“ภาณุมาศ” ฉีกกรอบพวงมาลัยแบบดั้งเดิม ออกแบบ-ผลิตสินค้าตามออร์เดอร์ วาระพิเศษตามเทศกาล ตั้งเป้าขยายไลน์ธุรกิจ “ดอกไม้” ครบวงจรในอนาคต
การประดิษฐ์มาลัยและดอกไม้ต่างๆ ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สูงค่าที่นับวันยิ่งหาผู้สืบทอดได้ยาก แต่หากเอ่ยชื่อ “พวงมาลัย ภาณุมาศ” หลายคนรู้จักกันดีในเรื่องมาลัยที่วิจิตรงดงาม
ใครเห็นเป็นต้องประทับใจ เหมาะสำหรับนำไปมอบให้กับบุคคลที่รักและเคารพนับถือ ในวาระพิเศษหรือเทศกาลต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันแม่ที่กำลังจะมาถึงในเดือนสิงหาคมนี้
คุณณิชชฎา ทัศนัย หรือคุณเอ้ ทายาทรุ่น 2 ที่เข้ามาดูแลกิจการแทนคุณแม่ เล่าว่า ย้อนกลับไปกว่า 20 ปีก่อน ร้านภาณุมาศ ซึ่งเกิดมาพร้อมๆ กับ “ตลาดดอกไม้” ของตลาดสี่มุมเมือง ยังเป็นเพียงร้านที่ขายวัตถุดิบสำหรับทำพวงมาลัย เนื่องจากตนกับคุณแม่เป็นชาวสวนมะลิจากนครสวรรค์ ปัจจุบัน ภาณุมาศ คือ ร้านจำหน่ายมาลัยคล้องมือ หรือมาลัยข้อพระกรอันเลื่องชื่อ ด้วยเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร กลายเป็นสัญลักษณ์ของ ภาณุมาศ ขึ้นแท่นเป็นต้นแบบและเป็นผู้นำเทรนด์พวงมาลัยรูปแบบนี้ให้กับร้านอื่นๆ
“คุณแม่เริ่มจากขายส่งวัตถุดิบดอกไม้ พอวัตถุดิบเหลือก็เอามาทำพวงมาลัย ฝึกจากการร้อยมาลัยพวงเล็กๆ สำหรับไหว้พระ ดูจากคนอื่น หัดทำฝึกฝีมือมาเรื่อยๆ จนสามารถทำเป็นพวงมาลัย ขายได้ในที่สุด”
สำหรับคุณเอ้ ได้เข้ามาช่วยคุณแม่ตั้งแต่เรียน จนได้เข้ามาช่วยบริหารงานที่ร้านอย่างเต็มตัวหลังเรียนจบเมื่อปี 2548 ซึ่งเธอเล่าว่า ขณะนั้นโซเชียลมีเดียต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาท เริ่มจากไฮไฟว์ มาเป็นเฟซบุ๊ก ซึ่งในช่วงแรก เพียงโพสต์กิจวัตรประจำวันต่างๆ ที่ทำที่ร้านเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเปิดขายออนไลน์ แต่พอเพื่อนๆ และคนมาเห็นภาพพวงมาลัยที่โพสต์ ก็เริ่มถาม เริ่มมีการสั่งออร์เดอร์เข้ามา
จุดนั้นเองกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการขายออนไลน์ของภาณุมาศ ที่ไม่จำกัดอยู่เพียงแค่หน้าร้าน แต่ขยายตัวออกไปในวงกว้าง ไปจนถึงลูกค้าในต่างจังหวัด
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของภาณุมาศ จริงๆ เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ เธอเล่าว่า จากเดิมที่ร้านยังคงขายวัตถุดิบและพวงมาลัยควบคู่กันมาโดยตลอด จนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ตอนนั้นชาวสวนส่งดอกไม้ตรงถึงลูกค้าโดยไม่ต้องผ่านที่ร้าน ทำให้ลูกค้าจึงไม่จำเป็นต้องมาซื้อวัตถุดิบที่ร้านของเรา ส่งผลให้ร้านต้องปรับตัว หันมาแปรรูปทำพวงมาลัย และเลิกขายวัตถุดิบในที่สุด
ความเปลี่ยนแปลงนั้นเองกลายเป็นโอกาสที่เข้ามา ทำให้เธอกับคุณแม่หันมาโฟกัสการทำพวงมาลัยอย่างจริงจัง เมื่อหันมาจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อพวงมาลัย จากรายได้หลักหมื่น พุ่งทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 100,000-200,000 บาทต่อเดือน โดยคิดค้น ประดิษฐ์พวงมาลัยในรูปแบบต่างๆ ออกมาตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งไม่จำกัดเพียงแบบสำเร็จรูปตามท้องตลาด โดยเริ่มเสาะหา “ช่าง” เฉพาะทางในด้านต่างๆ คัดฝีมือที่สุดยอดในทุกด้าน เพื่อนำมาทำพวงมาลัยที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ตรงนี้ถือว่าเราได้ช่วยกระจายรายได้ให้กับช่างด้วยอีกทาง
ทุกวันนี้ “พวงมาลัย ภาณุมาศ” เป็นมากกว่าร้านจำหน่ายพวงมาลัยสำหรับไหว้พระ เรามีจุดขายที่ความประณีตและความสร้างสรรค์ เราเอาใจใส่ต่อความต้องการของลูกค้าทุกคน มาลัยเปรียบเสมือนตัวแทนของผู้ให้ส่งต่อความรู้สึกไปยังผู้รับ ผลงานทุกชิ้นเราจึงตั้งใจทำออกมาดีที่สุด จุดนี้ทำให้ ภาณุมาศ เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการบอกต่อ ปากต่อปาก และโด่งดังไปทั่วประเทศจนถึงทุกวันนี้
“เราครีเอทสิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา มีทีมออกแบบ ทีมช่างเฉพาะทาง พวงมาลัยของเรามีหลากหลาย ตั้งแต่ 5-10 บาท ไปจนถึงหลัก 1,000 บาทขึ้นไป มีทั้งที่ออกแบบขึ้นมาเอง และออกแบบตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเราสามารถทำได้ทุกรูปแบบ และแบบล่าสุดของทางร้านที่ออกแบบเองคือมาลัยพญานาคขนาดคล้องมือที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก”
ทั้งหมดถือเป็นเคล็ดลับความสำเร็จซึ่งยากจะเลียนแบบ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการตั้งราคาที่สมเหตุสมผล เป็นสิ่งที่คุณเอ้และคุณแม่ยึดถือมาโดยตลอด
“พวงมาลัยที่ขายดีที่สุดคือมาลัยคล้องมือ ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาย่อมเยาหากเทียบกับร้านอื่นที่ขายพวงมาลัยในรูปแบบเดียวกัน เรายึดคติไม่เอากำไรเยอะ อยากให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ”
ลูกค้าประจำของมาลัย ภาณุมาศ หลายท่านเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ อาทิ คุณแม่ของพระเอกชื่อดังของไทย, เจ้าของธุรกิจระดับประเทศอย่างเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับซอสปรุงรส, เจ้าของธุรกิจรีเทลปลอดภาษียักษ์ใหญ่ของไทย เป็นต้น
ทุกวันนี้ ภาณุมาศ เติบโตอย่างมั่นคง มีลูกค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์กว่า 50,000 คน โดยคุณเอ้ เล่าว่า ช่วงเวลาขายดีที่สุดของปีคือช่วงวันแม่ซึ่งสามารถทำรายได้สูงสุดถึง 2 ล้านบาทภายในวันเดียว
อนาคตของธุรกิจพวงมาลัย ภาณุมาศ นอกจากพัฒนาพวงมาลัยในรูปแบบใหม่ๆ เรายังคิดที่จะต่อยอดทำมาลัยแห้งที่สามารถเก็บไว้ได้นาน มาลัยประดับ พานพุ่ม พุ่มเทียน เทียนแพ บายศรี ไปจนถึงช่อดอกไม้ และพวงหรีด ฯลฯ
“ทุกอย่างที่เกี่ยวกับดอกไม้ เราตั้งใจว่าจะทำให้ได้ทั้งหมด ตั้งเป้าหมายเป็น One Stop Service รวมถึงเป็นผู้ให้คำปรึกษา และเป็นออร์แกไนเซอร์เรื่องดอกไม้ที่ครบวงจรทุกด้าน”
สำหรับคุณแม่ ผู้ก่อตั้งร้านพวงมาลัยภาณุมาศ ผู้ถ่ายทอดงาน และประสบการณ์ต่างๆ ให้แก่ลูกสาว เธอเล่าว่า คุณเอ้เข้ามาช่วยงานตั้งแต่เด็ก ร้อยมาลัยพวงแรกตั้งแต่ตอนอยู่ ป.6 สั่งสมประสบการณ์ต่างๆ มาจนสามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโตจนถึงทุกวันนี้ อีกปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญอย่างยิ่งคือตลาดสี่มุมเมืองที่คอยช่วยเหลือทางร้านมาตลอดตั้งแต่จุดเริ่มต้น
“วันนี้ร้านพวงมาลัย ภาณุมาศ มีที่เดียวคือที่ตลาดสี่มุมเมือง ไม่มีสาขา มีตลาดหลายที่อยากให้เราไปเปิดร้าน ถึงขนาดไม่คิดค่าเช่า แต่เราไม่คิดย้ายไปไหน เราอยู่ได้เพราะตลาดสี่มุมเมือง มีกินมีใช้ เติบโตจากที่นี่ มีความรัก ความผูกพันกับตลาดสี่มุมเมือง จนถึงรุ่นลูกและรุ่นหลาน ทุกคนดูแลเราอย่างดี เปรียบเสมือนครอบครัว ที่ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด”
คุณแม่และคุณเอ้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จ จากการถ่ายทอดประสบการณ์ เรียนรู้จากรุ่นสู่รุ่น ปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจให้ทันตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจ เพื่อก้าวไปสู่การเติบโตในอนาคตที่ไม่หยุดยั้ง


