พลังดูด-แบ่งแยกชิงฐานเสื้อแดง ชนวนสนาม 'ปากน้ำ'แรง
การลอบยิงนายประชา ประสพดี อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่ามีสาเหตุมาจากการเมืองท้องถิ่น
การลอบยิงนายประชา ประสพดี อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่ามีสาเหตุมาจากการเมืองท้องถิ่น
โดย...ทีมข่าวภูมิภาค
การลอบยิงนายประชา ประสพดี อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเจ้าตัวมั่นใจว่ามีสาเหตุมาจากการเมืองท้องถิ่น และเชื่อมั่นว่าการเมืองในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ หรือเมืองปากน้ำ จะรุนแรงมากขึ้น โดยเรียกร้องให้ตำรวจวางมาตรการคุ้มกันผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทำให้พื้นที่แห่งนี้ถูกเพ่งมองอย่างสนใจขึ้นมาทันที
ในอดีตสนามเลือกตั้งเมืองปากน้ำเป็นข่าวฮือฮากรณีทุจริตเลือกตั้งชนิดยกหีบบัตรลงคะแนน การแข่งขันระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่ล้วนมากด้วยอิทธิพลและบารมี ทำให้สมุทรปราการถูกจับตามองในฐานะสมรภูมิเดือดมาโดยตลอด
ไม่เพียงการเมืองระดับชาติที่กำลังจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ช่วงเวลาร่วม 1 เดือนมาแล้วที่คนปากน้ำเพ่งมองการเมืองท้องถิ่น การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้ แต่สภาพการแข่งขันการเมืองระดับท้องถิ่นเมืองปากน้ำก็ยังไม่ชัดเจนว่านายประชาจะเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง
ผู้รับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ มีอยู่ด้วยกัน 5 คน ประกอบด้วย หมายเลข 1 นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หมายเลข 2 นายอำนวย รัศมิทัต อดีตนายก อบจ. หมายเลข 3 นายธนภณ คารมปราชญ์ หมายเลข 4 น.ส.ภัทรวดี อภิเด่นนภาลัย และหมายเลข 5 นายธนภัท ธัญธนภัต
คู่แข่งขันชิงชัยที่แท้จริงในสนามการเมืองท้องถิ่นปากน้ำ มีเพียง 2 คน คือ นายชนม์สวัสดิ์ และนายอำนวย แชมป์เก่า โดยมี น.ส.ภัทรวดี ซึ่งเป็นอดีต สจ. และน้องสาวนายประเสริฐ อภิเด่นนภาลัย อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นตัวสอดแทรก ขณะที่นายประชาแม้จะให้การสนับสนุนผู้สมัครอีกคนหนึ่ง แต่ก็ยังถือว่าฐานเสียงสนับสนุนยังห่างไกลที่จะคว้าชัยเก้าอี้นายก อบจ.ปากน้ำมาได้
อย่างไรก็ตาม การที่อดีต สส.พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนผู้สมัครต่างกัน ทำให้ฐานเสียง โดยเฉพาะจากมวลชนเสื้อแดงไม่เป็นปึกแผ่น มิหนำซ้ำนายอำนวยยังใช้สายสัมพันธ์และบารมีในฐานะอดีตนายก อบจ. แย่งชิงฐานเสียงสนับสนุนอีกส่วนหนึ่งมาได้
ดังนั้น ประเด็นการเมืองท้องถิ่นจากปัญหาฐานเสียงที่กระจายออกไป อีกทั้งผู้ที่นายประชาสนับสนุนยังมิใช่ตัวเก็งที่น่าจะมีลุ้น จึงน่าจะทำให้ปัญหาการเมืองท้องถิ่นในประเด็นที่เกี่ยวโยงกับการเลือกตั้งทั้งสองระดับ เป็นปมสังหารโดยตรง
แต่อาจพิจารณาได้อีกทางหนึ่งว่า ปัญหาการเมืองท้องถิ่นที่นายประชาพยายามลากโยงไปนั้น อาจมาจากความขัดแย้งส่วนตัวของนายประชากับนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งมีปัญหากันมานาน แม้กระทั่งวันเกิดเหตุ ขณะร่วมในงานศพ นายประชาและนักการเมืองท้องถิ่นคู่กรณีรายนี้ก็มีการมองหน้ากันภายในงาน แต่ความชัดเจนในประเด็นนี้คงต้องรอการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่เกิดเหตุ จนทราบพาหนะของคนร้าย น่าจะทำให้การติดตามจับกุมกลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
ขณะที่การเมืองใหญ่ระดับชาติ แม้นายประชาจะยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหาสาเหตุขัดแย้ง แต่สนามเลือกตั้งเมืองปากน้ำในครั้งนี้ก็มีประเด็นที่ต้องจับตามองไม่น้อย จากพรรคเพื่อไทยที่สูญเสียอดีต สส. 2 คน คือ นายนที สุทินเผือก หรือกรุง ศรีวิไล และนายจิรพันธ์ ลิ้มสกุลศิริรัตน์ หรือทนายเส่ง ไปให้กับพรรคภูมิใจไทย
อุณหภูมิการแข่งขันระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยระอุขึ้นมาก่อนหน้านี้ นับแต่ระฆังการเลือกตั้งนายก อบจ.ปากน้ำดังขึ้น น.ส.เรวดี รัศมิทัต อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคราษฎร ซึ่งเข้าสังกัดเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย บุตรสาวนายอำนวย ก็เข้าแจ้งความว่ามีผู้นำใบปลิวที่มีภาพถ่ายของเธอและนายอำนวยตัดต่อเข้ากับสัญลักษณ์พรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจทำให้ฐานเสียงจากมวลชนเสื้อแดงที่สนับสนุนเข้าใจผิดว่านายอำนวยเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย
การเลือกตั้ง สส.ปากน้ำครั้งนี้ แม้ น.ส.เรวดี จะยังไม่ประกาศตัวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ แต่หากพิจารณาคุณสมบัติส่วนตัวของทั้ง กรุง ศรีวิไล และทนายเส่งแล้ว เชื่อมั่นได้ว่า แม้จะถูกบอยคอตจากฐานเสียงเสื้อแดงบางส่วน แต่ทั้งคู่ก็น่าจะผ่านด่านเข้าสู่สภาได้ด้วยตัวเอง ยิ่งหากว่า น.ส.เรวดี ตัดสินใจสู้ศึกเลือกตั้งในนามพรรคภูมิใจไทยด้วยแล้ว ก็หมายความว่าทั้งทุนและฐานคะแนนก็น่าจะทำให้พรรคสีน้ำเงินเก็บคะแนนได้อย่างน้อยแล้ว 3 เก้าอี้ จากจำนวน สส.ปากน้ำทั้งหมด 7 คน
ด้านตระกูล “อัศวเหม” ก็ชัดเจนแล้วว่า นายอัครวัฒน์ อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ และนายพูนผล อัศวเหม อดีต สส.พรรคเพื่อแผ่นดิน จะย้ายเข้าสังกัดพรรคมาตุภูมิ ส่วนพรรคเพื่อไทยน่าจะยังมีหวังอยู่กับ สส.เดิม อาทิ นางอรุณลักษณ์ กิจเลิศไพโรจน์ ภรรยานายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต รมช.พาณิชย์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และเจ้าของห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล นพ.วัลลภ ยังตรง และนายประชา ประสพดี แต่ฐานเสียงและอดีต สส.ที่ถูกดึงตัวไป น่าจะทำให้การต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยในสนามเมืองปากน้ำหนักหนากว่าที่แล้วมา
ทั้งนี้ ก็ยังต้องจับตาว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถเบียดแทรกเข้ามาได้หรือไม่ เพราะครั้งก่อนคะแนนสนับสนุนของนายจรูญ ยังประภากร เจ้าของฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ และ น.ส.สรชา วีรชาติวัฒนา ก็ไม่น้อยเช่นกัน ภายใต้สภาพการณ์ที่เจ้าของพื้นที่เดิมย้ายค่าย และฐานสนับสนุนเดิมแตกกระจาย โอกาสของประชาธิปัตย์ที่จะปักธงในสนามเลือกตั้งเมืองปากน้ำก็มีลุ้นเช่นกัน


