กนง. เปิดเกมผ่อนคลายเต็มรูปแบบ ดอกเบี้ยขาลงรับเศรษฐกิจแผ่ว จับตาลดอีกเหลือ 1.0% ต้นปี 2569
เศรษฐกิจไทยชะลอตัวชัด! กนง. ส่งสัญญาณเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง หลังมติล่าสุดหั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ตามคาด บล.บัวหลวง ประเมินมีโอกาสลดอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 1.0% ในไตรมาส 1/2569
KEY
POINTS
- เศรษฐกิจไทยชะลอตัวชัด!
- กนง. ส่งสัญญาณเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง หลังมติล่าสุดหั่นดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ตามคาด
- บล.บัวหลวง ประเมินมีโอกาสลดอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 1.0% ในไตรมาส 1/2569
กนง. เดินหน้าผ่อนคลายนโยบาย รับมือเศรษฐกิจชะลอ ข้อมูลจากทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า ทิศทางนโยบายการเงินของไทยยังคงอยู่ในโหมดผ่อนคลาย หลังเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณชะลอตัวชัดเจนจากหลายปัจจัย ทั้งแรงกดดันจากภายนอกประเทศและปัจจัยภายใน
โดยประเมินว่า กนง. มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง หรือ 0.25% สู่ระดับ 1.0% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2569
การลดดอกเบี้ยรอบถัดไปมีเป้าหมายหลักเพื่อช่วยลดต้นทุนทางการเงิน บรรเทาภาระหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ และช่วยประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐและการลงทุนเอกชนยังไม่กลับมาเต็มที่
มติล่าสุดลดดอกเบี้ยตามคาด เหลือ 1.25%
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.5% เหลือ 1.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดย กนง. เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงด้านลบมากกว่าด้านบวก
การลดดอกเบี้ยในรอบนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ลดภาระหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบางอย่างครัวเรือนรายได้น้อยและผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงช่วยเสริมประสิทธิผลของมาตรการเศรษฐกิจด้านอื่นของภาครัฐ
เศรษฐกิจปี 2569 ฟื้นช้า เงินเฟ้อยังต่ำ
กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2569 จะขยายตัวเพียง 1.5% ก่อนจะค่อยๆฟื้นตัวเป็น 2.3% ในปี 2570 โดยแรงกดดันหลักยังมาจาก
- การบริโภคภาคเอกชนที่เติบโตจำกัด จากรายได้ที่ฟื้นตัวช้า
- ภาคส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
- ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลังในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำ โดยคาดว่าเงินเฟ้อปี 2569 จะอยู่ที่ 0.3% และเพิ่มขึ้นเป็น 1.0% ในปี 2570 แรงกดดันเงินเฟ้อส่วนใหญ่มาจากฝั่งต้นทุน เช่น ราคาพลังงานและอาหารสด ขณะที่แรงกดดันจากฝั่งการใช้จ่ายยังมีจำกัด สะท้อนเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวต่ำกว่าศักยภาพ
ค่าเงินบาทแข็งกว่าภูมิภาค กนง. จับตาใกล้ชิด
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ กนง. ให้ความสนใจ คือทิศทางค่าเงินบาท ซึ่งแข็งค่ามากกว่าหลายประเทศในภูมิภาค จากการปรับมุมมองดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยเฉพาะของไทย
กนง. ระบุว่าจะยกระดับการติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และพร้อมพิจารณาแนวทางดูแลธุรกรรมที่อาจสร้างแรงกดดันต่อค่าเงินบาทอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคส่งออกและเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม
ดอกเบี้ยลด แต่สินเชื่อยังไม่ฟื้น
ทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง มองว่า แม้อัตราดอกเบี้ยในระบบการเงินจะปรับลดลงตามนโยบาย แต่การปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินยังคงหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนว่าการส่งผ่านนโยบายการเงินผ่านช่องทางสินเชื่อยังทำงานได้จำกัด ปัจจัยกดดันมาจากทั้งสองด้าน ได้แก่
- ฝั่งผู้กู้ยังชะลอการก่อหนี้และการลงทุน ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- ฝั่งสถาบันการเงินยังระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ จากความเสี่ยงด้านคุณภาพหนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้แม้ต้นทุนทางการเงินจะลดลง แต่สินเชื่อไม่สามารถขยายตัวได้เต็มที่ ส่งผลให้ประสิทธิผลของนโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจยังมีข้อจำกัด
มุมมองระยะถัดไป ดอกเบี้ยใกล้จุดต่ำสุดของรอบนี้
ในระยะข้างหน้า ทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ยังคงมุมมองว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 1.0% ในไตรมาสแรกของปี 2569 เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่แรงขับเคลื่อนจากภาครัฐยังไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ดี ด้วยขีดความสามารถของนโยบายการเงินที่เริ่มจำกัด คาดว่าวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงินรอบนี้จะสิ้นสุดที่ระดับดังกล่าว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไปจะต้องพึ่งพานโยบายการคลังและโครงสร้างเศรษฐกิจมากขึ้น
รูปแสดงตัวอย่างการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนประจำเดือนธันวาคม 2568


