posttoday

กนง. เปิดเกมผ่อนคลายเต็มรูปแบบ ดอกเบี้ยขาลงรับเศรษฐกิจแผ่ว จับตาลดอีกเหลือ 1.0% ต้นปี 2569

21 ธันวาคม 2568

เศรษฐกิจไทยชะลอตัวชัด! กนง. ส่งสัญญาณเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง หลังมติล่าสุดหั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ตามคาด บล.บัวหลวง ประเมินมีโอกาสลดอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 1.0% ในไตรมาส 1/2569

KEY

POINTS

  • เศรษฐกิจไทยชะลอตัวชัด!
  • กนง. ส่งสัญญาณเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง หลังมติล่าสุดหั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ตามคาด
  • บล.บัวหลวง ประเมินมีโอกาสลดอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 1.0% ในไตรมาส 1/2569

กนง. เดินหน้าผ่อนคลายนโยบาย รับมือเศรษฐกิจชะลอ ข้อมูลจากทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า ทิศทางนโยบายการเงินของไทยยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย หลังเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนจากหลายปัจจัย ทั้งแรงกดดันจากภายนอกประเทศและปัจจัยภายใน

โดยประเมินว่า กนง. มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง หรือ 0.25% สู่ระดับ 1.0% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2569

การลดดอกเบี้ยรอบถัดไปมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงิน บรรเทาภาระหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ และช่วยประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐและการลงทุนเอกชนยังไม่กลับมาเต็มที่

มติล่าสุดลดดอกเบี้ยตามคาด เหลือ 1.25%

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.5% เหลือ 1.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดย กนง. เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงด้านลบมากกว่าด้านบวก

การลดดอกเบี้ยในรอบนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ลดภาระหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางอย่างครัวเรือนรายได้น้อยและผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงช่วยเสริมประสิทธิผลของมาตรการเศรษฐกิจด้านอื่นของภาครัฐ

เศรษฐกิจปี 2569 ฟื้นช้า เงินเฟ้อยังต่ำ

กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2569 จะขยายตัวเพียง 1.5% ก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวเป็น 2.3% ในปี 2570 โดยแรงกดดันหลักยังมาจาก

  • การบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตจำกัด จากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า
  • ภาคส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
  • ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลังในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อปี 2569 จะอยู่ที่ 0.3% และเพิ่มขึ้นเป็น 1.0% ในปี 2570 แรงกดดันเงินเฟ้อส่วนใหญ่มาจากฝั่งต้นทุน เช่น ราคาพลังงานและอาหารสด ขณะที่แรงกดดันจากฝั่งการใช้จ่ายยังมีจำกัด สะท้อนเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ

ค่าเงินบาทแข็งกว่าภูมิภาค กนง. จับตาใกล้ชิด

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ กนง. ให้ความสนใจ คือทิศทางค่าเงินบาท ซึ่งแข็งค่ามากกว่าหลายประเทศในภูมิภาค จากการปรับมุมมองดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยเฉพาะของไทย

กนง. ระบุว่าจะยกระดับการติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และพร้อมพิจารณาแนวทางดูแลธุรกรรมที่อาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคส่งออกและเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม

ดอกเบี้ยลด แต่สินเชื่อยังไม่ฟื้น

ทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง มองว่า แม้อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินจะปรับลดลงตามนโยบาย แต่การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนว่าการส่งผ่านนโยบายการเงินผ่านช่องทางสินเชื่อยังทำงานได้จำกัด ปัจจัยกดดันมาจากทั้งสองด้าน ได้แก่

  • ฝั่งผู้กู้ยังชะลอการก่อหนี้และการลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
  • ฝั่งสถาบันการเงินยังระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ จากความเสี่ยงด้านคุณภาพหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้แม้ต้นทุนทางการเงินจะลดลง แต่สินเชื่อไม่สามารถขยายตัวได้เต็มที่ ส่งผลให้ประสิทธิผลของนโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจยังมีข้อจำกัด

มุมมองระยะถัดไป ดอกเบี้ยใกล้จุดต่ำสุดของรอบนี้

ในระยะข้างหน้า ทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ยังคงมุมมองว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 1.0% ในไตรมาสแรกของปี 2569 เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐยังไม่ชัดเจน

อย่างไรก็ดี ด้วยขีดความสามารถของนโยบายการเงินที่เริ่มจำกัด คาดว่าวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินรอบนี้จะสิ้นสุดที่ระดับดังกล่าว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไปจะต้องพึ่งพานโยบายการคลังและโครงสร้างเศรษฐกิจมากขึ้น

รูปแสดงตัวอย่างการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนประจำเดือนธันวาคม 2568

อ้างอิงข้อมูลการจัดสรรสินทรัพย์ จากรายงาน Cross Asset Strategy ประจำเดือนธันวาคม 2568 จากทีม Wealth Research

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด การท่าเรือ พบ ทรู แบงค็อก ช้าง เอฟเอ คัพ วันนี้ 21 ธ.ค.68