ฮ่องกงยกระดับมาตรการ ตั้งเป้าลดใช้พลาสติกมากกว่า 40%
กฎหมายของฮ่องกงกำหนดให้ร้านค้าปลีกห้าม “แจกถุงพลาสติกฟรี” หากลูกค้าต้องการจะต้องเก็บเงินค่าถุงพลาสติก ด้วยมาตรการเก็บเงินค่าถุง ช่วยให้ฮ่องกงลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้อย่างมหาศาล จาก 660 ล้านใบ เหลือ 150 ล้านใบต่อปีในปี 2010
ถุงพลาสติกนับเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคในการจับจ่ายซื้อของต่างๆ แต่หากใช้อย่างฟุ่มเฟือย จะนำมาซึ่งวิกฤตขยะพลาสติก แม้ประเทศไทยมี Roadmap และแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติกมาตั้งแต่ปี 2561 แต่ดูเหมือนมาตรการส่วนใหญ่ยังคงเน้นมาตรการภาคสมัครใจ แม้ห้างร้านต่างๆ พร้อมใจกันออกมาตรการงดแจกถุงพลาสติกเมื่อช่วงต้นปี 2563 จากเหตุการณ์จากไปของพะยูนน้อย “มาเรียม” แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 เอกชนและประชาชนต่างหันกลับมาใช้พลาสติกกันอย่างเต็มที่โดยให้เหตุผลว่าช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส แถมยังมีความเคยชินใหม่ (new normal) กับการสั่งอาหารออนไลน์ที่ยิ่งซ้ำเติมปัญหาขยะพลาสติกในประเทศ
ในขณะที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้ถุงพลาสติก (ยกเว้นพื้นที่อุทยานฯ ออกกฎห้ามนำถุงพลาสติกเข้าพื้นที่อุทยานซึ่งแทบไม่ได้ผล) และมาตรการเชิงสมัครใจไม่เป็นผล ห้างร้าน ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ กลับมาแจกถุงพลาสติกกันอย่างเป็นปกติ รัฐบาลฮ่องกงกลับสวนทาง ยกระดับความเข้มข้นของมาตรการลดการใช้ถุงพลาสติก โดยได้ออกกฎหมายควบคุมการใช้ถุงพลาสติก (Product Eco-responsibility Ordinance) มาตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) หรือ 13 ปีที่แล้ว
กฎหมายของฮ่องกงกำหนดให้ร้านค้าปลีกห้าม “แจกถุงพลาสติกฟรี” หากลูกค้าต้องการ จะต้องเก็บเงินค่าถุงพลาสติก ในช่วงแรก กฎหมายเน้นไปที่ร้านค้าปลีกรายใหญ่กว่า 3,000 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยาและเครื่องสำอาง ด้วยมาตรการเก็บเงินค่าถุง ช่วยให้ฮ่องกงลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้อย่างมหาศาล จาก 660 ล้านใบเหลือ 150 ล้านใบต่อปีในปี 2010 ต่อมา ในปี 2013 รัฐบาลฮ่องกงได้ปรับแก้กฎหมายให้ครอบคลุมร้านค้ามากขึ้นโดยกฎหมาย Product Eco-responsibility (Amendment) Ordinance 2014 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2015 กำหนดให้ร้านค้าปลีกทั้งหมดงดแจกถุงพลาสติกฟรีโดยร้านค้าจะต้องเก็บเงินค่าถุงพลาสติกอย่างน้อย 50 เซ็นต์หากลูกค้าต้องการถุง แต่ยังมีข้อยกเว้นให้กับการใช้ถุงพลาสติกด้วยเหตุผลด้านสุขอนามัยอาหาร
ต่อมาในปี 2021 รัฐบาลได้ปรึกษากับสภาการพัฒนาที่ยั่งยืน (Council for Sustainable Development: SDC) ที่มีตัวแทนของภาคประชาชนและองค์กรต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (single-use plastics) ทางสภาฯ ได้ระดมความคิดเห็นจากองค์กรและประชาชนชาวฮ่องกงหลายพันคน จนได้มาเป็นข้อเสนอ 24 ข้อและมี 12 ข้อที่เป็นการยกระดับมาตรการควบคุมการใช้ถุงพลาสติกและบรรจุภัณฑ์พลาสติก รัฐบาลจึงได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายนำมาสู่มาตรการเก็บเงินค่าถุงพลาสติก ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2022 ด้วยความหวังที่จะลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกลงให้ได้ไม่น้อยกว่า 40%
มาตรการเก็บเงินค่าถุงพลาสติก ฉบับเดือนธันวาคม 2022 ได้ยกระดับความเข้มข้นดังนี้
• ปรับอัตราค่าถุงพลาสติกจาก 50 เซ็นต์ เป็น 1 ดอลลาร์ฮ่องกง(ประมาณ 4.2 บาท)
• ยกเลิกข้อยกเว้นเดิมที่จะให้ถุงพลาสติกฟรีกรณีใส่ของจำพวกของแช่เย็นหรือของแช่แข็ง
• ให้ถุงพลาสติกฟรีได้เฉพาะกรณีใส่อาหารที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์หรือภาชนะปิดสนิท ภายใต้หลักการ “ให้ฟรีได้แค่ 1 ถุงต่อการซื้อ 1 ครั้ง”
ทั้งนี้ กฎหมายกำหนดให้ร้านค้าเป็นผู้จัดเก็บเงินค่าถุงพลาสติกแทนการนำส่งเงินให้รัฐ เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามตรวจสอบการนำส่งเงินค่าถุงจากร้านค้าที่ต้องทำตามกฎหมายมากกว่า 1 แสนร้าน ได้ แต่รัฐบาลได้เรียกร้องให้ร้านค้าต่างๆ นำเงินค่าถุงที่จัดเก็บได้ไปใช้สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลฮ่องกงให้เวลาผ่อนผัน (grace period) เพื่อให้ร้านค้าปรับตัวต่อกฎหมายใหม่นี้เป็นเวลา 1 เดือน โดยเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมจะทำการสุ่มตรวจร้านค้าในตลาดสดและทำการตักเตือนหากพบการกระทำผิด
ตามกฎหมายใหม่ หากร้านค้ามีการละเมิด (แจกถุงพลาสติกฟรีให้กับลูกค้าโดยที่ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้น) จะต้องเสียค่าปรับ 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 8,400 บาท) แต่หากกระทำผิดซ้ำซาก อาจจะต้องเสียค่าปรับสูงถึง 200,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (840,000 บาท) ได้
นับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การแก้ปัญหาขยะพลาสติกไม่สามารถแก้ได้เพียงการรณรงค์ขอความร่วมมือ หากต้องมีการใช้มาตรการทางเศรษฐศาสตร์ที่มีกฎหมายรองรับเพื่อให้ประชาชนปรับพฤติกรรมในการพกถุงผ้าหรือถุงใช้ซ้ำได้ไปซื้อของมากขึ้น
ผู้เขียน: ดร. สุจิตรา วาสนาดํารงดี
สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หมายเหตุ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการศึกษาเพื่อจัดทำนโยบายสาธารณะปฏิรูประบบการจัดการขยะและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน (ระยะที่ 2) ภายใต้แผนงานสนับสนุนการปฏิรูประบบการจัดการขยะมูลฝอยและ ของเสียอันตรายซึ่งได้รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ที่มาของข้อมูล:
• https://www.epd.gov.hk/epd/english/environmentinhk/waste/pro_responsibility/env_levy.html
• https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3204165/hongkongers-pay-hk1-each-plastic-bag-supermarkets-next-week-first-increase-13-years
• https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3186739/lawmaker-urges-authorities-further-raise-hong