่าตลาดดังกล่าวนี้จะได้รับความนิยมเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีก เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ห้องน้ำแมวพร้อมตัวดับกลิ่น และล่าสุดห้องน้ำแมวที่มีตัวดับกลิ่นยังมาพร้อมกับกล้องวงจรปิด AI อัจฉริยะอีกด้วย

          ในภาพรวมผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Device & Lifestyle มีการปรับตัวในทิศทางที่ดี คาดว่าในปี 2024 นี้จะมีการเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยการเติบโตของดีไวซ์ในกลุ่มสมาร์ทโฟนที่ 100% คาดว่าจะสร้างการเติบโตให้กับกลุ่ม Smart Pet ได้ถึง 4% ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์ 1+n ที่สมาร์ทโฟน 1 เครื่องสามารถตอบโจทย์การเชื่อมโยงเข้ากับอุปกรณ์อื่น ๆ ในไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างหลากหลายนั่นเอง”

วีเอสที อีซีเอส เผยผลประกอบการปี 2023 พร้อมลุยเปิด Sale Office 11 จังหวัด

###

เกี่ยวกับ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย)

          บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (เดิมชื่อบริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 ปัจจุบันเป็นบริษัทหนึ่งในเครือของวีเอสที อีซีเอสกรุ๊ป ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ฮ่องกง และเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 48,000 รายกระจายอยู่ในประเทศจีน, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, เมียนมาร์ และลาว
วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าด้านไอทีผ่านทางธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก คือ คอนซูเมอร์, คอมเมอร์เชียล, โซลูชัน และดีไวซ์แอนด์ไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 70 แบรนด์ มีสำนักงานสาขาที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อเดือนเมษายน 2557 ในชื่อบริษัท วีเอสที อีซีเอส (เมียนมาร์) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจด้านเอนเตอร์ไพรส์ซิสเตมส์โดยเฉพาะ

สื่อมวลชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด
ศศิธร ดิษฐเจริญ โทร 084 072 5118
พิมศิริ ชลประเสริฐสุข โทร 081 637 7434
Email: [email protected]